ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 56 เธอเป็นพี่เลี้ยงของเขาเหรอ
“ชินชิน สนุกไหมจ๊ะ?”
“ครับ”
ตอนนี้ชินจังกำลังนั่งอยู่บนเรือไม้เล็ก ๆ ลำหนึ่ง เรือลำนี้เป็นเรือลำแม่ลูก ไม่มีเครื่องยนต์ อาศัยเท้าของสองแม่ลูกถีบ และยังมีไม้พายคู่เอาไว้พาย ดังนั้นเส้นหมี่เป็นคนถีบ ส่วนเจ้าตัวเล็กใช้มือพายอยู่ไม่หยุด
มีความสุขมากจริง ๆ เห็นหน้าของเขาแดงเป็นลูกแอปเปิล เหงื่อผุดขึ้นมาเต็มหน้าฝาก แต่ว่า ดวงตาที่งดงามคู่นั้นดูสดใสเป็นพิเศษ แตกต่างไปจากเดิมที่ดูไร้ชีวิตโดยสิ้นเชิง
เส้นหมี่ยิ้มขึ้นมา และออกแรงถีบเรือลำเล็ก ๆ เตรียมที่จะพาเขาเที่ยวเล่นต่อไป แต่ในตอนนี้เอง โทรศัพท์กลับได้ดังขึ้น
“ฮัลโหล?”
“คุณหญิง คุณนาย แม่ทูนหัวของผม วันนี้คุณได้ทำอะไรลงไป คุณล่อลวงคุณชายน้อยออกไปได้ยังไงกัน? พระเจ้า ผมอยากจะบ้าตาย……คุณรีบกลับมาเลยนะ ไม่งั้นละก็คุณจะต้องจบเห่แน่ ๆ เลย!”
คิดไม่ถึงว่า ทันทีที่รับโทรศัพท์ คนที่โทรเข้ามาก็คือเคมีนั่นเอง
เส้นหมี่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที: “ทำไมเหรอ? เขารู้แล้วเหรอ? ไม่ใช่นะ……ฉันไม่ได้ล่อลวงชินชินออกมา แต่เป็นเพราะชินชินไม่อยากเจอคุณปูเท่านั้นเอง ฉันถึงได้ออกมากับเขา”
นึกไม่ถึงเลยว่ามาถึงตอนนี้แล้วเส้นหมี่ยังไม่ทันได้สติกลับคืนมาอีก
เคมีไม่พูดอะไรอีก เพียงเรียกร้องให้แม่ทูนหัวคนนี้พาเด็กน้อยกลับมา บอกกับเธอว่า ถ้าหากยังไม่กลับมา ต่อไปเธอก็จะไม่ได้พบกับเจ้าตัวเล็กอีก
เมื่อเส้นหมี่ได้ยินดังนั้น ถึงได้พาเจ้าตัวเล็กกลับขึ้นฝั่งอย่างไม่เต็มใจ
“ชินชิน วันนี้พวกเราเล่นแค่นี้ก่อนเถอะ หนูเพิ่งหายป่วย จะเหนื่อยมากเกินไปไม่ได้ พวกเราไปหาแด๊ดดี้ก่อนดีไหม?”
“แด๊ดดี้?”
ชินจังเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดมาก เมื่อได้ยินหม่ามี๊พูดแบบนี้ ก็รับรู้ได้ ถึงความผิดปกติทันที
แต่ว่า เส้นหมี่ในเวลานี้ ไม่มีทางที่จะบอกเรื่องพวกนั้นกับเขาแน่นอน หลังจากที่ปลอบประโลมเขาอยู่สักพัก ก็ได้อุ้มเขาไป จากนั้นไม่นาน สองแม่ลูกก็ได้ไปจากสวนสนุก และมุ่งหน้าไปที่ตึกหิรัญชากรุ๊ป
ยี่สิบนาทีต่อมา ใจกลางเมือง ตึกหิรัญชากรุ๊ป
เส้นหมี่ได้พาชินจังมาถึงด้านหน้าตึกระฟ้าแห่งนี้ เดิมที หลังจากที่เธอได้รับโทรศัพท์ในเมื่อสักครู่ เธอก็ไม่อยากจะขึ้นไปเลยสักนิด ดูจากน้ำเสียงของเคมีแล้ว หลังจากที่ขึ้นไป ชายโฉดคนนั้นจะต้องหาเรื่องเธอแน่
แต่ว่า……
“คุณน้าครับ?”
“อ้อ ๆ โอเค ตอนนี้แหละ น้าพาหนูขึ้นไปนะ”
เส้นหมี่ได้สติกลับคืนมา เธอมองดูเด็กน้อยที่หน้าตาซีดเซียวด้วยลักษณะของคนเพิ่งหายป่วยที่อยู่ในรถ และได้พาเขาลงจากรถ
“เอ๊ะ? นี่คุณชายเล็กไม่ใช่เหรอ? ทำไมวันนี้ถึงมีเวลามาได้ล่ะ?”
น่าจะเป็นเพราะแสนรักได้พาชินจังมาที่นี่บ่อย ๆ คนในบริษัททุกคนต่างก็รู้จักเขา หลังจากที่เส้นหมี่พาเขาเข้ามา ทันทีทันใด เสมียนที่อยู่แผนกต้อนรับก็ได้เข้ามาทักทายเขาอย่างกระตือรือร้น
ชินจังเป็นคนไม่ชอบพูด เพียงแค่ชายตามองหล่อนอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง
เมื่อเส้นหมี่เห็นดังนั้น ก็รีบตอบแทนเขาทันที: “ใช่แล้ว แด๊ดดี้ของเขาให้ฉันพาเขามาส่ง เขาอยู่บนตึกหรือเปล่า?”
