ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 471 ผู้ชายทุกคนต่างหมุนรอบเธอ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 471 ผู้ชายทุกคนต่างหมุนรอบเธอ
ในที่สุดทั้งสองก็จัดการเรื่องใหญ่เรื่องนี้เสร็จเรียบร้อย และกำลังจะเตรียมตัวกลับไปเตรียมแผน ในขณะที่ทั้งสองขยับลุกขึ้นกำลังจะออกไปจากร้านกาแฟ ทันใดนั้นก็มองเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังเดินเข้ามาทางประตูห้างสรรพสินค้า
“เด็กดี ได้เจอไอ้คนชั่วคนนี้อีกแล้ว”
หลังจากที่แสงดาวมองเห็นทั้งสองคน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันใดแฝงด้วยความโกรธและความรังเกียจ
เส้นหมี่อาการดีขึ้นมายังไม่เท่าไหร่
เธอเบนสายตากลับมา คิดว่าจะพาหญิงสาวที่อยู่ข้างกายออกไปจากห้างสรรพสินค้าอีกทางหนึ่ง
“ไปกันเถอะ พวกเราไปอีกทาง เวลาแบบนี้ อย่าทำเสียเรื่อง”
“……ก็ได้”
แสงดาวได้ยินเธอพูดแบบนั้น ยากมากที่เธอเชื่อฟังแล้วเดินตามหลังเธอ
แต่ทั้งสองพึ่งจะขยับตัว ผู้หญิงด้านหลังที่มากับคณาธิป ส่งเสียงเรียกพวกเธอขึ้นมาทันใด: “พี่สาว คุณก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน คุณจะไปทำอะไรเหรอคะ”
คือแครอท ตอนนี้เธอยังเรียกแสงดาวว่าพี่สาว
แต่แสงดาวคนนี้น่ะเหรอ
เมื่อก่อนนี้เธอเกลียดเส้นหมี่ ส่วนคุณหนูตระกูลลัดดาวัลย์ที่เคยรักษาน้องชายจนหายยังพอได้
แต่ตอนนี้ ตั้งแต่อรรตพลเล่นไม่ซื่อกับน้องชายเธอ หลังจากที่ลูกนอกคอกอย่างแครอทได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลหิรัญชา ตอนนั้นเธอเกลียดเส้นหมี่ยังไง
ตอนนี้ เธอก็เกลียดแครอทคนนี้อย่างนั้น
และมากยิ่งกว่า!
“พี่สาวเหรอ คุณแครอท คุณอย่าเรียกฉันแบบนี้เลย ฉันเกรงว่าถ้าคุณเรียกฉันแบบนี้ เดี๋ยวฉันจะไม่มีหน้าอยู่ในตระกูลหิรัญชาอีกต่อไป”
“คุณ……”
แครอทไม่เคยโดนแบบนี้ที่ไหน ใบหน้ารูปไข่ซีดขาวขึ้นมาทันที
เส้นหมี่อยู่ด้านข้างอย่างเฉยเมย
เธอไม่ได้ไปดูใครที่อยู่ด้านหน้าทั้งนั้น แม้ว่าเธอจะรู้สึกได้ถึงแววตาร้อนกำลังแผดเผาจ้องมองมาบนร่างกายของเธอ
“ที่แท้คุณก็อยู่กับเธอนี่เอง ทำไมล่ะ ตอนนี้ไม่เกลียดเธอแล้วเหรอ เธอทำให้น้องชายคุณเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ของคุณกับเธอกลับดีขึ้นมาอย่างงั้นเหรอ”
แครอทเล็งปลายหอกไปที่เส้นหมี่ ทุกๆ ประโยค ฟังดูแล้วคงโกรธเกลียดมิใช่น้อย
แต่ตอนนี้กลับตลกขึ้นมาซะงั้น
ผู้หญิงคนนี้ สมองคงมีปัญหาเล็กน้อย เรียนหมอเรียนโง่ไปแล้วหรือเปล่า?
เส้นหมี่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ไม่พูดอะไร
หลังจากที่แสงดาวได้ยิน โมโหจนเปิดปากด่าออกมาทันที : “คุณเป็นบ้าหรือไง ใครบอกว่าเธอทำร้ายน้องชายฉันให้เป็นแบบนี้เหรอ น้องชายฉันเป็นแบบนี้ สมใจพวกคุณสองพ่อลูกแล้วล่ะสิ”
“คุณพูดอะไรเหรอ”
“พอแล้ว พวกคุณไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว ทะเลาะกันอยู่ที่นี่แล้วได้หน้าได้ตากันไหม คนมองมาตั้งมากมาย”
ในที่สุดคณาธิปก็เปิดปากออกมา เขามองไปยังผู้หญิงด้านข้างอย่างรังเกียจนักหนา ปากคอเราะรายไม่ได้ไว้หน้าเขาบ้างเลย
ทันใดนั้นแครอทก็หน้าสลดขึ้นมาทั้งยังแฝงไปด้วยความโกรธ!
