ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 489 ผู้หญิงหลงผู้ชายหัวปักหัวปำ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 489 ผู้หญิงหลงผู้ชายหัวปักหัวปำ
“เดิมทีผมจะพาพวกคุณไปมัลดีฟส์ สภาพแวดล้อมที่นั่นดี เหมาะสำหรับการเติบโตของเด็กๆ แต่ตอนนี้คุณพ่อของคุณยังไม่ออกจากเรือนจำ ผมจึงให้เพื่อนเตรียมกัปตันกับเครื่องบินส่วนตัวเอาไว้ก่อน เมื่อถึงเวลานั้นค่อยไปกัน ผมอธิบายแบบนี้ คุณฟังเข้าใจหรือเปล่า”
“……”
แม้แต่พ่อของเธอก็พิจารณาเอาไว้ด้วย
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ได้สติขึ้นมา ปลื้มปีติและดีใจอย่างมาก เติมเต็มหัวใจของเธอ เธอน้ำตาไหลมองไปยังชายหนุ่ม แล้วพยักหน้าอย่างแรง
“……เข้าใจแล้ว”
“ดังนั้นตอนนี้ไม่ต้องงอแงแล้ว หืม?กลับบ้านเสียโดยดี เด็กๆใกล้จะเลิกเรียนแล้ว”
เขาเคาะที่สมองน้อยๆของเธอ แบบนี้เขาดูอบอุ่นมาก ค่อยๆเช็ดน้ำตรงหางบริเวณหางตาของเธอ
เส้นหมี่จึงพูดออกมาอย่างว่าง่าย “อืม”หนึ่งคำ
หลังจากนั้น เธอจึงยืนขึ้นตรงด้านหน้าของเขา
“โอ๊ย——”
คิดไม่ถึงเลยว่า พึ่งจะลุกขึ้น นิ้วโป้งกับนิ้วกลางของเท้าทั้งสองข้างก็รู้สึกเจ็บจิ๊ดขึ้นมา เส้นหมี่จึงร้องโอ๊ยออกมา ทันใดนั้น เสียการทรงแล้วตัวหดตัวลงไป
แสนรักได้เห็นแล้ว ก็นั่งยองๆลงที่ด้านหน้าของเธอทันที
ผลลัพธ์ อีกครั้งที่เขาถูกความปัญญาอ่อนของเด็กโง่คนนี้ทำให้เหนื่อยใจ
“คุณใส่ไอ้นี่ออกมางั้นเหรอ”
“……อืม”
เส้นหมี่รู้สึกกระอักกระอ่วนจนต้องเบือนหน้าหนี ไม่อยากให้เขาเห็นความน่าอับอายของเธอ
แต่ความจริงแล้ว ตอนที่กระโปรงของเธอร่นขึ้น สองเท้าเปลือยเปล่าที่สวมใส่รองเท้าไม้สำหรับใส่ในบ้านก็โผล่ออกมา เธอได้เอาสมองโง่ๆของเธอออกมาโชว์เสียแล้ว
แสนรักจึงให้เธอขี่หลังไปขึ้นรถ
ยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า อย่างช้าๆในถนนสายเล็กของชานเมืองที่ไม่มีคนอยู่ เงาของทั้งสองที่ยืดยาว เหมือนกับภาพวาดของจิตรกรที่มีทั้งหมึกดำสีเข้มและสีสันอ่อนๆ
เส้นหมี่ซบลงที่หลังกว้างบนหลังของชายหนุ่ม ค่อยๆเอียงตัว มองดูนิ้วเท้าทั้งสองที่บวมเปล่งแกว่งไปแกว่งมาตรงขากางเกงของเขา เธอรู้สึกชอบขึ้นมาอย่างอดใจไม่ไหว
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาให้เธอขี่หลัง
“ชอบแบบนี้เหรอ”
“……อืม”
เธอที่อยู่บนหลังของเขาอายหน้าแดง น้ำเสียงนุ่มนวล เบามากเหมือนเสียงของยุงกับแมลงวัน
แสนรักยิ้มออกมาเล็กน้อย
แต่ภายในใจของเขา มีอยู่อย่างหนึ่ง นานมาแล้วที่เขาหลงใหลในเสียงของเธอ นุ่มละมุนจนหลงใหล นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน
“ดี”
เขารับปากแล้ว ไม่มีคำพูดใดอีก ในฉากที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าท้องฟ้าสีแดงเหมือนไฟ ชายหนุ่มให้คำมั่นสัญญาง่ายๆหนึ่งอย่างกับหญิงสาว
ดีอะไรเหรอ?
