ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 510 เธอเอาอกเอาใจสุดๆ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 510 เธอเอาอกเอาใจสุดๆ
สีหน้าแครอทซีดขาว
เธอไม่กล้าพูดอะไรอีก ถือยากับเข็มฉีดที่ตัวเองเอามา รักษาให้แสงดาวอย่างตั้งใจ
ต้องบอกว่า เช้าวันนี้ หลังจากแสงดาวใช้ยาของเธอ ก็ดีขึ้นเยอะ อย่างน้อย เธอก็ไม่บ้าคลั่งอย่างก่อนหน้านี้ สามารถนั่งลงพักผ่อนสักพักอย่างสงบนิ่งได้
“คุณแครอท ไม่งั้น เที่ยงนี้ทานข้าวที่นี่ไหมคะ?”
หลังจากพี่ภาเห็น ก็ถามไปตามมารยาท
เธอมาตรวจดูคุณหนูใหญ่ แล้วก็จะเที่ยงพอดี ไม่เรียกเธอทานข้าว ก็คงไม่ดี
แต่แครอทได้ยินแล้ว กลับตอบกลับเธอไปอย่างดีใจทันทีว่า:“เอาสิคะ เดี๋ยวฉันช่วย”
พี่ภา:“……”
พอเหลือบมองแสนรักที่มีใบหน้าเหยเก เธอก็อยากจะตบปากตัวเองจริงๆ
หลังจากทั้งสองเข้าไปในครัวแล้ว คุณชายคิวเห็นสีหน้าแด๊ดดี้แย่มาก ก็รีบเข้ามา
“แด๊ดดี้ ตอนนี้อาการคุณป้ายังไม่มั่นคง น้าแครอทอยู่ทานข้าวที่นี่ก็ดีแล้ว ตอนบ่ายก็จะช่วยดูเธอได้”
“อือ……”
ชินจังก็เห็นด้วย
แสนรักมองเด็กชายสองคนที่จู่ๆ ก็เหมือนมีนิสัยเปลี่ยนไป สุดท้าย ก็ได้แต่ทำแบบนี้
เขาไม่สนใจพวกเขา หันกลับแล้วขึ้นไปชั้นบน
เขายังรอสายของดลธี จากแผนการ หลังจากเขาเอาเถ้ากระดูกไปให้คณาธิปเมื่อสองวันก่อน ทางด้านเจแปนก็น่าจะได้รับข่าวแล้ว
แต่ว่า ทำไมตอนนี้ไอ้โง่นั่นยังไม่เคลื่อนไหว?
แสนรักมาที่ห้องทำงานแล้วเปิดคอมพิวเตอร์
สี่สิบนาทีต่อมา อาหารที่ชั้นล่างก็ทำเสร็จ
ต้องไปเรียกเขาไหม?
แครอทมองดูอาหารที่ทำเสร็จแล้ว ในใจก็สั่นไหวเล็กน้อย
เดิมทีเธอมาเพื่อใกล้ชิดชายคนนี้ ตอนนี้มีโอกาสดีแบบนี้แล้ว แน่นอนว่าเธอไม่อยากปล่อยมันไป
แครอทก็ขึ้นไปชั้นบนอย่างกล้าหาญ
“รัก พี่ภาให้ฉันขึ้นมาเรียกคุณทานข้าว”
เธอมาที่ห้องทำงานอย่างระมัดระวัง กลัวว่าคนด้านในได้ยินเสียงของเธอแล้วจะโกรธ เธอยังตั้งใจแกล้งทำเป็นถูกพี่ภาส่งให้ขึ้นมาด้วย
แสนรักไม่ได้ยิน
ตอนนี้เขา กำลังคุยโทรศัพท์กับดลธี
“ประธาน ผมถามแล้ว พวกเขาปล่อยคนไปแล้ว”
“ปล่อยแล้ว?ปล่อยแล้วทำไมยังไม่เห็นเธออีก?เธอล่ะ?”
แสนรักได้ยิน ก็ถามอย่างโมโหทันที
ดลธีที่อยู่ปลายสายก็รีบพยักหน้า:“ใช่ ผมก็คิดเช่นนี้ แต่คนซาจากรุ๊ปกลับพูดว่า คุณนายถูกพวกเขาปล่อยไปนานแล้ว และยังเอาคลิปให้ผมดูด้วย”
จากนั้นเขาก็เอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่เพิ่งได้มา ส่งไปให้BOSSผู้ยิ่งใหญ่ที่เริ่มจะบ้าระห่ำขึ้นมาแล้ว
แสนรักหน้าซีดเล็กน้อย กดเปิดวิดีโอ
จริงด้วย ในวิดีโอกล้องวงจรปิดนี้ คนที่ปรากฏตัวในนั้น คือยัยโง่ของเขาจริงๆ เห็นแค่ว่าในมือเธอกำลังถืออะไรเดินออกมาจากกระท่อมไม้นั่น
หลังจากนั้น เธอก็หายไปอย่างรวดเร็ว
หรือว่า เธอจะถูกปล่อยตัวไปจริง?