“อยู่ค่ะ ๆ วันนี้ตอนบ่ายท่านประธานไม่ได้ออกไปไหนเลย เอ๊ะ? เมื่อก่อนไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย คุณคือพี่เลี้ยงคนใหม่ของคุณชายเล็กเหรอคะ? ยังสาวอยู่เลย”
คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่เสมียนคนนี้ได้พิจารณาดูเส้นหมี่อยู่สักพัก ก็ได้ถามคำถามแบบนี้ออกมา
เส้นหมี่ตัวแข็งทื่อไปทันที
พี่เลี้ยง?
ใครว่าไม่ใช่กันล่ะ? เด็กคนนี้ ตอนนี้แม้แต่ยอมรับว่าเขาเป็นลูกเธอยังไม่กล้าเลย และในตึกแห่งนี้ ก็ไม่มีใครที่รู้ว่าเธอเคยเป็นภรรยาท่านประธานของพวกเขา และยิ่งเคยเป็นนายหญิงของตึกแห่งนี้มาก่อน
เพราะงานแต่งในตอนนั้น ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน!
เธอกลอกลูกตามองต่ำลง ร่องรอยของการเย้ยหยันตัวเองได้แวบผ่านไปที่มุมปากซีด ๆ ของเธอ และกำลังจะยอมรับ แต่ในตอนนี้เอง มือเล็ก ๆ ที่ถูกเธอจับอยู่นั้นจู่ ๆ ก็ได้ออกแรงดึงเธอสองครั้ง
“ไปกัน!”
สายตาของชินจังเย็นชาถึงขีดสุด เหมือนกับว่าจู่ ๆ ก็ได้มีคนทำให้เขาไม่พอใจอย่างไรอย่างนั้น!
เมื่อเส้นหมี่ได้เห็น ก็ไม่กล้าหยุดอยู่ตรงนี้อีก และรีบพาเจ้าตัวเล็กคนนี้ไปขึ้นลิฟต์ทันที ส่วนเสมียนที่อยู่ตรงแผนกต้อนรับ ไม่นานหลังจากนั้น ก็ได้รับหนังสือแจ้งเลิกจ้างมาจากแผนกทรัพยากรบุคคล
เหตุผล: คุณชายเล็กไม่ชอบ!!
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ได้พาชินจังมาถึงห้องทำงานของท่านประธานที่ชั้นบนสุด
“แค่ก ๆ ๆ ……ชินชิน หรือไม่ก็ หนูเข้าไปเอง? น้าไม่เข้าไปแล้ว แด๊ดดี้ของหนูอยู่ข้างใน น้าเข้าไปด้วยไม่ค่อยจะดี ดีไหม?”
เมื่อเห็นว่าในที่สุดก็ได้มาถึงที่นี่ เส้นหมี่ยิ่งไม่อยากเข้าไปขึ้นมาเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้วเธอก็ได้ถอดใจอยู่ตรงนี้
ชินจังมองดูเธอแวบหนึ่ง และได้ตอบตกลง: “ครับ!”
จากนั้น เขาก็ปล่อยมือเล็ก ๆ ของตัวเองอย่างรวดเร็ว และก้าวเท้าเล็ก ๆ เดินเข้าไป
เส้นหมี่ชะงักงัน……
เป็นไปได้ยังไง?
ลูกชายว่าง่ายขนาดนี้เชียว? ไม่คิดเลยว่าเขาจะตกลงจริง ๆ? ก่อนหน้านี้เขาติดเธอมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ว่าง่ายแบบนี้ล่ะ?
เส้นหมี่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ว่า ในเมื่อลูกชายได้ตกลงแล้ว เธอก็ดีอกดีใจ ตอนนั้นเอง เธอก็ได้ย่องเท้าเบา ๆ เตรียมกลับไปที่ลิฟต์ และรีบลงไปที่ด้านล่าง
“เส้นหมี่! คุณไสหัวเข้ามาเดี๋ยวนี้นะ!!”
ใครจะไปคิดละว่า จู่ ๆ เสียงตวาดก็ได้ดังระเบิดออกมาจากภายในห้อง ทันใดนั้น เส้นหมี่ก็เหมือนได้ถูกจี้จุดอย่างไรอย่างนั้น ไม่สามารถขยับตัวได้เลย
ชายโฉดคนนี้ หูดีขนาดนี้เชียว?
สุดท้ายแล้วเส้นหมี่ยังคงไสหัวเข้ามาอย่างว่าง่าย เหมือนดั่งแกะเชื่องตัวหนึ่ง
“ประธานแสนรัก ฉันมาแล้วค่ะ เหอะ ๆ ……”
ในตอนที่ได้เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานห้องนั้น เส้นหมี่ก็มองเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของท่านประธานคนนั้นในทันที ภายในห้องทำงานที่กว้างขวางและสว่างไสว แสงอาทิตย์อันสดใสได้สาดส่องผ่านกำแพงกระจกขนาดใหญ่เข้ามา กระทบลงบนร่างกายของเขา ราวกับพระราชาผู้สูงส่งเหนือมวลมนุษย์ ดูสง่างามสูงส่งจนคนไม่กล้ามองตรง ๆ