ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 505 จนตาย เขาก็ยังปกป้องเขาอยู่
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 505 จนตาย เขาก็ยังปกป้องเขาอยู่
แสนรักสั่น
“หมอ ทำไมเป็นแบบนี้ คุณบอกว่าคุณเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดไม่ใช่หรอ ทำไมคุณท่านของเราถึงเป็นแบบนี้ ทำไม”
กาโร่ก็เริ่มคำรามด้วย เขาคว้าหมอที่ออกมา และแทบจะหักกระดูกของเขา
เมื่อม็อกโกเห็น เขาก็ทำได้เพียงรีบไปปลอบเขา “ใจเย็นๆ ฟังหมอก่อนว่าที่จริงสถานการณ์เป็นยังไง”
โรงพยาบาลทั่วไปของเขตทหารนั้นดีที่สุดในประเทศ
ตอนม็อกโกได้รับโทรศัพท์จากแสนรัก เขาได้จัดให้ชายชราเข้ามารักษาที่นี่ และเขาก็ไม่กังวลมากนัก
แต่ไม่มีใครคิดว่าผลสุดท้ายจะเป็นแบบนี้
“เขาไม่ใช่กล้ามเนื้อหัวใจตายธรรมดา มันเกิดจากใช้ยามากเกินไป เมื่อเราเปิดหน้าอก เราพบว่าหลอดเลือดของเขาแข็งตัวไปแล้ว…”
“…”
ต่อมาสิ่งที่หมอพูด แสนรักก็จำไม่ได้แล้ว
เขาจำได้เพียงว่าเมื่อมีสติสัมปชัญญะ เขาได้มาถึงห้องไอซียูแล้ว ย้ายเก้าอี้ สวมชุดปลอดเชื้อ และนั่งอยู่หน้าเตียงของโรงพยาบาลแบบนี้
และเห็นได้ชัดว่าชายชราบนเตียงสูญเสียการเต้นของหัวใจ แต่เขายังคงเสียบท่อต่างๆอยู่ และเขาก็สวมหน้ากากออกซิเจนด้วย
“คุณจะเอายังไง นอนตรงนี้ไม่ขยับ คิดว่าผมจะยกโทษให้ไหม”
เขามองไปที่ชายชรา และพึมพำกับตัวเอง
แต่ไม่มีใครตอบเขาอีกต่อไป ชายชราผู้นี้ที่คอยก่อกวนเขามาตั้งแต่เด็ก และบังคับเขาด้วยวิธีต่างๆเมื่อโตขึ้น ตอนนี้นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลแห่งนี้ และจะไม่ยุ่งกับเขาอีกต่อไป
ทั้งวอร์ดเงียบจนได้ยินเสียงเข็มที่ตกลงบนพื้น
กาโร่ที่อยู่ข้างนอกพูด “คุณม็อกโก เมื่อนายน้อยได้สติแล้ว ช่วยมอบสิ่งนี้ให้กับเขาด้วยนะครับ”
เขาหยิบUSBออกมา
จ้องมาที่เขาและมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจโดยไม่มีเหตุผล “คุณจะทำอะไร อย่าบุ่มบ่าม รอเขาออกมาแล้วค่อยคุยกัน”
แต่คนที่ติดตามธนากรมาหลายปีก็ทำเพียงแค่ยิ้ม แล้วเขาหันหลังเดินจากไป
สองวันต่อมา แสนรักซึ่งเผาศพชายชราแล้วก็ออกมาจากเมฬุพร้อมโกศ
“แสนรักมีข่าวจากญี่ปุ่นว่ากาโร่ตายแล้ว เขาฆ่านากาจิมะ แต่เขาก็เสียชีวิตด้วย”
ม็อกโกมาหาเขา และบอกข่าวร้ายนี้กับเขา
นิ้วของแสนรักที่จับโกศขึ้นเส้นสีฟ้าอีกครั้ง และเขาก็หลับตาลงอย่างโหดร้าย
“แล้วของที่เขาให้ล่ะ”
“อยู่นี่”
ม็อกโกรีบส่งUSBที่ตอนนั้นกาโร่ให้เขาให้กับแสนรัก
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ชายผู้นี้ต่อต้านการดูสิ่งนี้ อาจเป็นเพราะเขาไม่สามารถยอมรับการตายกะทันหันของธนากรได้ และเพราะเขารู้สึกกลัวโดยไม่รู้ตัว
