ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 524 เธอผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 524 เธอผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานนัก เส้นหมี่ที่ไปซื้อของข้างนอกกลับมา เธอถือเงินตำลึงจีนที่พับแล้วกับเทียนแดงถุงใหญ่ และไก่ย่างที่ทำเสร็จแล้วอีกอัน และก็หางหมูอันหนึ่ง สองถุงใหญ่เต็มๆ เดินเข้าไปในครัว
พี่ภา:“ซื้อเยอะจัง?และยังมีย่างกับหางหมู คุณนาย คุณรู้เรื่องพวกนี้ได้ไง?”
“อ๋า?”
สีหน้าเส้นหมี่เปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที
“ฉัน……ฉันก็ไม่รู้ แต่ถามเจ้าของร้านที่ขายตำลึงจีนกับเทียนแดง เขาบอกฉันค่ะ”
“ที่แท้ก็แบบนี้เอง ก็ว่าอยู่ ผู้หญิงอย่างคุณ ตอนเด็กๆ พ่อแม่น่าจะไม่ได้สอน จะเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ไงคะ?”
พี่ภาเข้าใจทันที
ของเหล่านี้ คนทั่วไปไม่รู้จักจริงๆ มีแค่คนที่ไหว้เจ้าถึงรู้ และก็ สำหรับหางหมูแล้วนั้น คนทั่วไปไม่ใช้ของแบบนี้
ถ้าคนอย่างตระกูลหิรัญชา จะต้องใช้หมูหันย่างตัวหนึ่งแน่
แต่ว่า ในเมื่อเจ้าของร้านธูปเทียนบอกแล้ว ก็ว่าเธอไม่ได้
พี่ภาจัดสิ่งของเหล่านี้ให้เรียบร้อย
เส้นหมี่เห็นเธอทำ จึงไม่สนใจอีก แต่ไปล้างมือ แล้วเธอก็ขึ้นไปชั้นบน
“สามี คุณอยู่ไหน?ฉันกลับมาแล้ว”
เสียงอ่อนนุ่มของเธอดังขึ้นที่ชั้นสอง พร้อมกับความไพเราะเล็กน้อย ฟังแล้วในใจปั่นป่วน
แสนรักกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องนอน เป็นคณาธิปโทรมา เขาก็รู้เรื่องที่เส้นหมี่กลับมาแล้ว ดังนั้นเย็นนี้ เขาจึงโทรมา
“ตอนนี้เรื่องที่ฉันต้องทำ ทำเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้ถึงตานายแล้วสินะ?”
“วางใจเถอะ ฉันบอกแล้ว ก็ต้องให้นายอยู่แล้ว”
แสนรักได้ยินเสียงแผ่วเบาเรียกเขาจากด้านนอก ก็ไม่มีอารมณ์ยุ่งกับเขาเรื่องนี้อีกต่อไป ตอบตกลงไปโดยตรง
คณาธิปดีใจทันที:“งั้นนายจะให้เมื่อไหร่?วันมะรืนฉันจะจัดงานแถลงข่าว และต้องประกาศรายละเอียดทั้งหมดของหุ้นบริษัทหิรัญชากรุ๊ปต่อภายนอก”
ความหมายของเขาคือ จะใช้สิ่งเหล่านี้มาโน้มน้าวใจประชาชน
พิสูจน์ว่าช่วงนี้เขาที่มีข่าวลือว่าจะช่วงชิงหิรัญชากรุ๊ป ได้รับมันมาอย่างสมเหตุสมผล
แสนรักหัวเราะอย่างเยือกเย็น:“นายวางใจเถอะ ฉันจะให้มัน ก่อนนายประกาศอย่างแน่นอน”
จากนั้น เขาก็วางสาย
เวลานี้เส้นหมี่อยู่หน้าห้องพอดี ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เขาพูด เธอก็เข้ามา
“คุณตัดสินใจเอามรดกที่คุณท่านทิ้งไว้ให้คุณ ไปให้เขาจริงๆ หรือ?”
