ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 487 ผู้หญิงคนนี้มันน่าจัดการให้รู้แล้วรู้รอด
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 487 ผู้หญิงคนนี้มันน่าจัดการให้รู้แล้วรู้รอด
เส้นหมี่นิ่งไป
ผ่านไปสักพัก เธอจึงก้มหน้าลงมามองสิ่งของสิ่งนั้น แล้วเปิดออก
“นี่คือ……ตราประทับ?ยังมีบัตร……บัตรประชาชนของคุณ?!!”ดวงตาทั้งสองของเธอโตขึ้นมา มองไปที่ตาแก่คนนี้อย่างเหลือเชื่อ
แต่ตาแก่คนนี้สงบนิ่งมาก
เขายกกาน้ำชาที่พึ่งต้มเสร็จพอดิบพอดีขึ้นมา รินให้เธออีกแก้วหนึ่ง
“ใช่สิ คุณมีสิ่งนี้แล้ว สามารถซื้อหุ้นจากสมเดชพวกเขามาเป็นชื่อของตัวเองได้ในทันที 20%อาจจะไม่มาก แต่ก็สามารถทำให้เขากลับมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของหิรัญชากรุ๊ปได้อีกครั้ง”
“……”
นัยน์ตาของเส้นหมี่สั่นเทา
เรื่องราวเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้ เธอตามไม่ค่อยทันแล้ว
“……เขาไม่ได้แคร์สิ่งเหล่านี้แม้แต่น้อย แต่ฉันไม่อยากเห็นสิ่งที่เขาสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง กลายเป็นของคนอื่นไปทั้งหมด”
อีกครั้งที่เธอพูดอธิบายแทนเขา
แต่ครั้งนี้ ตาแก่กลับไม่ได้ต่อปากต่อคำ:“ดี งั้นตอนนี้คุณก็หยิบไปได้แล้ว”
มือของเส้นหมี่ชะงักไปทันใด:“เพราะอะไรเหรอ”
“เพราะว่าคุณพูดถูก ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของผม ผมควรจะเหลืออะไรไว้ให้เขาหน่อย พวกคุณยังมีลูกอีกตั้งสามคน ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกผูกพันหรือด้วยเหตุผลแล้ว เป็นสิ่งที่พวกคุณควรจะได้รับ”
นี่เป็นคำตอบสุดท้ายของชายชรา
แต่เส้นหมี่ ยังไม่ทันได้พูดอะไรอีก ก็ถูกคนที่พาเธอเข้ามา บังคับพาเธอออกไป
แน่นอน ว่าเอามาด้วย สิ่งของทั้งสองสิ่งนั้น
เหลืออะไรไว้?
เขากำลังคิดว่าพวกเขาเป็นขอทานเหรอ? เธอไม่ต้องการ!ลูกชายของเขาก็ไม่ต้องการ!!
เส้นหมี่โมโหยิ่งกว่าเดิม
แต่ว่า เธอไม่รู้เลยว่า เมื่อเธอถูกบังคับให้ออกไปได้ไม่นานนัก คนชุดดำกลับเข้ามาในห้องน้ำชาอีกครั้ง ก้มหน้าลงแล้วมองไปยังชายชราด้านหน้า
“คุณท่าน คุณจะทำแบบนั้นจริงๆเหรอครับ ถ้าเป็นแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นไม่ปล่อยคุณไว้แน่”
“หึหึ……”
ชายชราที่ถือแก้วน้ำชาอยู่ ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย
เขามองดูแก้วน้ำชาที่อยู่ในมือ หลับตาลงเพลิดเพลินไปกับกลิ่นหอมเย้ายวนใจ เปิดเปลือกตาขึ้นมา สีหน้าของเขาไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย
“ไปเรียกทนายมา”
“ครับ คุณท่าน”
……
ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง แสนรักพบว่ามีเรื่องผิดปกติ
【สำนักเทพฟ้า:พี่สาวคุณล่ะ?】
【ศิษย์เหมาซาน:หืม?พี่……พี่เขย ไม่รู้สิ พี่สาวของผมยังไม่มา เธอไม่ได้กลับบ้านไปทำกับข้าวให้คุณเหรอ?”】
ปอร์เช่ที่อยู่ที่บริษัททันใดได้รับข้อความจากพี่เขยเทพผู้ยิ่งใหญ่ส่งข้อความมา ตกใจจนมือสั่น
ผลลัพธ์ เขาพึ่งจะตอบกลับประโยคนี้ พี่เขยของเขาที่มีแอคเคาท์สีทองเปล่งประกายก็ล็อกเอาท์ออกไป
สามีดีเด่นอะไรปานนั้น?
