ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 47 ชินจังป่วย
หลังจากที่เส้นหมี่ได้กลับมาจากบริษัทของคณาธิป ถึงได้เห็นว่าโทรศัพท์ที่ถูกตัวเองปิดเสียงเอาไว้ มีสายไม่ได้รับจากเคมีหลายสิบสาย ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ได้ไปฝังเข็มให้แสนรักที่เรืองรอง
หลังจากที่เธอได้ไปที่ที่บริษัทคณาธิป เขาได้เอาหนังสือพวกนั้นให้เธอดู และได้บอกกับเธอว่าจะไปหาหลักฐานมาได้ยังไง? เธอฟังอย่างตั้งใจ ก็เลยลืมไปเลย
แล้วตอนนี้ยังต้องไปอีกไหม?
มีชั่วขณะหนึ่ง ที่ความคิดแบบนี้ได้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเธอ
จากนั้น ไม่นานหลังจากที่เรื่องเมื่อตอนกลางวันได้ปรากฏขึ้นมาให้หัวของเธอ เธอก็ได้ละทิ้งความคิดนี้ไปโดยสิ้นเชิง เธอยังไม่ได้โง่ถึงขนาดนั้น ชายชั่วช่วยหญิงเลวคนนั้นเหยียบหน้าของเธอ และทำไมเธอต้องไปสนใจความเป็นตายร้ายดีของเขาด้วย?
เส้นหมี่ล้างหน้าล้างตาอย่างลวก ๆ ไม่นานก็พาเด็ก ๆ ทั้งสองคนนอนหลับไป
เงียบสงบตลอดทั้งคืน
วันรุ่งขึ้น
หลังจากที่เส้นหมี่ตื่นขึ้นมา เดิมทีจะรีบทำกับข้าวให้กับเด็ก ๆ ทั้งสอง แต่จู่ ๆ เธอก็ได้รับสายโทรเข้าจากเคมีอีกครั้ง
“คุณนาย แย่แล้วครับ คุณชายเล็กไม่สบาย”
“นายว่ายังไงนะ? ไม่สบายงั้นเหรอ? ทำไมเขาถึงไม่สบายได้ล่ะ? เมื่อวานยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อเส้นหมี่ได้ยิน ก็ลนลานขึ้นมาทันที ไม่มีอารมณ์ทำแม้แต่อาหารเช้า เธอหยิบโทรศัพท์และไปที่ระเบียง และเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
เคมีที่อยู่อีกด้านของสายปิดปากของตัวเองเอาไว้ และกล่าวเสียงเบา ฟังดูแล้วเมื่อว่าได้แอบโทรหาเธอ: “เพราะเมื่อคืนคุณไม่ได้กลับมา ก็เลยนอนไม่หลับ และเล่นหมากรุกกับตัวเอง คุณเองก็รู้ว่าร่างกายของเขาไม่แข็งแรง โดนอากาศเย็นนิดหน่อยก็ไม่สบาย ตอนนี้ท่านประธานเตรียมพาเขาไปโรงพยาบาลแล้ว”
“!!!!”
เส้นหมี่แทบจะยืนไม่อยู่ ความรู้สึกโทษตัวเองอันแรงกล้าพุ่งขึ้นมา หัวใจของเธอเหมือนถูกทิ่มแทง ถือโทรศัพท์และเดินกลับเข้าไปอีกครั้งอย่างร้อนรน
นี่เธอยังเป็นหม่ามี๊อยู่อีกหรือเปล่า?
เธอมีคู่ควรเลยสักนิด ปากก็บอกว่ารักเขา ต้องการชดเชยให้กับเขา แต่ตอนนี้ล่ะ กลับทำเพื่อความต้องการของตัวเอง แม้แต่ร่างกายและจิตใจของเขาก็ดูแลได้ไม่ดี
เส้นหมี่กลับมาที่ห้องรับแขกด้วยจิตใจว้าวุ่น
“คิวคิว รินจัง หม่ามี๊มีธุระด่วน พวกหนูไปซื้ออาหารเช้าที่ข้างนอกทานได้ไหม? ทานเสร็จหม่ามี๊จะไปส่งพวกหนูที่โรงเรียนอนุบาล”
“ได้ครับ หม่ามี๊ มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
อิคคิวได้พาน้องสาวที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วออกมาพอดี เมื่อได้ยินที่หม่ามี๊พูด เขาก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่า สีหน้าของหม่ามี๊ดูแย่แบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เส้นหมี่ตอบคำถามของลูกชายอย่างลวก ๆ : “ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรอก ลูกชายคุณป่วยของหม่ามี๊ไม่สบาย หม่ามี๊ต้องไปดูหน่อย”
หา?
ชินจังไม่สบาย?!!
อิคคิวและรินจังต่างก็ตกตะลึง
ยี่สิบนาทีต่อมา สองพี่น้องก็ได้ถูกหม่ามี๊พาไปส่งที่โรงเรียนอนุบาล หลังจากที่ได้มองแผ่นหลังของหม่ามี๊จากไปอย่างร้อนรน เด็กทั้งสองก็ได้พูดคุยกันขึ้นมาอย่างขมขื่น
“พี่คะ ที่หม่ามี๊พูดเหมือนจะเป็นพี่ชินจัง เขาป่วยเหรอคะ?”
