ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 368 ตั้งแต่นี้ไป เธอหนีไปจากฝ่ามือเขาไม่พ้นแล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 368 ตั้งแต่นี้ไป เธอหนีไปจากฝ่ามือเขาไม่พ้นแล้ว
“พี่ วันนี้พี่จะให้เขาไปหรือเปล่า?”
ปอร์เช่ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ หลังจากดึงเส้นหมี่ผู้เป็นพี่สาวมาที่ด้านนอก ก็ถามเธออย่างบีบคั้น
เส้นหมี่ตัดสินใจแบบนี้
“ใช่ เดี๋ยวรอเขาฟื้นมา ฉันจะพาเขาไปบริษัทด้วยกัน เขาได้เงินแล้ว ก็จะไป”
“โอเค ผมจะไปส่งรินจังเข้าเรียน แล้วเดี๋ยวซื้ออาหารสักหน่อย รอพี่กลับมากินข้าว”
ปอร์เช่พอใจเสียที จากนั้นก็อุ้มหนูรินจังออกไป
ไม่นานนัก เส้นหมี่กับคณาธิปสองคนก็ออกไปจากบ้านด้วยกัน
แน่นอนว่าคณาธิปอยากอยู่ที่นี่อีกนานหน่อย และยังอยากอยู่ที่นี่เลยด้วยซ้ำ แต่ว่า ท่าทีของผู้หญิงคนนี้เยือกเย็นมาก ไม่ดูอยากจะเจรจากับเขาเลยสักนิด เธอพาเขาออกไป
“วันนี้คุณจะได้รับเงินแล้ว คุณได้แล้ว ก็ไปหาอีริคละกัน เขาจะคิดบัญชีกับคุณ”
“……โอเค”
คณาธิปได้แต่ตอบตกลง
ทั้งสองมาถึงบริษัท เส้นหมี่ก็เปิดคอมเป็นอย่างแรก เตรียมพร้อมสำหรับการขายหุ้นตัดราคาทันทีที่ตลาดหุ้นเปิด
แต่ไม่กี่นาทีถัดมา ที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เมื่อวานก่อนปิดตลาดหุ้นนี้ยังอยู่ในสภาพดีมาก แต่พอเปิด จู่ๆ มันก็ล้มลง!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
สายตาเส้นหมี่เปลี่ยนไป พุ่งออกมาจากห้องทำงานทันที แล้วไปหาอีริค
“คุณอีริค เกิดอะไรขึ้น?หุ้นบริษัทคลาวน์โปรของพวกเขา ทำไมเปิดแล้วถึงล้มระนาวแบบนี้ล่ะคะ?”
“อือ เรื่องนี้ผมรู้แล้ว”
อีริคก็เห็นสถานการณ์นี้แล้ว ดังนั้น เวลานี้เขาดูซีเรียสมาก
ลางสังหรณ์ไม่ดีของเส้นหมี่ก็ขึ้นมาทันที:“งั้นตอนนี้จะทำไงดีคะ?”
อีริคขมวดคิ้ว:“ผมสืบดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น?คุณไปปลอบทนายธิปก่อน ส่วนผมสืบได้ความแล้วจะบอกคุณอีกที”
“……”
จู่ๆ เส้นหมี่ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
ครึ่งชั่วโมงถัดมา ในที่สุดทางด้านอีริคก็ได้ข่าว บอกว่าพวกเขาโดนรายงาน
“รายงาน?ทำไมถึงโดนรายงาน?นี่แค่หุ้นเล็กๆ พวกเราก็ไม่ได้สร้างคาวมปั่นป่วนของตลาดหุ้นมากนัก ทำไมถึงโดนจับจ้องแล้วโดนรายงานได้?”
เส้นหมี่ได้ยินคำตอบนี้ ก็ไม่อาจเข้าใจได้
อีริคก็รู้สึกคาดไม่ถึง
แต่ว่า ในเมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นแล้ว เขาก็ได้แต่แก้ไข
ดังนั้นวันนี้ เส้นหมี่ก็ไม่ได้ทำอะไรอีก เอาแต่ทำเรื่องนี้ตลอด และพอตอนเย็นเลิกงาน เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นจำเป็นต้องพาคณาธิปกลับมา
ปอร์เช่เห็น แทยจะใช้คำว่าแช่แข็งนี้มาบรรยายเขาในตอนนี้ได้เลย
“เอ่อ……พอดีเกิดเรื่องไม่คาดคิด นายวางใจเถอะ เขาจะอยู่แค่คืนนี้ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ฉันจะช่วยเขาจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อย จากนั้นให้เขาไป โอเคไหม?”