ในใจแสนรักนั้นดีใจสุดๆ:“งั้นคุณรีบไปสืบให้ชัดเจน ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันแน่?ตอนนี้ผมก็ยังไม่เห็นเธอกลับประเทศเลย”
ดลธีรีบพยักหน้า:“ผมทราบครับ ผมกำลังหา ผมว่าจะไปดูที่นี่ก่อน ทางด้านสนามบิน ผมเพิ่งไปสืบมา ไม่มีข้อมูลขึ้นเครื่องของคุณนายเลย”
“ที่ไหน?”
“คากาวะ”
“คากาวะ?”
แสนรักเคยไปเจแปน และที่นั่นก็มีอุตสาหกรรมของเขาด้วย แต่สถานที่ระดับมณฑลอย่างคากาวะ เขาไม่มีทางที่จะรู้จักดี
สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงตกลง จากนั้นวางสายไปอย่างอารมณ์เสีย
แครอทยืนอยู่หน้าประตู พอเห็นโอกาสมา ทันใดนั้น เธอก็พูด:“ใช่ที่คากาวะทะเลสาบซากะในเจแปนไหม?”
เสียงนี้พูดเสร็จ ชายหนุ่มข้างในก็หันหน้ามาทันที
มีความเยือกเย็นเล็กน้อย และก็รังเกียจเล็กน้อย
แต่สุดท้าย พอฟังว่าผู้หญิงคนนี้พูดอะไรอย่างชัดเจน เขาก็ระงับอารมณ์ชั่วคราว
“คุณรู้จักที่นั่น?”
“ไม่ ฉันไม่รู้จัก แต่เมื่อก่อนบังเอิญได้ยินคณาธิปพูดถึงครั้งหนึ่ง บอกว่าแม่เลี้ยงเขามีคฤหาสน์อยู่ที่นั่น ดังนั้นเมื่อกี๊ที่คุณพูดถึงที่นี่ ฉันเลยนึกออก”
แครอทอดกลั้นความดีใจข้างในใจ อธิบายให้ชายคนนี้ฟังอย่างละเอียด
แต่บังเอิญได้ยินคณาธิปพูดจริงหรือเปล่า?
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
ตอนนี้พวกเขาตระกูลลัดดาวัลย์เป็นหุ้นส่วนของคนเหล่านั้น ในหลายๆ เรื่อง พวกเขาจึงรู้จัก
แสนรักหรี่ตาลง
เขาไม่เชื่อเธอขนาดนั้น ได้ยินเสียงนี้ครั้งแรก ที่เขาอยากทำก็คือ ไล่เธอลงไป ไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ใครให้เธอขึ้นมา?
อย่างไรก็ตาม หลังจากเขาจ้องเธออยู่ครู่หนึ่ง สุดท้าย ก็ส่งชื่อสถานที่นั้นไปให้ดลธีซึ่งอยู่ในเจแปน
ส่งเสร็จ สายตาเย็นชาคู่นั้นก็มองมา
ในใจแครอทเต้น“ตึกตัก”
“เอ่อ ฉันขึ้นมาเรียกคุณกินข้าว ข้าวเสร็จแล้ว และก็ ฉันอยากบอกคุณก็คือ ที่จริงคณาธิปไม่ได้เก่งขนาดนั้น คนที่คอยบงการทุกอย่างจริงๆ คือแม่เลี้ยงเขา”
เธอพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้ผู้ชายคนนี้โกรธ โดยเปิดเผยสิ่งที่สำคัญนี้
จริงด้วย แสนรักที่จะไล่เธอออกไปอยู่แล้ว จู่ๆ ก็หยุดลง
“แม่เลี้ยง?”
“ใช่ คุณน่าจะไม่รู้ ตอนนั้นที่คณาธิปนั่งตำแหน่งท่านประธานใหญ่ซาจากรุ๊ปได้ ก็เพราะแม่เลี้ยงคนนี้ให้เฮกังทามุทำแบบนี้”
“……”
คำนี้ดูแปลกเล็กน้อย ตระกูลเฮกังไม่มีลูกชายแล้วหรือ?ถึงให้ลูกบุญธรรมมาสืบทอดตำแหน่งท่านประธานใหญ่ของซาจากรุ๊ป