ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 430 โลกกลมจริงๆ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 430 โลกกลมจริงๆ
“คุณคือ……?”
“ฉันนึกว่าเธอจะเก่งแค่ไหนเชียว หนีไปแล้ว สุดท้ายจบลงด้วยสภาพนี้?เส้นหมี่ เธอทำให้ฉันเปลี่ยนมุมมองใหม่จริงๆ”
ในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็หันหน้ามา ภายใต้ไฟที่ส่องมาจนแสบตาของรถจักรยานยนต์ จึงไม่อาจมองเห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจนในเงามืดได้
แต่ว่า เส้นหมี่ที่อยู่ด้านล่าง แค่เห็นเสื้อและกางเกงหนังที่ดูเกินจริงบนตัวเธอ และเสียงเยาะเย้ยถากถางเช่นนี้ เธอก็มั่นใจอย่างเต็มที่
แสงดาว คิดไม่ถึงว่า จู่ๆ จะมาเจอเธอที่นี่ได้
“……พี่ ทำ……ทำไมพี่ถึงอยู่นี่น่ะ?”
“ใครพี่เธอ?ไว้หน้าเธอแล้วหรือ?ถึงทำให้เธอกล้าเรียกฉันแบบนี้?”
แสงดาวใจร้ายกาจเหมือนเคย อาจเป็นเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ ทุกคำที่เธอพูดนั้นกัดฟันแน่นมาก ดูคล้ายกับว่าเกลียดชังเส้นหมี่สุดๆ
เส้นหมี่อยู่ด้านล่างไม่ส่งเสียงใดๆ
ก็จริง จากความบาดหมางของพวกเธอสองคนแล้วนั้น เธอไม่ควรเรียกเธอว่าพี่สาวเลย และก็ไม่อยากเรียกด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอเห็นเธอในเวลานี้ ก็รู้สึกสบายใจ
“เธอเป็นอะไรกับไอ้ลูกกะหรี่นั่นกันแน่?ทำไมเขาถึงต้องการตัวเธอ?”
ดึงเส้นหมี่ขึ้นมาจากด้านล่างแล้ว ก็เหมือนเป็นเศษผ้าที่ถูกโยนขึ้นไปบนรถมอเตอร์ไซค์ แสงดาวถามด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย
ลูกกะหรี่?
เธอหมายถึงคณาธิปหรือ?งั้นแบบนี้แสดงว่า เธอก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลหิรัญชาแล้ว?
เส้นหมี่คว้าเอวเธอไว้อย่างสุดแรง ไม่ให้ตัวเองถูกเหวี่ยงออกจากมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างคนบ้า
“ฉันช่วยน้องชายพี่ที่ตึกเอ็มไพร์ไว้ จากนั้นก็ถูกเขาจับมาที่นี่”
“อะไรนะ?”
คำนี้ แสงดาวที่กำลังขับรถอยู่มักจะมีอาการเช่นนั้นบนใบหน้า
ที่แท้ก็ถูกจับเพราะช่วยน้องชายเธอ?
คิดว่าเธอเล่นชู้เสียอีก!
แสงดาวไม่ได้ถามต่อ เธอขี่มอเตอร์ไซค์กลับไปยังที่พักของตัวเองอย่างปลอดภัย
เรียกได้ว่า บางครั้งวาสนาก็บังเอิญเช่นนี้แหละ
ตอนนั้น เพราะว่าแสงดาวใส่ร้ายเส้นหมี่ ฆ่าคนต่อหน้าสาธารณะในโรงพยาบาล สุดท้ายทำให้แสนรักทนเธอไม่ไหวแล้วส่งมายังเกาะนี้
คิดไม่ถึงว่า วันนี้จะเจอเส้นหมี่ได้
คณาธิปไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้น เช้าวันที่สอง ตอนเขารู้ว่าเส้นหมี่ที่หนีออกไป สุดท้ายถูกแสงดาวช่วยกลับไป เขาก็รู้สึกว่าเรื่องราวยากขึ้นจริงๆ
แสงดาว เป็นคนบ้าคนที่สองแห่งตระกูลหิรัญชา
และ ความบ้าของเธอ ก็บ้าจริงๆ!
“คุณผู้ชายครับ งั้นตอนนี้จะทำไงดี?พวกเราจะไปหาคุณหนูใหญ่ตระกูลหิรัญชาไหมครับ?ผมได้ยินว่าเธอมีนิสัยร้ายกาจไม่มีเหตุผล และยังโหดเหี้ยมด้วย หากเราไปจะได้เธอมาไหม?”