“อืม ของพวกนี้ เดิมทีเป็นของเขาอยู่แล้ว”
แสนรักพยักหน้านิ่งๆ
หลังจากเรื่องเมื่อวาน ตอนนี้เขาเปิดใจกว้างแล้วจริงๆ ตาแก่น่าจะอยากเอาหุ้นบริษัท 35% นี้ทิ้งไว้ให้เขาจริง แต่ว่าตอนนี้ดูแล้ว เขากลับรู้สึกว่าควรคืนให้คณาธิป
เพราะว่า คณาธิป เป็นลูกที่แท้จริงของธนากรต่างหาก
ส่วนเขาแสนรัก ยี่สิบกว่าปีมานี้ ต้องขอบคุณการเลี้ยงดูอบรมของเขา ได้รับของมากมายจากเขาเพียงพอแล้ว เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเอาสิ่งของของตระกูลหิรัญชาของเขาไปอีก
เส้นหมี่ฟังจบ ก็เห็นด้วยกับวิธีทางของเขาอย่างเข้าอกเข้าใจ
“ได้สิ พวกเราเอาสิ่งนี้ให้เขาแล้ว ต่อไปพวกเราก็ไปจากนี่ และพาพวกลูกๆ ไปมีชีวิตใหม่อีกที่ จากความสามารถคุณแล้ว ฉันเชื่อว่าพวกเราต้องไม่มีชีวิตแย่แน่นอน”
“คุณพูดอะไร?”
แสนรักตะลึง จู่ๆ ก็มองไปที่เธอเขม็ง
เส้นหมี่:“……”
ทำไม?
เธอพูดอะไรผิดงั้นหรือ?เขาไม่ชอบไปจากที่นี่?
เส้นหมี่เสียใจเล็กน้อยทันที ไม่ควรพูดเร็วไป:“คุณอย่าโกรธสิ เมื่อกี๊ฉัน……แค่เปรียบเทียบ ถ้าคุณไม่อยากไป ไม่เป็นไร ฉันอยู่กับคุณเอง”
คำนี้ เรียกได้ว่าแสดงความอ่อนโยนของผู้หญิงคนหนึ่งได้ถึงขั้นสุด
แต่ว่า ผู้ชายคนนี้กลับเงียบมากขึ้น
เขามองเธอแบบนี้ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เหลือเพียงแต่สายตาหม่นหมอง มองจนเส้นหมี่ประหม่า
“พวกเราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือ จะไปมัลดีฟส์?”
“อ๋า?”
สีหน้าเส้นหมี่เปลี่ยนไปมากทันที
มัลดีฟส์?!!
สมองของเธอว่างเปล่าชั่วครู่
แต่แป๊บเดียว เธอก็สงบนิ่งอีกครั้ง:“ไปจริงๆ หรือ?ฉันคิดว่าครั้งนั้นคุณพูดเล่นเสียอีก”
“จริงสิ คุณงอแงกับผมอยู่นาน ผมจะพูดเล่นๆ ได้ไง ผมจัดการไว้แล้ว”
แสนรักละสายตากลับ จากนั้น หยิบสัญญาซื้อขายบ้านที่มัลดีฟส์ออกมาจากในลิ้นชัก
เส้นหมี่เห็น เธอที่กลับมาสงบอีกครั้ง ในที่สุดก็ยิ้มอย่างประหลาดใจ
“โอเค งั้นพวกเราก็ไปมัลดีฟส์ รอเรื่องราวทางนี้เสร็จสิ้น ต่อไปพวกเราก็ใช้ชีวิตที่นั่นกันทั้งครอบครัว”
ในสายตาของเธอเต็มไปด้วยความปีติยินดี ราวกับว่ามองเห็นภาพของความสุขในอนาคต ตื่นเต้นจนถือสัญญาฉบับนี้ แล้ววิ่งลงไปบอกข่าวดีนี้กับคนข้างล่าง
แสนรัก:“……”
ช่างเถอะ บางที เธออาจจะลืมไปจริงๆ
หลังอาหารเย็น
เพราะในบ้านมีภารานินเพิ่มมาอีกคน พี่ภาจึงต้องถูกให้ไปดูแลเธอที่ชั้นสาม
พอเธอไป เด็กๆ ที่อยู่ชั้นสองก็ได้แต่มีสองสามีภรรยาแสนรักดูแล แต่ว่า ส่วนมากก็ยุ่งอยู่กับเส้นหมี่ เพราะว่าพวกเด็กๆ ไม่ได้เจอเธอนานแล้ว