ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 342 คุณไม่คู่ควร
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 342 คุณไม่คู่ควร
“แล้วครั้งนี้คุณกลับมาทำไม? ไม่เคยโผล่มาให้เห็นตลอดห้าปี อย่าบอกผมว่า เพราะได้ข่าวหมั้นของผม จึงกลับมาแบบไม่กลัวตายนะ?”
ผู้ชายคนนี้พูดถึงประโยคนี้ ดวงตาก็เปี่ยมไปด้วยความสะอิดสะเอียนคล้ายกับอยากจะอ้วก
ตอนนี้เส้นหมี่กำลังกินไข่อยู่พอดี
เมื่อได้ยินประโยคนี้กะทันหัน ไข่ในคอเธอก็กลืนไม่ลงอยู่นาน
ทำไมเขาถึงหลงตัวเองอะไรเบอร์นี้?
ทว่าครุ่นคิดดูแล้วก็ใช่ ตอนที่เขาจับตัวเธอที่โรงพยาบาลเคลียร์ ท่าทางเขาก็เป็นแบบนี้ คิดว่าเธอยังมีใจให้เขาตลอด
หัวใจเส้นหมี่ถูกบีบโดยไม่ทราบสาเหตุอีกครั้ง
“คุณคิดมากแล้ว ฉันแค่มาดูลูก”
“ดูลูก?คุณมาดูพวกเขาทำไม?คุณไม่ได้เลี้ยงพวกเขาโตสักหน่อย เกี่ยวอะไรกับคุณ?”ผู้ชายคนนี้พูดแบบไม่รักษาน้ำใจหนึ่งประโยค
เส้นหมี่“……”
อดทนไว้เถอะตัวเรา เห็นแก่ที่เขาจำอะไรไม่ได้และเห็นแก่หน้าลูกๆ
เส้นหมี่วางช้อนลง จากนั้นก็ยกน้ำอุ่นขึ้นมาดื่มสองคำ เธอรู้สึกสบายคอมากขึ้น จึงกลับไปจ้องผู้ชายคนนี้อย่างจริงจังอีกครั้ง
“แสนรัก ฉันมาเพราะได้ยินว่าคุณจะแต่งงานจริงๆ แต่ไม่ใช่เพื่อคุณ แต่เป็นเพราะลูก”
“คุณว่าอะไรนะ?”
“ฉันบอกว่า คุณแต่งงานก็จะมีชีวิตใหม่ ดังนั้น พวกเราเจรจากันหน่อยได้ไหม?มอบลูกทั้งสองคนให้ฉันดูแลเถอะ?”
“ให้คุณดูแล?”
เมื่อลั่นประโยคนี้ออกมา จากที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก คล้ายกับได้ยินคำตลกอย่างไรอย่างนั้น
“เส้นหมี่ น้ำเข้าสมองหรือไง?กล้าแย่งลูกชายกับผม?”
“……”
ตรรกะแบบนี้ คงไม่มีใครเทียบเทียมแล้วแหล่ะ
เส้นหมี่รีบอธิบาย“ไม่ใช่แบบนี้ ฉันแค่อยากให้ชีวิตแต่งงานของพวกคุณดีขึ้น พวกคุณต้องมีลูกอีกแน่ แต่ก็ต้องหาเวลาดูแลลูกสองคนนี้อีก มันจะเหนื่อยเอา ดังนั้นฉันจึงอยากแบ่งภาระของคุณบ้าง”
เธอพูดอ้อมค้อมและจริงจังมาก
เพราะเธอกลัวพูดจาไม่เข้าหูแล้วจะยั่วโมโหผู้ชายคนนี้ จากนั้นก็ไม่มีสิทธิ์เจรจาต่อรอง
แต่น่าเสียดาย เธออุตส่าห์พูดประนีประนอมถึงขั้นนี้ ทว่าเขาก็ไม่รู้สึกรู้สาเลยสักนิด
“อย่ามาเล่นละครตบตาหน่อยเลย แบ่งภาระอะไรกัน?ถ้าคุณมีความรับผิดชอบจริง ทำไมห้าปีที่ผ่านมาจึงไม่สนใจอะไรเลย?แกล้งเป็น“คนตาย”ตลอด?เส้นหมี่ แสนรักอย่างผม ถึงต่อไปจะมีลูกเยอะแค่ไหน ผมก็จะเลี้ยงดูเอง ไม่ต้องการคนไม่เกี่ยวข้องมาเสแสร้งมีน้ำใจหรอก”
เขาพูดลอดไรฟันออกมาทีละคำ จากนั้นก็เกิดเสียงลุกขึ้นยืนดัง“โครม”
เส้นหมี่หน้าซีดเผือดทันควัน
ต่อไปเขาจะคลอดอีกหลายคน?กับผู้หญิงคนนั้นเหรอ?
