ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 369 เธอเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดของเธอไปแล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 369 เธอเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดของเธอไปแล้ว
ใช่ แด๊ดดี้จำวันเวลาที่เขาเคยใช้กับหม่ามี๊ไม่ได้แล้ว แล้วจะอยากได้ยินชื่อของหม่ามี๊ได้ไงล่ะ?
เบ้าตาโตๆ ของหนูรินจังก็แดงก่ำ
เส้นหมี่เห็น ก็คิดว่าเด็กคนนี้ได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจอะไรตอนกลางวันที่โรงเรียนอนุบาลเข้า จึงรีบคุกเข่าลง:“เป็นอะไร?ลูกรัก มีอะไรไม่มีความสุขหรือจ๊ะ?”
“เปล่าค่ะ แค่……แค่คิดถึงพี่ หม่ามี๊ แด๊ดดี้ไม่ต้องการพวกเราแล้วจริงๆ หรือคะ?”
เด็กสาวมองหม่ามี๊ทั้งน้ำตา
เส้นหมี่ตกใจ
ราวกับมีมีดแทงเข้ามาอย่างกะทันหัน เธอไม่ทันป้องกัน ความเจ็บปวดเหล่านั้นที่เธอคิดว่าตัวเองลืมไปแล้ว ก็เหมือนกระแสน้ำที่แพร่กระจายในหัวใจเธอ
เด็กตัวกลมคนนี้แอบโทรหาพี่ชายทั้งสองคนลับหลังเธอ ที่จริงแล้ว เธอรู้
เธอไม่เปิดเผยเธอ เพราะว่าไม่อยากให้พวกเขาสามคนพี่น้องรู้สึกห่างเหินกัน ยังติดต่อกันได้บ่อยๆ และอีกอย่างหนึ่ง ไม่มากก็น้อยไป ที่จริงเธอก็อยากรู้เรื่องบางอย่างที่นั่น ผ่านทางโทรศัพท์ของเธอด้วย
แต่ว่า จู่ๆ เด็กคนนี้มาถามแบบนี้?
มันแสดงถึงอะไร?
เส้นหมี่อุ้มเธอขึ้นมา แล้วกอดไว้ในอ้อมแขน สักพัก เธอก็ได้ยินตัวเองพูดว่า:“ไม่มีทาง แด๊ดดี้กับพี่จะไม่ต้องการลูกได้ไงล่ะ?พวกเขาแค่ยุ่งไปหน่อย”
“แต่ว่า แด๊ดดี้ไม่พูดถึงรินจังแล้ว เขาอยู่กับน้าแครอททุกวัน ไม่ต้องการลูกรักคนเล็กของเขาแล้ว”
เด็กคนนี้ ไร้เดียงสาจริงๆ เพียงไม่กี่ประโยค ก็พูดสิ่งที่เธอรู้มา โดยไม่ป้องกันเลย
เส้นหมี่ก็เสียใจอีกครั้ง
ดูเหมือน สถานการณ์ทางด้านนั้นจะทำให้เด็กคนนี้เสียใจเข้าแล้ว
อยู่กับน้าแครอททุกวัน?
ลืมโดยสิ้นเชิงจริงๆ หรือ?
เส้นหมี่กอดลูกไว้ จิตใจนั้นเยือกเย็น เธอนึกถึงวันนั้นที่หน้าประตูคฤหาสน์หลังเก่า ผู้หญิงที่ชื่อแครอทคนนี้ ตะโกนออกมาใส่เธอ
ตอนนั้นเธอบอกว่า ผู้ชายคนนั้นไม่ลืมเธอเส้นหมี่เลยแม้แต่น้อย
เธอไม่เชื่อ
แต่ตอนนี้มาคิดๆ ดู ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีร่องรอย
เช่นเขาเอาแต่พูดว่าจะเอาเธอไปให้สุนัขกิน แต่ว่า ในฟาร์มสุนัขกลับไม่ทำอะไรเธอ แต่ยังเลี้ยงเธออย่างอยู่ดีกินดี
และก็ วันนั้นที่ไนต์คลับแม่มดสีฟ้า เขาก็แค่จับตาดูเกมเมอร์จริงๆ ถึงได้ปรากฏตัวในเวลานั้นหรือ?บังเอิญขนาดนั้นเลย?
และก็ ต่อมาเขายังแบกเธอ และตอนอยู่ที่โรงแรม ก็ยังจัดการให้เธออย่างละเอียดและเอาใจใส่
เส้นหมี่ครุ่นคิด……
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่าแม้แต่ลมหายใจก็เหมือนจะหายใจไม่ออกเพราะความเจ็บปวด
“ไม่เป็นไร รอตอนที่ลูกรักของแม่ฉลองวันเกิด หม่ามี๊จะพาหนูไปหาพวกเขาเอง”ในที่สุดก็เหมือนเธอตัดสินใจ เดินหน้าต่อไป
“จริงหรือคะ?”