“อืม!”
อิคคิวขมวดคิ้วเล็ก ๆ
เมื่อคืน ความจริงแล้วเขาได้ยุยงให้หม่ามี๊ไปกับอาธิป หลังจากที่เขาได้เห็นแด๊ดดี้ปฏิบัติแย่ ๆ แบบนั้นกับหม่ามี๊ ก็อยากให้หม่ามี๊หาที่พึ่งที่ดีกว่า
จากนั้นเมื่อวานก็เลยเรียกอาธิปมา
แต่ว่า ทำไมชินจังถึงไม่สบายล่ะ?
“เขาจะต้องเป็นเพราะไม่เห็นหม่ามี๊ถึงได้ป่วยแน่ ๆ เลย หนูจะบอกกับพี่นะ พี่คะ ถ้ารินจังไม่เห็นหม่ามี๊ ก็จะป่วยเหมือนกัน”
หนูน้อยมองดูท่าทางหน้านิ่วคิ้วขมวดของพี่ชาย ก็ได้วิเคราะห์ให้พี่ชายฟังด้วยน้ำเสียงน่ารักน่าชัง
อิคคิว: “……”
แย่แล้ว แบบนั้นเขาได้ทำผิดไปหรือเปล่า?
ในตอนที่เส้นหมี่ได้มาถึงเรืองรองอย่างรีบร้อน ยังไม่ถึงเวลาแปดมองครึ่ง
เธอวิ่งจนหายใจแทบไม่ทัน เม็ดเหงื่อได้ผุดขึ้นมาบนหน้าฝากของเธอ ทำให้ใบหน้างดงามเกลี้ยงเกลาของเธอแดงขึ้นมา แต่ว่า เธอก็ไม่กล้าที่จะหยุด เมื่อได้เห็นว่าใกล้จะถึงแล้ว ก็ได้ก้าวเท้าวิ่งไปข้างหน้าอีก
“ชินชิน หนูอย่าเป็นอะไรไปนะ หม่ามี๊ผิดไปแล้ว ต่อไปหม่ามี๊จะไม่ทิ้งหนูเอาไว้โดยไม่ใส่ใจอีก ดีไหม?”
ขอบตาของเธอแดงก่ำ วิ่งหอบหายใจเข้าไปในตึกวังฬาหนึ่ง
“หยุดนะ เธอเป็นใคร? ใครให้เธอมาที่นี่? เธอรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน?”
“……”
เส้นหมี่ที่ได้วิ่งจนหมดแรง เมื่อเห็นบอดี้การ์ดที่ได้ขวางตัวเองเอาไว้ เธอก็ร้อนใจจนแทบระเบิดไฟโมโหออกมา!
“คือว่า พี่ชายคนนี้ เมื่อสองสามวันก่อนฉันเคยมาที่นี่ คุณรีบให้ฉันเข้า ดูว่าคุณชายเล็กของพวกคุณเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
“คุณชายเล็ก? เขาไม่สบาย ท่านประธานกำลังดูแลอยู่ เธอเป็นใครกันแน่? หยุดนะ! ใครใช้ให้เธอบุกเข้าไป? รีบออกมาซะ!!”
บอดี้การ์ดมองดูผู้หญิงที่ผลักเขาออกและบุกเข้าไปอย่างรีบร้อน เขาก็ร้องตะโกนด้วยความร้อนใจ
แต่ว่า เส้นหมี่จะกลับมาได้ยังไงกัน?
เธอได้ยินว่าลูกชายยังอยู่ที่นี่ ยังไม่ได้ถูกพาไปที่โรงพยาบาล ก็ได้บุกเข้ามาเหมือนกลับลูกธนูที่ยิงออกจากคันธนู แทบอยากจะเห็นเขาในทันที
จริงอย่างที่คิด เมื่อเธอวิ่งมาถึงที่หน้าประตูคฤหาสน์อย่างยากลำบาก เห็นเพียงในคฤหาสน์ที่ในเวลาปกติแล้วดูเงียบสงบอยากที่จะพบเห็นคนได้ ตอนนี้วุ่นวายเป็นอย่างมาก มีคนยุ่งกับการเตรียมความพร้อมเพื่อไปโรงพยาบาล และยังมีคนต้มหน้าต้มยา ติดต่อหาหมออยู่ไม่หยุด……
เมื่อเส้นหมี่เห็นดังนั้น หัวใจก็ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มอีกครั้ง
เธอรีบเข้ามา และจะขึ้นไปดูลูกชายที่ชั้นบน ในตอนนี้เอง คนคนหนึ่งก็ได้เดินถือถ้วยใบหนึ่งลงมาจากชั้นบนอย่างรีบร้อน
“รีบไปหาน้ำเกลือมา คุณหมอต้องการ”
เป็นบอดี้การ์ดคนหนึ่ง ยังถูกสั่งให้ทำงานแบบนี้แล้ว
น้ำเกลือ?
หรือว่าจะท้องเสียด้วย? จนแทบจะขาดน้ำแล้วเหรอ?