แต่ว่า ครั้งนี้เธอไม่กล้าโต้แย้งแม้แต่น้อย จึงทำได้แค่ปิดปากเงียบไปอย่างอับอาย
แสงดาวได้เห็นดังนั้น จึงยิ้มเยาะเย้ย : “ทั้งสองคนช่างเหมาะสมกันดีจริงๆ คนหนึ่งก็ลูกนอกคอก อีกคนหนึ่งก็เลว ทำไมไม่อยู่ด้วยกันตั้งนานนะ”
“……”
หนึ่งวินาที เส้นหมี่รีบดึงหญิงสาวที่กำลังโมโหจนหน้าบูดเบี้ยวมา แล้วรีบปิดปากอสรพิษนี้เอาไว้!
“แสงดาว!คุณพอได้แล้ว คุณระวังสถานะของตัวเองหน่อย ถ้าเกิดตบตีกันขึ้นมาจริงๆ คนอื่นเขาดูออกว่าเป็นคุณ เดี๋ยวพ่อคุณก็ได้จัดการคุณหรอก!!”
ด่าแรงๆ ออกมาหนึ่งชุด
ในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็ได้หยุดลง ไม่ขยับเขยื้อน
ปากอันนี้ เธอยอมจริงๆ ……
ทางด้านคณาธิปก็จับแครอทไว้แน่น เดิมทีเขาอยากจะลากเธอออกไปทันที แต่เวลานี้ เถ้าแก่ร้านจิวเวอร์รี่ที่พวกเขาได้นัดไว้เดินออกมาพอดี
“คุณคณาธิป คุณแครอท พวกคุณอยู่ที่นี่นี่เอง ผมนึกว่าทั้งสองท่านยังไม่มาเสียอีก งั้นตอนนี้เราไปดูแหวนเพชรที่พวกคุณได้สั่งทำเอาไว้กันดีไหมครับ”
“……”
ที่แท้ วันนี้ทั้งสองคนมาลองแหวนแต่งงานนี่เอง
คณาธิปสีหน้าเปลี่ยนไป
แว็บแรกเขามองตรงไปยังหญิงสาวที่อยู่ตรงข้ามอย่างมีความหวัง
แต่ตอนนี้ ทำให้เขาผิดหวังเป็นอย่างมาก
เส้นหมี่ไม่ได้มีปฏิกิริยาใด เธอยังคงดึงแสงดาวเอาไว้ ก็เลยเหมือนกับว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรที่เกิดขึ้นทั้งนั้น กำลังลากเธอออกไป
“……”
“ทำไมเหรอ เสียใจเหรอ ที่เห็นเธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย”
แครอทที่อยู่ด้านข้างมองอยู่ตลอด มองเห็นสายตาชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างคนนี้ตั้งแต่วินาทีที่เดินเข้ามา ไม่ได้มองมาที่เธอ แต่ว่ามองไปยังหญิงสาวด้านหน้าตลอดเวลา
เธอรู้สึกอิจฉาขึ้นมา และเยาะเย้ยขึ้นมา
เธอไม่รักผู้ชายคนนี้ แต่ว่า หลังจากเห็นว่าแม้แต่เขาก็ยังหมุนรอบเส้นหมี่ ภายในใจของเธอรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
สายตาของคณาธิปหลังกรอบแว่นนั้นสะท้อนแสงความชั่วร้าย!
“ระวังคำพูดของคุณหน่อย!”
“คำพูดของฉันเหรอ คุณคณาธิป อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องของพวกคุณนะ อย่างงี้เอาไหม ฉันช่วยคุณทดสอบดูสักหน่อย ดูว่าเธอมีปฏิกิริยากับการแต่งงานของคุณหรือเปล่า”
พูดจบ ผู้หญิงคนนี้จึงให้เถ้าแก่ร้านจิวเวอร์รี่เอาแหวนที่สั่งทำเอาไว้ออกมา
“เอาออกมาเหรอ” เถ้าแก่ตกอกตกใจ: “ไม่ค่อยดีมั้ง นี่เป็นแหวนเพชรที่สั่งทำขึ้นมา ราคาไม่ใช่น้อยเลยนะ”
“กลัวอะไรล่ะ ของดีก็ต้องแบ่งกันชมเป็นเรื่องธรรมดา ไปเร็ว รีบเอาออกมา ให้ทุกคนได้ชม”
“……”
สุดท้ายแล้ว เถ้าแก่คนนี้ก็ไปเอาออกมา
จิวเวอร์รี่ร้านนี้ เป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดของที่นี่
ถึงแม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับแบรนด์สากล แต่ก็เป็นงานสั่งทำชั้นสูง ก็ถือว่ามีหน้ามีหน้าตาอยู่ในเมืองนี้เสมอมาทั้งเป็นที่โปรดปรานของผู้คน
ดังนั้น เมื่อเถ้าแก่หยิบแหวนสองวงนั้นออกมาจริงๆ
ทันใดนั้น ผู้คนในห้างสรรพสินค้าต่างล้อมเข้ามา