ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 595 นางงูพิษมาอีกแล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 595 นางงูพิษมาอีกแล้ว
เส้นหมี่หลบหลีกได้อีกครั้งแล้ว ถึงอีกวัน เธอยังรู้สึกขาดความมั่นใจ
เธอไม่กล้าทำอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบอีกแล้ว
แต่ว่า เธอคิดไม่ถึงว่า วันถัดมาหลังจากเธอไปถึงบริษัทแล้ว กลับได้รับสายโทรศัพท์จากเนติคนชั่วช้าคนนั้น
“หมี่ ไม่ได้ติดต่อกันเสียนาน ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณอยากจะทำอะไร”
เส้นหมี่ได้ยินเสียงเสียงนี้ ทันใดทั้งร่างก็สั่นเทาขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
ครึ่งหนึ่ง เป็นเพราะว่าโมโห
ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง แน่นอนเป็นเพราะว่าหวาดกลัว!
เธอกลัวผู้หญิงคนนี้ที่จิตใจเหมือนกับงูพิษ อยากจะให้เธอทำเรื่องอะไรอีก?
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่จะกล่าวขอบคุณ ครั้งที่แล้วที่ปล่อยลูกชายของฉัน โชคดีที่มีคุณจริงๆ”น้ำเสียงของเนติในสายโทรศัพท์นั้นดีมาก เหมือนกับผู้ใหญ่ในบ้าน ที่กำลังพูดคุยกับลูกหลานของตัวเอง
เส้นหมี่ไม่เชื่ออย่างแน่นอน
แต่ว่า เธอพูดอย่างนี้แล้ว เธอจึงตอบกลับไปอย่างเย็นชาว่า:“ไม่เป็นไร เพียงแค่คุณจำสิ่งที่รับปากเอาไว้ด้วยก็แล้วกัน”
เนติยิ้มออกมา:“ฉันจำได้อย่างแน่นอน หมี่คุณวางใจเถอะ ป้าไม่ใช่คนที่พูดแล้วไม่เป็นคำพูดแบบนั้น คำพูดที่เคยพูดไป ต่างทำตามที่พูดทั้งนั้น”
เส้นหมี่:“……”
ภายในใจโล่งอกไป เธอกำลังจะวางสายไป
แต่เวลานี้ ผู้หญิงคนนี้ก็พูดออกอีก:“ใช่สิ ฉันอยากถามหน่อย เกี่ยวกับซาจากรุ๊ป หิรัญชากรุ๊ปของพวกคุณจะจัดการยังไงเหรอ สามารถบอกกับฉันหน่อยได้ไหม”
“ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร เรื่องนี้ฉันไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบ!”
เส้นหมี่ได้ยิน ในที่สุดก็ด่าออกมาอย่างสุดจะทน
เนติกลับไม่ได้โมโห อีกทั้งน้ำเสียงของเธอยิ่งเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนมากกว่าเดิมอีก
“อย่าโมโหสิ ฉันก็แค่อยากรู้เท่านั้น ว่าครั้งนี้ ซาจากรุ๊ปของพวกเราเสียหายไปเท่าไหร่ ฉันจะวางแผนรับมือได้ถูก หมี่ คุณต้องเข้าใจนะ หิรัญชากรุ๊ปนั้น เดิมทีเป็นของลูกชายฉัน ถ้าเสียหายมากไป อารมณ์ของฉันก็คงไม่ดีขึ้นมา”
“……”
เหมือนกับว่าถูกงูพิษกัดเข้าแล้วหนึ่งทียังไงอย่างนั้น ทันใดหัวใจเส้นหมี่ก็หล่นลงไป เดิมทีคิดว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้วแต่กลับไม่แน่ใจขึ้นมาแล้ว
ใบหน้าเล็กขนาดเท่าฝ่ามือ ยิ่งซีดขาวขึ้นมาเหมือนกับกระดาษ!
“คุณ……จะเอายังไงกันแน่ เนติ ฉันจะบอกให้นะ คุณอย่าคิดว่าได้คืบจะเอาศอก”
“อะแฮ่ม เอาอีกแล้วนะ ป้าพูดกับคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ ป้าไม่ได้จะให้คุณไปทำเรื่องอะไรอีก ตอนนี้ป้าแค่อยากจะรู้เรื่องนี้ คุณก็แค่เผยออกมาให้ฉันรู้นิดหน่อยก็เท่านั้นเอง อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ไปสิ”
ผู้หญิงคนนี้ ในสายโทรศัพท์กลับเรียกแทนตัวเองว่าป้า อีกทั้งยังรับรองกับเส้นหมี่ เธอก็แค่อยากจะให้เส้นหมี่ไปสืบดูสักหน่อยเรื่องที่หิรัญชากรุ๊ปฟ้องร้องซาจากรุ๊ป
ความต้องการของเธอง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ?