หนูรินจังก็ไม่ร้องไห้อีก ดวงตาโตๆ สีแดงคู่นั้น ก็มองหม่ามี๊ด้วยความปีติ
เยี่ยมไปเลย!
จู่ๆ หม่ามี๊ตกลงว่าจะพาเธอกลับไป งั้นเธอต้องรีบเอาข่าวนี้ไปบอกพวกพี่ๆ แล้ว
ในที่สุดเด็กสาวก็เลิกงอแง เส้นหมี่จึงไปทำอาหารที่ครัว
ไม่กี่นาทีถัดมา สองคนฝาแฝดที่อยู่ไกลถึงเมืองAในประเทศ ก็ได้รับสายของน้องสาวจริงๆ
“น้องจะบอกว่า หม่ามี๊จะมาตอนวันเกิดพวกเราหรือ?”
“ใช่ หม่ามี๊เพิ่งบอกกับหนูนะ เธอบอกว่าจะพาหนูไปเจอพวกพี่ พวกพี่มีความสุขไหม?”เด็กสาวถามในสายด้วยเสียงนุ่มนิ่ม
มีความสุข!
จะไม่มีความสุขได้อย่างไรล่ะ?
ก็แค่ อาการของแด๊ดดี้ตอนนี้ ถึงพวกเขามา สองคนพี่น้องก็เป็นห่วงว่าจะได้เจอพวกเธอหรือเปล่า?
เพราะว่า หลายวันมานี้ ตอนที่พวกเขาพูดถึงหม่ามี๊ แด๊ดดี้ก็เหมือนจะยิ่งโกรธ เริ่มสั่งให้พวกเขาหยุดพูดว่า“หม่ามี๊”สองคำนี้ข้างในบ้าน
“เฮ้อ……”
คิวคิววางสายนาฬิกาโทรศัพท์ มองไปด้านนอกหน้าต่างที่ข้างนอกเพิ่งสว่างแล้วถอนหายใจอยู่บนเตียง
ในประเทศกับเมืองM เวลาต่างกัน ดังนั้น น้องสาวโทรมาเวลานี้ ทางด้านพวกเราก็เช้าตรู่พอดี
ชินจังก็ตื่นเพราะเสียงดัง พอได้ยินเสียงถอนหายใจของน้องชาย เขาก็มองมาทางนี้ ด้วยดวงตาที่สวยงามเหมือนกับดวงดาวในแสงสลัวคู่นั้น
“ทำไมหรือ?”
“น้องสาวบอกว่าหม่ามี๊จะพาเธอมา ในวันเกิดพวกเรา”
“แล้วไม่ดีหรือ?”ใบหน้าเล็กๆ ชิคๆ ของชินจัง ปรากฏความแปลกใจเล็กน้อย
แต่คิวคิวยังคงถอนหายใจยาวๆ
“ดีน่ะดี แต่นายไม่เห็นอารมณ์ของแด๊ดดี้สองสามวันนี้หรือ?ไม่ให้พวกเราพูดถึงหม่ามี๊เลย ถ้าหม่ามี๊มาจริงๆ เขาจะยอมให้เธอมาดูพวกเราไหม?”
“ฉันพูดกับเขาเอง”
ชินจังพูดประโยคนี้อย่างตรงไปตรงมา
เด็กคนนี้ ในบางด้าน ที่จริงแล้วเหมือนแสนรักมาก ถ้าเขาอยากทำเรื่องๆ หนึ่ง ก็ไม่มีใครห้ามเขาได้จริงๆ
ดังนั้นเช้าวันนี้ ตอนที่แสนรักจะไปส่งพวกเขาสองคนที่โรงเรียนอนุบาล ชินจังที่แบกหนังสือเรียนใบเล็กๆ ก็ยืนตรงหน้าแด๊ดดี้อย่างจริงจัง
“แด๊ดดี้ ผมจะพูดกับแด๊ดดี้เรื่องหนึ่ง”
“หือ?”
แสนรักกลับชินกับวิธีการพูดของลูกชายคนโต เพราะยังไง เขาก็เป็นคนเลี้ยงมา
ชินจังยืนอยู่ตรงหน้าแด๊ดดี้ที่ตัวสูงตรง เงยหน้าเล็กๆ ขึ้นแล้วพูดการตัดสินใจของตัวเองออกไปทีละคำ:“ผมคุยกับหม่ามี๊แล้ว หม่ามี๊บอกว่า ในวันเกิดพวกเรา จะพาน้องสาวมารวมตัวกับพวกเรา”