เล่นอีกสักตาหนึ่งสิ
แสนรักออกจากบ้าน เปิดหาตำแหน่งพิกัดที่อยู่ในโทรศัพท์
หลังจากนั้น เขาจึงพบตำแหน่งของผู้หญิงคนนี้โดยเร็วในตำแหน่งที่อยู่นอกเมืองออกไปเป็นสิบกว่ากิโลเมตร มองเห็นแล้วเส้นเลือดบนหน้าผากของเขาไม่เพียงเต้นอย่างบ้าคลั่ง!
“ผู้หญิงคนนี้อยู่ดีไม่ว่าดีวิ่งไปตั้งไกลทำไมกัน เธอจะหาเรื่องอะไรอีก”
เขามองเห็นตำแหน่งพิกัดแล้ว สิ่งที่นึกขึ้นมาได้สิ่งแรกภายในใจคือความเป็นห่วง หลังจากนั้นคือความโมโหที่กำลังปะทุขึ้นมาเรื่อยๆ
เขาอยากจะลากผู้หญิงคนนี้มาในทันที แล้วตีตูดแรงๆแบบนั้น
เขาเหยียบคันเร่งเร่งไปโดยเร็ว
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ชานเมืองที่ค่อนข้างกันกันดารตรงป้ายรถเมล์ เส้นหมี่นั่งนิ่งๆอยู่ใต้ต้นป็อปล่าขาวที่ส่องแสงสว่างเจิดจ้าต้นนั้น
ความจริงแล้วเธอกลับมาได้ครึ่งค่อนทางแล้ว
แต่ว่า เพราะว่าภายในใจของเธอสับสนวุ่นวาย เมื่อตอนที่ผ่านตรงนี้ไป เธอจึงลงจากรถเมล์มา
หลังจากนั้น นั่งอยู่ประมาณสิบกว่านาที
ตอนนี้เธอต้องทำยังไงกันแน่?
ทำตามแผนเดิมที่วางเอาไว้ ใช้ของทั้งสองสิ่งในมือนี้เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมานำหุ้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อของตัวเอง?
หรือว่าเธอจะบอกความจริงกับชายหนุ่มดี หลังจากนั้นให้เขาตัดสินใจ?
แต่ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะไม่โกรธเหรอ? เพราะว่าเธอได้ไปหาตาแก่คนนั้นอีกแล้ว ในมือยังถือเอาสิ่งของออกมาด้วย แบบนี้ เขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบไปเอาสิ่งของที่เขาไม่ต้องการลับหลังหรือเปล่า?
เส้นหมี่สับสนอย่างมาก
ในเวลานี้ เธอทำใจทิ้งของทั้งสองสิ่งนี้ไม่ลง
แต่ว่า เธอยังไม่ทันได้ทิ้งไป ทันใดนั้น รองเท้าหนังผู้ชายคู่หนึ่งได้ยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ
“หืม?”
“คุณกล้ามากเลยนะ ได้ไม่นานก็กล้าออกมาเที่ยววิ่งไปข้างนอก ลืมสิ่งที่ผมพูดกับคุณไปแล้วเหรอ?”
ชายหนุ่มหน้าตาขุ่นมัว ยืนตระหง่านมองมาที่เธอ โมโหอย่างขีดสุด แม้แต่สถานะในเกมของตัวเองยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมายังลืมไปแล้ว
แต่ละคำพูดลอดฟันของเขาออกมา เหมือนอยากจะกัดเธอให้ตายอย่างงั้น!
เส้นหมี่งงขึ้นมาทันใด
เธอมองดูเขาอย่างนิ่งๆ ไม่นาน ก็รู้ตัวขึ้นมา ถึงมองเห็นเธอลุกขึ้นมาเหมือนถูกไฟซ็อตอย่างกระวนกระวาย
“พี่……พี่ชาย คุณมาได้ยังไง”
“ยังไม่อยากให้ผมมาอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่……ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น……”เส้นหมี่ที่ตกใจจนหน้าไม่มีสีเลือด รีบโบกมือขึ้นมาปฏิเสธอย่างกระวนกระวาย
เธอหรือจะกล้า?
เพียงแค่เธอ……รู้สึกว่าไม่ปกติ ทำไมเขาถึงได้มาถึงที่นี่ได้? นื่คือชานเมืองนะ
“ฉันแค่……กำลังคิดว่า ถ้าฉันอยู่ที่นี่ไม่กลับไป พี่ชายจะตามหาฉันหรือเปล่า?หลังจากนั้น เงยหน้าขึ้นมา คุณก็มาอยู่ตรงหน้าของฉันแล้ว”
ระหว่างที่เส้นหมี่กำลังพูด ทันใดน้ำตาก็ร่วงลงมาเป็นสาย