ภายในใจของเส้นหมี่นั้นกระวนกระวายเหมือนกับว่าอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย
“ได้ รอสักครู่ ฉันจะช่วยคุณไปสืบ กลับมาแล้วจะบอกคุณ ต่อไปนี้ ไม่ต้องโทรมาหาฉันอีกแล้วนะ”สุดท้ายแล้วเธอก็ยังรับปาก หลังจากนั้นก็วางสายโทรศัพท์ไป
เธอไม่มีทางเลือก
นี่คืองูพิษตัวหนึ่งดีๆนี่เอง ถ้าเธอไม่รับปาก เธอไม่รู้ว่าเธอจะทำเรื่องอะไรออกมาอีก
เส้นหมี่โทรศัพท์ไปหาฝ่ายกฎหมายของบริษัท
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ผู้บริหารเส้นหมี่จากแผนกบริหารการจัดการค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ผู้บริหารเส้นหมี่ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
คนของฝ่ายกฎหมายได้ยินว่าเป็นภรรยาของท่านประธาน น้ำเสียงจึงเปลี่ยนเป็นให้ความเคารพยำเกรงและเป็นกันเองขึ้นมาทันที
เส้นหมี่เม้มปาก อยู่นาน ในที่สุดก็ถามออกมา:“ฉันอยากถามอะไรสักหน่อย เกี่ยวกับเรื่องที่บริษัทของพวกเราฟ้องร้องซาจา ตอนนี้เดินเรื่องไปถึงไหนแล้ว ได้ตั้งข้อหาหรือยัง”
“ใกล้แล้วค่ะ เพราะว่าเป็นคดีข้ามประเทศ ระยะเวลาเลยค่อนข้างนาน แต่ตอนนี้พวกเราก็ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งขึ้นไปแล้ว ตามบทบัญญัติของกฎหมายอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ต้องส่งเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลท้องถิ่น การตัดสินคดีก็เช่นเดียวกัน ตามข้อกฎหมายของที่นี่ ดังนั้นตอนนี้รอให้บริษัทซาจาส่งคนมาก็สามารถเริ่มดำเนินเรื่องได้แล้ว”
“งั้นถ้าพวกเขาไม่มาล่ะ”
“ก็ไม่เป็นไรค่ะ กรณีที่มีหลักฐานยืนยัน เขาจะอยู่หรือไม่อยู่ในชั้นศาลก็ไม่สำคัญ พวกเราก็สามารถต้องข้อหาลงโทษเขาได้ตามเดิม”
คนของฝ่ายกฎหมาย นึกว่าภรรยาเถ้าแก่คนนี้ เป็นห่วงเรื่องคดีคดีนี้ จึงอธิบายกับเส้นหมี่ออกมาอย่างละเอียด
เส้นหมี่ฟังเข้าใจแล้ว
ดังนั้นพูดได้ว่า คดีความนี้ในตอนนี้ ความจริงแล้วก็อยู่ในสถานการณ์ที่กำลังจะจัดการเรียบร้อยแล้ว
ทันใดเธอก็นึกถึงคำพูดของผู้หญิงคนนั้นในสายโทรศัพท์
“ใช่สิ ถ้าคดีนี้ตัดสินออกมาแล้วละก็ สุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร”
“แน่นอนว่าบริษัทซาจาต้องชดเชยค่าเสียหาย ตามจำนวนมูลค่าที่เขาหลอกลวงไปเป็นเท่าตัว ผู้รับผิดชอบบริษัทต้องรับผิดตามกฎหมาย ในครั้งนี้จำนวนเงินที่ถูกกล่าวหามีมูลค่าค่อนข้างมาก ตามกฎหมายของประเทศเราแล้ว น่าจะต้องถูกตัดสินให้รับโทษ สองถึงสามปี”
“อะไรนะ”
คำพูดนี้พูดออกมา เส้นหมี่ถึงกับชะงักไป!
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากให้ผู้รับผิดชอบของบริษัทนี้ถูกตัดสินรับโทษ แต่เมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นพูดไปแล้วว่า ถ้าค่าราคาค่อนข้างมาก เธอคงอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา
งั้นถ้าเธออารมณ์ไม่ดีขึ้นมา งั้นเป็นไปได้ว่า……?
ภายในใจของเส้นหมี่มีความว้าวุ่นขุ่นมัวขึ้นมา
วางสายไป วันนี้ตอนเช้า เธอจึงนั่งอยู่ในออฟฟิศนี้ เป็นเวลานาน ภายในใจของเธอทั้งเหม่อลอยและเป็นกังวล
แม้แต่ตอนพักกลางวันขึ้นไปทานข้าวที่ชั้นบนสุด เธอยังคงรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ตลอด
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”
แสนรักที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ มองเห็นเธอคีบกระเทียมกลีบหนึ่งกำลังจะเอาเข้าปากกับตา เขาจึงยื่นมือมาออกมาขวางตะเกียบของเธอเอาไว้