ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 51 ลูกชายได้ใจจริง ๆ
“คุณจะไม่มาอีกเลยก็ได้!”
เขาใช้ใบหน้าที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งนั่น พูดทีละคำอย่างเน้นย้ำ ค่อย ๆ พูดประโยคนี้ออกมาตามไรฟันด้วยความเย็นยะเยือกที่ชัดเจน
เส้นหมี่: “……”
เชี่ย!
“หม่ามี๊ ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก เขาก็เป็นแบบนี้แหละ!”
คิดไม่ถึง เวลานี้ชินจังเองก็ได้ออกมาเช่นกัน เมื่อเห็นท่าทางแย่ ๆ ของแด๊ดดี้ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่เย็นชาก็ได้รีบช่วยหม่ามี๊อย่างไม่ไว้หน้า
เส้นหมี่ต้องเหงื่อตกขึ้นมาอีกครั้ง
ยังดี ที่ชายโฉดคนนี้ใจกว้างกับลูกชายของตัวเองมาก ถูกต่อว่า ก็แค่เหลือบมองลูกชายด้วยใบหน้าบึ้งตึงเท่านั้น จากนั้นเขาก็จากไป
เส้นหมี่เห็นเช่นนั้น ถึงได้โล่งใจขึ้นมา
“ชินชิน งั้น……คืนนี้คุณน้าไม่มาแล้วนะ หนูจะต้องทานยาและเข้านอนอย่างว่าง่ายดีไหม? และน้าจะมาเยี่ยมหนูพรุ่งนี้เช้า”
“ครับ”
ชินจังพยักหน้าอย่างเย็นชาอีกครั้ง จากนั้นก็หันหลังเดินกลับไป
หม่ามี๊ไม่มา เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ว่าหม่ามี๊จะไปทำอะไร ที่นั่นยังมีพี่น้อง และน้องสาวอีกคนหนึ่ง เขาเองก็ไม่อยากให้พวกเขาไม่มีคนดูแล
ดังนั้นในคืนนี้ หลังจากที่เส้นหมี่ได้รับเด็กทั้งสองกลับมาจากโรงเรียนอนุบาล ก็ไม่ได้มาอีกจริง ๆ
“หม่ามี๊ คนไข้เด็กที่หม่ามี๊ไปดูแลวันนี้ เขาเป็นยังไงบ้าง?”
หลังจากที่อิคคิวถูกรับกลับมา สิ่งแรกที่อยากจะถาม ก็คือคำถามนี้
ตอนนี้เส้นหมี่กำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว เมื่อได้ยินลูกชายเอ่ยถาม เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จึงตอบแบบไม่ใส่ใจ: “ก็ดีนะ ไม่ได้เป็นหนักอะไร ตอนนี้ใกล้หายดีแล้ว”
“เหรอครับ งั้นก็ดี!”
อิคคิวได้ยินดังนั้น ในที่สุดจิตใจที่เป็นกังวลมาตลอดทั้งวันก็วางในลง
รินจังเดินเข้ามา นอนคว่ำลงข้าง ๆ พี่ชาย: “พี่คะ พี่ชินจังไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมคะ?”
“น่าจะใช่ แต่ว่า ต่อไปพวกเราอย่าจับคู่ให้อาธิปกับหม่ามี๊อีกเลย พี่คิดว่าที่ชินจังไม่สบาย น่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“หา? จริงเหรอคะ?”
“อืม เขาฉลาดแบบนั้น รู้ว่าพวกเราไม่ให้หม่ามี๊ไป จะต้องคิดถึงเรื่องนี้ได้แน่ ทั้งร้อนใจและเป็นกังวล ก็เลยป่วยน่ะ”
อิคคิวฉลาดไม่น้อย หลังจากที่ผ่านมาทั้งวัน เขาก็ได้คิดถึงประเด็นนี้
หลังจากที่รินจังได้ยิน แม้แต่การ์ตูนที่สนุกที่สุดในโทรทัศน์ก็ไม่สนุกอีกแล้ว ขยับเข้ามาใกล้ ๆ พี่ชายและหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมา: “งั้นจะทำยังไงดี? แด๊ดดี้เน่าไม่ดีกับหม่ามี๊เลยสักนิด หนูไม่ชอบให้เขาอยู่กับหม่ามี๊”
อิคคิว: “……”
จำยังไงได้อีก?
ทำได้เพียงคิดหาวิธีไม่ให้แด๊ดดี้เน่ารังแกหม่ามี๊อีก
อิคคิวตัดสินใจว่าชินจังหายดีแล้ว ค่อยโทรหาเขา และปรึกษาหารือกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
สามแม่ลูกผ่านค่ำคืนที่อบอุ่นและสงบสุขมาด้วยกัน
เช้าวันต่อมา
เส้นหมี่เพราะเป็นห่วงลูกชายคนโตที่ยังป่วยอยู่ ก็เลยตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า
เธอไม่เพียงได้ทำเบเกอร์รีเองกับมือตั้งแต่เช้าตรู่ และยังได้ต้มโจ๊กที่ใส่ยาสมุนไพรลงไปที่ทำให้สบายท้อง เตรียมที่จะเอาไปด้วย
หลังจากอิคคิวที่รู้ความได้ตื่นขึ้นมา เห็นหม่ามี๊วุ่นอยู่ในห้องครัว ก็ไม่เพียงสวมเสื้อตัวเล็กกางเกงตัวน้อยเอง เขายังได้ช่วยน้องสาวแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็มาที่ห้องครัวด้วยกัน
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ทำให้พี่ชายคนนั้นเหรอ?”
“ใช่จ้ะ เขาไม่สบาย หม่ามี๊เลยทำโจ๊กสมุนไพรให้เขา อยากให้เขาหายป่วยเร็ว ๆ”
เส้นหมี่เห็นลูกชายได้พาน้องสาวที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยออกมา ก็ทั้งปลื้มใจ ทั้งดีใจ
รินจังเดินเข้ามาและทำจมูกฟุดฟิดดมกลิ่นหอมอบอวลของขนมพวกนั้น: “หม่ามี๊ อันนี้ก็ให้พี่ชายคนนั้นทานเหรอคะ?”
“ไม่ใช่หรอกจ้ะ พวกนี้ก็มีส่วนของพวกลูก ๆ เหมือนกัน หม่ามี๊จะลืมพวกหนูสองคนได้ยังไง?”
เส้นหมี่รีบปฏิเสธ
จากนั้น ก็ได้นำขนมที่พึ่งทำเสร็จใหม่ ๆ ให้กับลูกสาว
ต่างก็เป็นลูกของเธอ เธอจะรักไม่เท่ากันได้ยังไง?
ดังนั้นเมื่อเด็กทั้งสองคนทานเสร็จ เส้นหมี่ก็จูงมือลูกทั้งสองคนคนละข้างลงจากตึก และพาพวกเขาไปส่งที่โรงเรียนอนุบาล แล้วค่อยไปที่เรืองรอง
“ชินชิน หนูตื่นหรือยัง?”
ตึกวังฬาหนึ่งในเวลาเช้าตรู่นั้นงดงามเป็นพิเศษ ดอกไม้นานาชนิดในสวนออกดอกบานสะพรั่ง หลังจากที่แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องลงมา ราวกับว่าที่นี่ได้ปกคลุมไปด้วยม่านบาง ๆ
งดงามอย่างที่สุด
เส้นหมี่ในมือถือโจ๊กสมุนไพรเดินเข้ามา และคิดจะไปหาลูกชายที่ชั้นสองเป็นอันดับแรก