ดี ถ้าเธอชอบ งั้นต่อไปนี้ก็เป็นที่ที่สำหรับเธอคนเดียว
ตราบชั่วนิรันดร์
——
คืนวันนี้ หลังจากทั้งสองพูดเปิดใจกัน เปลี่ยนมาเป็นฉากเนิ่นนานถ้าตายไปก็นอนตายตาหลับ
หลังจากนั้น เส้นหมี่จึงหลับลึกลง
วันรุ่งขึ้น
เมื่อเส้นหมี่ได้ตื่นขึ้นมา แสนรักได้ส่งเด็กๆไปโรงเรียนแล้ว
เส้นหมี่ขยับกายที่ปวดเมื่อย กำลังจะเตรียมลุกขึ้นมา มองไปด้านข้างอย่างไม่ตั้งใจ ทันใดมองเห็นกระเป๋าของตัวเอง
ทันใดนั้น อารมณ์ดีๆในตอนเช้าถูกทำลายลง
ถูกแล้ว เธอลืมไปเลย ในนี้มีของสองสิ่งที่ไม่ได้จัดการได้ง่ายๆ
งั้นตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?
แน่นอนว่าแสนรักคงไม่ยอมให้เธอไปยุ่งยากวุ่นวายกับเรื่องเรื่องนี้แล้ว เขาวางแผนจะพาเธอกับลูกๆไปจากที่นี่แล้ว สถานการณ์แบบนี้ได้อธิบายทุกอย่างเอาไว้แล้ว
ถ้าเธอไม่ไปยุ่งวุ่นวายแล้ว งั้นสิ่งของสองสิ่งนี้ล่ะควรทำยังไง?
คืนให้คุณท่านดีไหม?
ไม่ ถ้าให้เขาแล้ว ก็เท่ากับว่าหิรัญชากรุ๊ป ทั้งหมดนั้นยกให้กับคณาธิปแล้วจริงๆ
เส้นหมี่ไม่ยอมเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นแบบนี้ คิดอยู่นาน สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจโทรศัพท์หาแสงดาว
“ฮัลโหล แสงดาว ฉันเอง”
“มีอะไรหรือเปล่า ผู้ชายของคุณไม่ต้องการคุณแล้วจริงๆเหรอ ไม่ต้องการก็ช่างสิ เธอเป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ขาดผู้ชายไปจะมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้เลยเหรอ”
ผู้หญิงคนนี้คุยโทรศัพท์กับเธอ ไม่พูดอะไรดีๆออกมาสักประโยค แหกปาก ขวานผ่าซาก ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จักกับเธอมาก่อน คงถูกเธอทำให้โมโหตายในทุกๆนาที
เส้นหมี่อดทนเอาไว้
“เปล่า ฉันอยากคุยกับคุณเรื่องหนึ่ง สิ่งของของพ่อคุณนั้นเขาให้ฉันมาแล้ว”
“คุณพูดว่าอะไรนะ”
แสงดาวเสียงดังขึ้นมากกว่าเดิม “สิ่งของของพ่อให้คุณมาแล้วงั้นเหรอ เป็นไปได้ได้อย่างไร !คุณกำลังฝันอยู่หรือเปล่า”
“เปล่า คุณไม่เชื่อ ฉันถ่ายรูปให้คุณดูก็ได้”
หลังจากนั้นเส้นหมี่วางหูโทรศัพท์ หลังจากนั้นนำตราประทับกับบัตรประชาชนของชายชรา ถ่ายออกมาหนึ่งรูปส่งให้ผู้หญิงคนนั้น
ผลลัพธ์ ไม่กี่วินาที ผู้หญิงคนนี้ก็ระเบิดออกมา!
“เหี้ย!นี่เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องปลอมกันแน่ พ่อของฉันกินยาผิดขนานหรือเปล่า ทำไมถึงได้เอาสิ่งนี้ให้คุณ หรือว่าสมองของเขาไม่ค่อยปกติแล้วหรือเปล่า”
“……”
ความจริงแล้วเส้นหมี่ก็มีความคิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน
แต่ว่า สิ่งที่กำลังคุยอันนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือ จะจัดการกับสองสิ่งนี้อย่างไร
เส้นหมี่พูดออกมาอย่างใจเย็น :“ตอนนี้คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม งั้นต่อจากนี้ พวกเราจะจัดการยังไง”
“พูดอะไรไร้สาระ? แน่นอนว่าให้คุณสิ”
“ไม่ได้ ตอนนี้ฉันเอามาไม่ได้”
“เพราะอะไร”
“เมื่อวานฉันกับน้องชายคุณพูดเปิดใจกันแล้ว เดิมทีเขาจะพาฉันไปจากที่นี่ด้วยกัน เขาหวังว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับหิรัญชากรุ๊ปอีกต่อไป”
“เหี้ย!”
ทางด้านแสงดาวระเบิดออกมาอีกหนึ่งคำ
อย่างมาก นี่มันผู้หญิงที่หลงผู้ชายหัวปักหัวปำจริงๆ!
แสงดาวไม่มีวิธีใดแล้ว นิ่งไปหลายนาที จึงได้แต่ถามว่า:“งั้นตอนนี้คุณจะทำยังไง หรือว่าจะแค่มองดูไอ้ลูกนอกคอกคนนั้นกลืนกินพวกเราทั้งบ้าน”
“ถ้าคุณไม่อยากให้เป็นแบบนั้นล่ะก็ งั้นก็มีเพียงวิธีเดียว”