ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 454 ลงโทษด้วยวิธีฆ่าหั่นศพนี้……
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 454 ลงโทษด้วยวิธีฆ่าหั่นศพนี้……
เส้นหมี่เริ่มโกรธหน่อยๆ แล้ว
เพราะเธอคิดได้ว่า ผู้ชายคนนี้รู้ว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะมาสถานที่แบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังหนีมา
นี่เขาจะทำอะไร?
อยากทรมานตัวเองตายหรือไง?
เส้นหมี่มาที่ครัว เริ่มคิดหาทางเตรียมอาหารเช้าของคนๆ นี้กับลูกทั้งสามคน
ที่โชคดีคือ หมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขานี้ ถึงแม้ไม่มีวัตถุมากมายอย่างเมืองใหญ่ แต่สิ่งของของพวกเขาล้วนมาจากธรรมชาติ และผ่านการทำอย่างพิถีพิถันของเส้นหมี่
ของที่เสิร์ฟออกมา จึงมีรสชาติดีมากเช่นกัน
“ว้าว หม่ามี๊ กลมๆ นี้คืออะไรหรือ?พิซซ่าหรือเปล่า?”
“ใช่จ้ะ หม่ามี๊เอาแป้งไปย่างในหม้อออกมา ส่วนด้านบนใส่ชีสกับเบคอนที่พวกลูกชอบกินมากที่สุด และก็น้ำมะเขือเทศ อร่อยมาก”
เส้นหมี่แนะนำให้เด็กๆ อย่างอดทน
ที่จริงแล้วชีสนั้นหมักด้วยนม เธอจึงใช้นมที่ชาวนาเพิ่งบีบออกมา ทำเป็นก้อนนมสด
ส่วนเบคอน ก็คือเบคอนแห้ง มีอยู่ถมไปที่นี่
ส่วนน้ำมะเขือเทศ ก็ง่ายสุดๆ ตอนนี้เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวของชาวนา เธอให้คุณป้า่คนนี้ไปเก็บผักที่สวนผัก
สดสุดๆ
พวกเด็กๆ ได้ยินเธอแนะนำแบบนี้ ก็อยากอาหารสุดๆ
ทันใดนั้น มือเล็กๆ แต่ละมือก็ถือ“พิซซ่า”หอมๆ ที่ทำเองนี้ไว้ แล้วกินไปคำใหญ่ กับโจ๊กที่หอมหวานของที่นี่
เส้นหมี่ยังทำเครปเค้กอีกอย่างด้วย เอาข้าวสารสีขาวมาบดเป็นผง แล้วใส่เกาลัด พุทราจีน ถั่วลิสงเป็นต้น โรยพวกมันไปด้านบนทีละชั้น จากนั้นเอาไปนึ่งในหม้อ
ตอนที่เอาออกมาเสิร์ฟ แม้แต่สองสามีภรรยาคู่นี้ก็ยังมองจนตาค้าง
“สาวน้อย ฝีมือหนูนี่ดีมากเลย สิ่งของจากบ้านเรา หนูก็ยังทำของออกมาได้อร่อยขนาดนี้”
“ไม่หรอกค่ะ พวกนี้ง่ายมากเลย สอนครั้งเดียวพวกคุณก็ทำเป็นแล้ว”
เส้นหมี่ยิ้มอย่างถ่อมตัว แล้วทานมข้นที่เธอทำเองลงบนเครปเค้กนี้ต่อ
เธอมีฝีมือจริงๆ
นั่นเพราะว่า ห้าปีนั้นที่เมืองเคลียร์ เพื่อลูกทั้งสองคนแล้ว จึงฝึกฝนตัวเองให้มีความสามารถ
ในที่สุดอาหารเช้าก็เตรียมเสร็จแล้ว เส้นหมี่จะขึ้นไปข้างบนเพื่อเรียกเขา
ยังประหม่าเล็กน้อย ตอนที่เธอยืนอยู่หน้าบันได เพราะยังไง เมื่อคืนที่ทั้งสองเจอกัน ผู้ชายคนนี้ยังไม่มีสติดีนัก เรียกว่าเจอหน้ากันอย่างแท้จริงก็คงไม่ใช่
เส้นหมี่หายใจเข้าลึกๆ
แล้วขึ้นไปบันไดทีละก้าว
“แอ๊ด——”
ตอนที่ประตูห้องถูกผลักออก แสงแดดยามเช้าส่องผ่านร่างเธอเข้ามา ในที่สุดเธอก็เห็นของตกแต่งในห้องอย่างชัดเจน
เรียบง่ายมาก
ห้องใต้หลังคาที่ปูด้วยแผ่นไม้ โต๊ะไม้แบบโบราณ ม้านั่งยาวที่เต็มไปด้วยความขรุขระ และยังวางอยู่ที่เตียงนั้นตรงหัวมุม ดูเหมือนจะเป็นทั้งหมดในนี้ด้วย
มองดูแล้วปวดใจมาก
เขาอยู่สถานที่แบบนี้ได้ไง?และยังอยู่นานด้วย?
