ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 408 เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่เธอลืมเขา
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 408 เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่เธอลืมเขา
หลายนาทีต่อจากนั้น รถหลายคันก็รีบเข้าไปในโรงพยาบาล
และเมื่อตำรวจได้ยินข่าวก็รีบส่งคนไปตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สามารถนอนอยู่บนเตียงได้ห้าวันโดยที่ไม่ขยับ แต่ยังหายใจ
เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก
ศาสตราจารย์และบุคลากรที่สำคัญในโรงพยาบาลทั้งหมดต่างเข้ามาตรวจ เคมีอยากดึงบอสของเขาออกมาก่อน จะได้ไม่รบกวนการตรวจของแพทย์
แต่เมื่อเขาสัมผัสโดนตัวเขา แสนรักก็เซทันที
“ท่านประธาน ไม่เป็นไรใช่ไหม”
เคมีตกใจ รีบพยุงเขาทันที
เขาไม่เคยเห็นเขาเป็นอย่างนี้มาก่อน เขาเป็นประธานที่สง่างามของหิรัญชากรุ๊ป ไม่เคยมีอะไรทำให้เขาขมวดคิ้วได้ เขากลัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
แม้แต่ยืนก็ยังไม่เสถียร!
เคมีล้มเลิกความคิดที่จะพาเขาออกไป
หลังจากนั้นสิบนาที ในที่สุดเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ก็สามารถตรวจสอบเจอว่าทำไมเส้นหมี่ถึงยังนอนไม่ขยับอยู่บนเตียง
“คุณแสนรัก ภรรยาของคุณน่าจะถูกสะกดจิต”
“อะไรนะ”
ราวกับมีฟ้าผ่าลงมา แสนรักมองหมอด้วยความตกตะลึง สีหน้าขาวราวกับกระดาษ
หมอพยักหน้า “ไม่ผิดครับ เป็นเพราะเหตุนี้จริงๆ คนที่สะกดจิตเธอน่าจะเป็นคนที่มีวิชาเข้มแข็งมาก ถึงทำให้เธอนอนนิ่งได้ห้าวันโดยไม่ขยับ”
แสนรัก “…”
เขาหาเสียงตัวเองไม่เจอแล้ว ได้แต่ยืนอยู่กับที่ ในหูอื้ออึง และเดินถอยหลังไปหลายก้าว
“ท่านประธาน…” เมื่อเคมีเห็นอาการของเขา ก็รีบเข้ามาพยุง
แต่ครั้งนี้ เขาไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป ตัวเขาสั่งอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะ “ตุ้บ”
ล้มตัวนั่งลงบนเตียงข้างหลังเขา
สะกดจิต แถมยังเป็นการสะกดจิตอย่างลึกๆ…
นอกจากแครอทแล้วจะมีใครได้อีก
ทำไมต้องสะกดจิตเธอ เธอคิดจะทำอะไร เธอทำอะไรกับเธอกันแน่
ทำเหมือนที่ทำกับเขาหรือเปล่า ลบความทรงจำของเธอ
ร่างของแสนรักสั่นไปหมด ตอนนี้เขานั่งบนเตียงสีขาว ด้วยความโกรธและความกลัวของเขา ทำให้เขาสามารถได้ยินเสียงเลือดเนื้อที่แตกสลายในร่างกายของเขาได้อย่างชัดเจน
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่เธอลืมเขา
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาชินแล้วที่จะให้เธอวิ่งตามเขา เรากับลูกไล่ที่สลัดยังไงก็สลัดไม่พ้น ไม่ว่าเขาจะเกลียดเธอขนาดไหน
เธอก็ยังคงอยู่ตรงนั้น
แต่ตอนนี้มีคนมาบอกเขาว่า เธออาจจะลืมเขาแล้ว
จำไม่ได้ว่าเขาจะเป็นยังไง
ทันใดนั้นใบหน้าอำมหิตที่เคยหายไปจากโลกของเขาก็ปรากฏขึ้นมาในสมองของเขาอีกครั้งอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้แต่สายตาของเขาก็กลายเป็นมืดมน
“ท่านประธาน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
เคมีเห็นความผิดปกติจึงถามอย่างเป็นห่วง
แสนรักดับอารมณ์นานมากกว่าจะกลับมาเป็นปกติ
ไม่เป็นไร
เขาตอบ
จากนั้นดวงตาของเขาก็จ้องเพียงเตียงคนไข้ฝั่งตรงข้ามโดยไม่ขยับเป็นเวลานาน
…
ประมาณบ่ายสามโมงกว่า แครอทก็เห็นดลธีมาหาเธอที่หน้าประตู
การเคลื่อนไหวของแสนรักเร็วมาก
ดลธีพูดอย่างเย็นชา “คุณแครอท ท่านประธานให้ผมพาพ่อของคุณไปในเมือง”
สีหน้าของแครอทเปลี่ยนไปทันที
“พาพ่อของฉันไป เกี่ยวอะไรกับพ่อของฉัน”
“เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้ ผมแค่ทำตามคำสั่ง คุณแครอทรีบพาพ่อของคุณออกมาเถอะ ท่านประธานไม่มีเวลามารอคุณมากๆ”
ประโยคสุดท้ายดลธีเริ่มพูดอย่างไม่ให้เกียรติ
สีหน้าของแครอทเปลี่ยนเป็นสีขาวอีกครั้ง ครั้งนี้เธอไม่กล้าพูดอะไรแล้ว
ตอนที่เธอทำสิ่งนี้ เธอไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา เธอเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง เธอเป็นลูกสาวคนเดียวในตระกูลลัดดาวัลย์ ทุกคนต่างรักและเอาใจเธอ
จะมีใครกล้ามาควบคุมเธอ
และเมื่อไปอยู่ตระกูลหิรัญชา คุณท่านก็ชอบเธอ แสนรักก็เป็นคนไข้ของเธอ เธอรักสาเขามาตั้งแต่ตอนสิบขวบ
เธอจึงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
ดังนั้นครั้งนี้เธอจึงไม่คิดถึงผลที่จะตามมา
อรรตพลออกมาเห็นดลธีหน้าประตูก็ตกตะลึงทันที “เกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆทำไมประธานของนายถึงให้มาพาฉันเข้าไปในเมือง”
ดลธี “คุณอรรตพล ตอนที่คุณเส้นหมี่ไปทำธุรกิจในเมือง ถูกลูกสาวของคุณสะกดจิต ตอนนี้ยังไม่ฟื้น ท่านประธานหวังว่าคุณจะรีบไป ถ้าไม่เป็นไรก็ดีไป แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณเส้นหมี่ ทำให้เด็กสามคนไม่มีแม่ ท่านประธานก็กลัวว่าจะพูดกันดีๆไม่ได้”
“แก…”
เมื่ออรรตพลได้ฟัง เขาก็แทบจะตบลูกสาวด้วยความโกรธ!
ยัยสวะนี่ วันๆมัวทำแต่อะไร
สีหน้าของอรรตพลซีดเผือดด้วยความโกรธ
แต่สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ที่จะดึงหูเธอ และตามดลธีไป
แครอทมองรถด้วยสีหน้าซีดเผือด “ฉันทำไม ฉันทำอะไรผิด ผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ตามรังควานเขา ฉันก็แค่ทำตามที่เขาต้องการ ฉันทำอะไรผิด”
เธอยังไม่รู้ตัวว่าทำผิดแล้ว…