ผู้ช่วยของคณาธิปก็กังวลเรื่องนี้เช่นกัน
สีหน้าคณาธิปยิ่งดูแย่
ที่จริงเขาไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนี้ ที่เขาห่วงกว่านั้น ก็คือแสงดาวนี่จะเอาเรื่องนี้บอกน้องชายเธอหรือยัง?
คณาธิปทุบไปที่โต๊ะแรงๆ
สองวันถัดมา ในทาวน์เฮาส์หลังหนึ่งบนเกาะ เส้นหมี่ที่หิวโหยอยู่ขังอยู่ในห้องหนึ่ง มองดูหญิงสาวที่กำลังดื่มด่ำกับอาหารอร่อยๆ อย่างสบายๆ ด้านนอกอย่างหมดหนทาง
“แสงดาว ข้อร้องล่ะ ให้ฉันกินอะไรหน่อยเถอะ ฉัน……ฉันแทบจะทนไม่ไหวแล้ว”
“ได้สิ เธอคลานเหมือนหมาละกัน ก้มหัวตรงหน้าฉันสามที ฉันจะให้เธอกิน”
แสงดาวกินอย่างสบายๆไป ก็ตอบคำถามเธอไปด้วย
เส้นหมี่ที่ถูกขังอยู่ด้านใน จนใบหน้ามีแต่ซีดขาวได้ยิน ทันใดนั้น ก็โกรธจนจนน้ำไหลลงมาจากดวงตาที่แดงก่ำด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
นี่ก็คือสองวันนี้ของเธอ
หลังจากวันนั้นเธอถูกพากลับมา เธอก็คิดว่า แสงดาวจะบอกน้องชายของเธอทันที ให้เขามารับเธอ
แต่ว่า เธอคิดผิดไป สองวันนี้ คณาธิปไม่กล้ามา ส่วนแสนรักก็ไม่ได้มาด้วย
หลังจากผู้หญิงคนนี้พาเธอกลับมา จู่ๆ ก็กักขังเธอ ไม่ได้แจ้งน้องชายเธอก็ว่าไปอย่างแล้ว เธอยังไม่ให้เธอดื่มน้ำ ไม่ให้กินอีก และก็บังคับให้เธอขอร้องเธออย่างน่าละอายครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอคิดจะทำอะไรกันแน่?
เพราะความแค้นในตอนนั้นหรือ?
เส้นหมี่กลั้นน้ำตาในดวงตาไว้:“แสงดาว ทำไมเธอต้องทำแบบนี้ด้วย?ถ้าเกลียดฉันจริงๆ เธอฆ่าฉันได้เลยนะ”
“ไม่ๆๆ ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก ทำไมฉันต้องฆ่าเธอล่ะ?ฉันค่อยๆ ทรมานเธอไม่ดีกว่าหรือ?ฉันอยากจะเห็นเธอคุกเข่าขอร้องตรงหน้าฉันทุกวัน และฉันก็จะเหยียบเธอไว้ใต้เท้า มองดูหัวเธอที่แสนจะเย่อหยิ่งอยู่ตรงหน้าฉันเหมือนหมาตัวหนึ่ง เส้นหมี่ นี่ต่างหากความสุขของฉัน เธอรู้เปล่า?”
“เธอ——”
เส้นหมี่ตัวสั่นด้วยความโกรธ
แต่ว่า เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงบ้าระห่ำคนนี้ เธอก็พูดไม่ออกจริงๆ
เพราะว่า บางครั้งเธอก็บ้าคลั่งสุดขีด
สุดท้ายเส้นหมี่ก็ไม่ได้คลาน เธอเลือกทำอย่างสองวันนี้ ทนอยู่ข้างในห้อง จนสุดท้าย สติก็เริ่มเลื่อนลอย
“ผู้หญิงคนนี้ ทำไมถึงได้ดื้อแบบนี้?พูดกับเธอดีๆ จะตายหรือไง?ถึงได้ทำตัวเองเป็นแบบนี้”
ช่วงสะลึมสะลือ ก็มีคนมาในห้องของเธออีก จากนั้นถือโอกาสที่แสงดาวไม่ทันสังเกต โยนน้ำขวดหนึ่งให้ และก็ขนมปังสองสามก้อน
เส้นหมี่ได้ยินเสียง จึงพยายามลืมตาคู่นั้นขึ้นมา
สักพัก หลังจากเธอเห็นสิ่งของเหล่านี้ ก็กระโดดลงมาจากรถเข็นทันทีดัง“ตุบ”ทันที แล้วหยิบพวกมันขึ้นมากิน