ในใจเส้นหมี่ยิ่งรู้สึกเศร้า จับขอบประตูเข้ามา เธอมองไปยังเตียงที่คลุมด้วยมุ้ง:“แสนรัก?คุณตื่นหรือยัง?กินข้าวเช้าแล้ว”
เธอไม่ได้เดินไปที่ข้างเตียงนี้
เพราะว่าตอนนี้เธอเดินไม่ค่อยสะดวกจริงๆ
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ เธอเรียกอยู่หลายครั้ง คนในมุ้งนี้ ก็ไม่ขยับเลยสักนิด
หรือว่า เขายังไม่ตื่น?
เส้นหมี่นึกถึงเข็มเหล่านั้นที่ตัวเองแทงไปเมื่อคืน สุดท้ายก็ตัดสินใจไปดู
สุดท้าย ที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ ตอนเธอมาถึงข้างเตียงอย่างยากลำบาก เปิดมุ้งออกดันพบว่าในนั้นไม่มีใคร!
เขาล่ะ?
สีหน้าเธอเปลี่ยนไป มองไปด้านนอกทันที:“แสนรัก?แสนรัก——”
เธอเรียกชื่อนี้เสียงดัง พุ่งออกมาจากด้านในอย่างโซเซ
ก็ยังไม่มีใคร
ในห้องใต้หลังคานี้ เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี๊ที่พวกเขาอยู่ชั้นล่างไม่เห็นใครลงไปเลย แต่ตอนนี้ บุคคลนี้ดูเหมือนจะระเหยไปจากโลก ไม่มีแม้แต่เงา
เขาจะไปไหนได้?
เขาตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?และในเมื่อตื่นแล้ว ทำไมต้องไปด้วย?
หรือว่า เขาไม่อยากเจอเธอหรือ?
ทำไมเขาถึงไม่อยากเจอ?ตอนอยู่ที่ลอสแอนเจลิส เขายอมให้ตัวเองเสียงแหบ เพื่อที่จะได้อยู่ข้างกายเธอไม่ใช่หรือ?แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่อยากเจอเธอ?
ใบหน้าเส้นหมี่ซีดขาวทันที
ลึกลงในใจ กลับเหมือนมีช่องขนาดใหญ่เปิดออก เธอตื่นตระหนกตกใจจนไม่อาจแม้แต่ใจเย็นได้
ตอนนี้เอง สายตาของเธอจู่ๆ มองไปยังทิศทางของสะพานแบบโค้งที่อยู่ไกลออกไปของหมู่บ้าน รถยนต์สีดำคันหนึ่งกำลังขับอยู่ด้านบน มุ่งหน้าไปยังถนนใหญ่ด้านนอก
นั่นไม่ใช่รถเบนท์ลีย์นั่นหรือ?
ทันใดนั้นเลือกในตัวเส้นหมี่ก็ดูเหมือนจะพลุ่งพล่านขึ้นมา เธอจับราวบันไดแล้วลงไปอย่างโซเซทันที อยากจะตามรถคันนั้นไป
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สะดวกเลย
“ตุบ——”
ได้ยินเพียงแต่เสียงดังที่ฟังดูน่ากลัว!
เธอตกลงมาจากบันไดโดยตรง ชนกับทุ่งหญ้าด้านล่าง เป็นเวลานานมาก เธอไร้เรี่ยวแรง
ไอ้สารเลวนี่!!
ดีที่ บันไดนี้อยู่ด้านนอกบ้าน ดังนั้น ถึงเธอจะตกลงมาแล้ว แต่คนในบ้านต่างไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว รวมทั้งเด็กสามคนนั้น ก็ไม่รู้
เส้นหมี่จึงหลับตาสองข้างลงบนทุ่งหญ้า
เธออยากให้ตัวเองดีขึ้น แล้วคลานขึ้นมาตามผู้ชายสารเลวคนนั้นไป
แต่ตอนนี้เอง เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบจู่ๆ ก็พุ่งเข้ามาตรงหน้าเธอ เขาหายใจหอบ เห็นเธอนอนอยู่ในกองหญ้าไม่ขยับ สีหน้าก็ซีดทันที