หัวใจเธอรู้สึกเจ็บปวดคล้ายกับถูกมีดเฉือน
ทว่าไม่นาน เธอก็โน้มน้าวตัวเอง อย่าไปคิดเรื่องพวกนี้ เป้าหมายที่เธอมาที่นี่เพราะลูกๆต่างหาก
“แสนรัก คุณอย่าทำแบบนี้เลย ฉันยอมรับว่าฉันผิดไปแล้ว คุณให้ฉันพบหน้าลูกๆหน่อยได้ไหม? ฉันไม่ใช่คนไม่เกี่ยวข้องนะ ฉันเป็นแม่ของพวกเขา”
เธอก็ลุกขึ้น รีบตามไปหมายจะดึงตัวผู้ชายไว้
ทว่าเธอพึ่งจะเอื้อมมือ ผู้ชายคนนี้ก็หลบเหมือนหลบโรคติดต่อชนิดหนึ่ง“คุณคู่ควรด้วยเหรอ?ฝันกลางวันมากไปหรือเปล่า!”
เส้นหมี่“……”
เมื่อประโยคนี้ออกมา เขามองใบหน้าเย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารของเขา จากนั้นก็พูดอะไรไม่ออกแม้แต่ครึ่งคำ
ใช่ เธอลืมสนิทไปเลย ตอนนี้เขากลับไปอยู่ในช่วงความทรงจำเดิม นอกจากเรื่องเธอ“แกล้งตาย”ห้าปีแล้ว เธอยังมีภาพลักษณ์อะไรต่อเขาอีก?
เส้นหมี่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้โดยไร้เรี่ยวแรง
หลังจากที่แสนรักไป โรงเลี้ยงสุนัขก็เหลือเพียงเส้นหมี่ที่ถูกขังไว้ และไม่รู้ว่าคนเลี้ยงสุนัขกำชับอะไรเธอหลังจากที่ผู้ชายคนนี้ออกไป?
เริ่มยกอาหารมาเสิร์ฟให้เธอในปริมาณที่เยอะกว่าเดิม
สุดท้ายแล้วเธอต้องกลายเป็นอาหารสุนัขจริงๆหรือ?ตอนนี้แสนรักคิดจะเอาเธอให้ตายอย่างเดียว
เส้นหมี่เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา
สิ่งที่โชคดีก็คือ ประมาณบ่ายสองบ่ายสามของวัน ด้านนอกก็มีเสียงรถมาอีกคัน
“แฮ่ๆๆ”
สุนัขพวกนั้นเห็นรถคันนี้ก็โก่งคอร้องเหมือนตอนเช้า
คนเลี้ยงสุนัขเห็นก็รีบเข้าไป“คุณเป็นใครครับ?ใครให้คุณมาที่นี่ครับ?คุณรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน?”
“รู้ รู้ โรงเลี้ยงสุนัขของแสนรักไง?ฉันจะบอกอะไรนายให้รู้ วันนี้ฉันมาเชือดหมา นายหลีกไป”
คนที่ลงมาจากรถสวมเสื้อผ้าฉูดฉาดคล้ายกับนกยูงตัวหนึ่ง ลงมาแล้วเห็นคนเลี้ยงสุนัข เขาก็รีบไปหยิบไม้เบสบอลมา
คนเลี้ยงสุนัข“……”
กระทั่งเส้นหมี่ที่อยู่ชั้นบนเห็นภาพนี้ ดวงตารูปอัลมอนด์ก็เบิกกว้าง
มาร์ติน?มารผจญคนนี้มาทำอะไรที่นี่?
สุดท้ายคนเลี้ยงสุนัขไม่กล้าขัดขวาง เพราะเขาก็รู้ว่าคนผู้นี้คือหลานชายไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินของตระกูลหิรัญชา
จากนั้นมาร์ตินก็ถือไม้เบสบอลเดินตรงไป ไม่นานก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของสุนัข เส้นหมี่ที่อยู่ชั้นบนกลืนน้ำลายลงคอ เห็นคนเลี้ยงสุนัขรีบวิ่งเข้ามา