สัญชาตญาณของเขากำลังบอกเขาว่าในUSBนี้ต้องมีความลับทั้งหมดที่เขาอยากได้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะเปิดมัน
จนถึงตอนนี้ กาโร่ก็ตายไปแล้วเช่นกัน
แสนรักหยิบมันขึ้นมาอย่างช้าๆ และกอดโกศไว้ เปิดดูมันบนเครื่องบินระหว่างกลับไปที่เมืองA
“แสนรักถ้าแกเปิดวิดีโอนี้ก็แสดงว่าเราสองคนพ่อลูกจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว อย่าเสียใจไป เพราะไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีวันนั้น”
ชายชราในวิดีโอสวมชุดสีขาวหลวมๆนั่งอยู่ในสนาม มีความอบอุ่นเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด
เขาไม่ได้ใช้ความโกรธ และไม่ได้ด่าเขากลางห้องโถงเพราะเรื่องบรรพบุรุษเหมือนวันนั้น ในวิดีโอ เขาใจดีแลพอ่อนโยน ใบหน้าก็มีแต่รอยยิ้ม
“ฉันรู้ว่าแกยังโกรธเพราะฉันไม่ยอมให้แกดูแลหิรัญชากรุ๊ป ขอโทษด้วย ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ฉันต้องทำแบบนั้น แต่ฉันไม่เสียใจเลย แสนรักฉันคิดว่าแกไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตแบบนี้จริงๆ”
“ในตอนนั้นแกถูกฉันบังคับให้เข้าไปดูแลหิรัญชากรุ๊ป ฉันคิดว่านี่เป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดของฉัน แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีคนคอยข่มขู่แกด้วยอาการป่วยของแก ตั้งใจจะทำลายแก ตอนนั้นฉันเพิ่งรู้ว่าฉันทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ ฉันผลักแกให้ตกนรก และฉันก็ยังพอใจเพราะคิดว่าทำเพื่อแก”
ในวิดีโอนี้ธนากรอธิบายว่าทำไมตอนนั้นแสนรักถึงไม่ได้ดูแลหิรัญชากรุ๊ป
เพียงเพื่อสิ่งนี้หรอ
แสนรักนั่งอยู่ในห้องโดยสารอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อนัก
จากนั้นชายชราก็พูดถึงเจตจำนงอย่างที่กาโร่กล่าว พูดถึงเรื่องพินัยกรรม
“พินัยกรรมนี้ฉันทิ้งให้แก ฉันให้หุ้นทั้งหมด35%ของฉันกับแก เพื่อที่แม้ว่าแกจะไม่ได้ดูแลหิรัญชากรุ๊ป แต่แกก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสอง ด้วยมรดกนี้ แกสามารถพาเส้นหมี่และเด็กๆใช้ชีวิตนี้อย่างไร้กังวล ดังนั้น…”
หลังจากที่เขาพูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดเล็กน้อย
แสนรักจ้องมองที่เขา
“ดังนั้นอย่าไปยุ่งกับคณาธิปอีกต่อไป เพราะยังไงเขาก็เป็นน้องชายของแก หลายปีมานี้พ่อเป็นหนี้เขาจริงๆ แกเห็นแก่หน้าพ่อได้ไหม”
สิ่งสุดท้ายที่ธนากรทิ้งไว้ให้ลูกชายของเขาก็คือประโยคนี้
และเมื่อเขาพูดประโยคนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไป สิ่งที่เปิดเผยออกมาคือความรู้สึกผิด นอกจากนี้เมื่อเขามองไปที่กล้อง น้ำตาก็ไหลออกมา
ราวกับว่าเขากำลังขอร้องแสนรัก