เส้นหมี่เห็นเขามีท่าทีแบบนี้ จึงได้แต่ปลอบไปอย่างระมัดระวัง
ปอร์เช่มองดูอย่างเย็นชา จนสุดท้าย ก็ได้แต่พูดทิ้งท้ายให้เธอว่า:“โอเค งั้นผมก็จะดูว่าพรุ่งนี้พี่จะไปส่งเขาได้ไหม?”
จากนั้นเขาก็พารินจังที่อารมณ์ไม่ดีเช่นกันกลับไปที่ห้อง
เส้นหมี่:“……”
“ไม่งั้น……ผมไปพักโรงแรมดีกว่า?คุณจะได้ไม่ลำบากใจ”
และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ คณาธิปยืนอยู่ข้างหลังเธอ เห็นปอร์เช่กับรินจังปฏิเสธเขาขนาดนี้ ก็เสนอตัวว่าตัวเองจะออกไป
เส้นหมี่ขมวดคิ้ว
เพียงชั่วเดียว เธออยากตอบตกลงจริงๆ
แต่หัวใจของเธอ สุดท้ายก็ยังเมตตา มองสีท้องฟ้าด้านนอกที่มืดลงแล้ว เธอก็โบกมือ:“ไม่ต้อง แค่เด็กๆ น่ะ คุณอย่าถือสาพวกเขาเลย”
จากนั้นเธอก็ไปทำอาหาร
เส้นหมี่ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องนี้จริงๆ เพราะเธอเชื่อวิธีการของบริษัทอีริค และก็เชื่อความสามารถของตัวเอง
พรุ่งนี้ เรื่องนี้จะต้องได้รับการแก้ไขแน่
แต่วันถัดมา เธอก็ยังถูกตบหน้า
“สืบแล้ว บริษัทที่ฟ้องบริษัทคลาวน์โปรนั่นแหละร้องเรียน พวกเขาน่าจะรู้ความสัมพันธ์ของทนายธิปกับพวกเรา ดังนั้นเมื่อวานตอนที่คุณปล่อยหุ้น พวกเขาก็จับตาดู”
“งั้น……งั้นจะทำอย่างไร?”
เส้นหมี่ได้ยินข่าวนี้ ก็แทบจะสูญเสียความอดทนทั้งหมด ……
อีริคยักไหล่:“หมดหนทาง ได้แต่ทำตามขั้นตอน ยังดีที่ตอนคุณควบคุม ไม่มากเกินไปขนาดนั้น คณะกรรมการกำกับกิจการธนาคารคงตรวจสอบเล็กน้อยแล้วก็ปล่อยออกมาได้”
“นานแค่ไหน?”
“หนึ่งสัปดาห์มั้ง”สุดท้ายอีริคก็ให้เวลา
ห่า!
เส้นหมี่ได้ยิน ก็อยากจะด่า
แค่ว่าดีที่ คณาธิปก็คิดเป็น ได้ยินว่านานมากขนาดนี้ เขาจึงจองโรงแรมเอง แล้วบอกว่ามีอะไรจะมาหาเส้นหมี่
เส้นหมี่จึงโล่งอก
ตอนที่เลิกงานกลับบ้าน เพื่อเอาใจเด็กสองคนนั้น เธอยังตั้งใจซื้อขนมหวานจากข้างนอกกลับมาด้วย
“เอ๋?ลูกรัก ทำไมลูกมาเล่นที่นี่คนเดียวล่ะ?คุณลุงล่ะ?”
“ไม่รู้ค่ะ……”
หนูรินจังที่เพิ่งโทรศัพท์หาพี่ชายเสร็จ ก็เล่นของเล่นในมืออย่างหงอยๆ แม้แต่หม่ามี๊ก็ไม่อยากจะสนใจ
พี่บอกแล้วว่า พวกเขาเตือนแด๊ดดี้อย่างแอบๆ และเปิดเผยไปหลายครั้งแล้ว แต่ว่าแด๊ดดี้ก็ยังไม่ตอบสนองใดๆ พูดมากไป เขาก็ดุพวกเขา ให้พวกเขาต่อไปอย่าพูดถึงหม่ามี๊คนนี้อีก