ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 603 ความสงบก่อนพายุฝนจะมา
ใครก็คิดไม่ถึง ในขณะที่เขากำลังใจลอยอยู่นั้น ชายหนุ่มเบื้องหน้าที่เข้ามาถามคำถาม กลับหยิบโทรศัพท์ยกขึ้นมาถ่ายรูปภารานินที่กำลังเล่นอยู่ที่ด้านข้างบ่อปลาหนึ่งรูป
“คุณทำอะไรน่ะ ทำไมต้องถ่ายรูปเธอ”
ดิลกได้เห็นดังนั้น จึงโมโหขึ้นมา เขาต้องการให้ชายหนุ่มลบรูปนั้นทิ้งไป
แต่คนคนนี้กลับอธิบายกับเขาออกมาอย่างยิ้มแย้ม:“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณผู้ชาย คือผมเห็นว่าคุณยายท่านนี้น่ารักดี และก็มีความสุขมาก ดังนั้นก็เลยอดใจไม่ไหวถ่ายรูปรูปหนึ่ง ในสังคมเราตอนนี้ สามารถอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่านั้น มีไม่มากแล้ว”
ดิลก:“……”
ช่างเถอะ ขี้เกียจจะพูดกับเขาแล้ว
สุดท้ายดิลกจึงไม่ได้สนใจคนคนนี้อีก รอให้ภารานินให้อาหารปลาให้เสร็จ เขาจึงพาเธอไปหาพวกเด็กๆ และยังมีแสงดาว
หลังจากนั้นสองชั่วโมง คนกลุ่มนี้เล่นกันอย่างสนุกสนาน ในที่สุดก็เตรียมตัวกลับบ้าน
แต่ใครก็คิดไม่ถึง ในขณะที่พวกเขากำลังกลับบ้าน ทันใดนั้นถูกรถคันหนึ่งชนมาจากด้านหลัง!
“ปัง——!!”
ทันใด ดิลกที่อยู่ด้านหลัง รีบปกป้องเด็กๆเอาไว้ ไม่มีเวลาไปสนใจดูแลคนอื่น มือทั้งสองรีบเข้ามากอดร่างน้อยๆของพวกเขาเอาไว้แน่น
แสงดาวถูกแรงกระแทกขนาดใหญ่กระแทกเข้ามาจนไปชนเข้ากับพวงมาลัยรถที่อยู่ด้านหน้าอย่างแรง
เป็นเวลานาน สมองดับไป มืดบอดเป็นสีดำ
ไอ้เหี้ยคนไหนขับรถแบบนี้ว่ะ?!!
เธออยากจะด่าออกมา
ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีสติขึ้นมา เธอตะเกียกตะกายคลานขึ้นมาจากเบาะที่นั่ง เตรียมเปิดประตูออกไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่ทันใดนั้น เธอมองเห็นประตูรถคันนี้ของตัวเองด้านหลังกลับถูกเปิดออก
“เกิดอะไรขึ้น ลุงดิลก ประตูรถด้านหลังทำไมถึงถูกเปิดออก”
“อะไรนะ”
ตอนนี้ดิลกเองก็มีสติขึ้นมาแล้ว ได้ยินประโยคนี้เข้าอย่างกะทันหัน เขาถึงรู้สึกขึ้นมาได้แล้วมองที่ด้านหลังของรถsavanaคันนี้
จริงด้วย ประตูรถเปิดออกแล้ว
แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือ ทันใดเขาก็พบว่าตำแหน่งที่นั่งด้านหน้า ภารานินที่นั่งอยู่ใกล้กับประตู ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว ตรงที่นั่งว่างเปล่า
โอ้พระเจ้า คนล่ะ?
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป จากด้านหลังลุกขึ้นมา เขาเดินมาที่ตำแหน่งที่นั่งด้านหน้า:“:ภารานินล่ะ เธอไปไหนแล้ว”
“ห๋า?”แสงดาวอ้าปากกว้าง หลายวินาที เธองงงวยขึ้นมาเป็นอย่างมาก
จริงด้วย คนล่ะ?
แสงดาวเหมือนถูกน้ำเย็นราดลงมา รู้สึกเย็นสะท้านไปทั้งร่าง
——
เมื่อข้อความถูกส่งมาถึงหิรัญชากรุ๊ป แสนรักที่กำลังประชุมอยู่ ทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมาทันใด:“คุณพูดว่าอะไรนะ คุณพูดอีกครั้งซิ”
เคมีจึงยื่นโทรศัพท์มาแทน
“ฮัลโหล แสนรัก คุณฟังฉันก่อน ฉัน……ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ออกมาก็ถูกรถชนเข้าหลังจากนั้นตอนที่พวกเรามีสติขึ้นมา ก็ไม่เห็นแม่ของคุณแล้ว”
ในสายโทรศัพท์ เป็นไปได้ยากมากที่เห็นแสงดาวกระวนกระวาย ตอนที่พูดว่าไม่เห็นภารานินแล้ว น้ำเสียงของเธอเหมือนจะร้องไห้ออกมา
แสนรักหรี่ตาลงอย่างแรง!
“ตึง”ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหม่นหมอง ก้าวขายาวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
คณะผู้บริหารที่กำลังประชุมอยู่:“……”
อยู่ดีๆ แล้วนี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า? ทำไมเจ้าชีวิตคนนี้อยู่ดีๆทันใดจึงเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว?
หลังจากนั้นสิบนาที สถานที่เกิดเหตุ
หลังจากที่แสนรักมาถึงที่นี่ ทั้งร่างของเขาอบอวลไปด้วยความอาฆาต ทันใดทำให้สถานที่แห่งนี้อุณหภูมิลดลงไปหลายองศา ตำรวจเหล่านั้น ยิ่งไม่กล้าส่งเสียงออกมา
“แสนรัก ขอโทษนะ เรื่องเรื่องนี้ โทษผมเอง ถ้าผมไม่เสนอให้พาแม่ของคุณออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
เมื่อดิลกเห็นว่าเขามาแล้ว จึงรีบเข้าไปขอโทษเขา
แสนรักแม้จะกำลังโกรธ แต่เมื่อเห็นว่าพ่อตาคนนี้กล่าวคำขอโทษเขาออกมา เขาจึงรีบยั้งเขาไว้
“นี่ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก เรื่องราวในตอนนี้สืบดูให้ชัดเจนหรือยัง”
“ชัดเจนแล้ว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว หลังจากที่มีคนชนพวกเราเข้า ใช้ประโยชน์จากความโกลาหล หลังจากนั้นเปิดประตูรถของพวกเราคันนี้ แล้วแม่ของคุณก็ถูกลักพาตัวจากรถไป”
ดิลกนำเรื่องราวในสถานการณ์ล่าสุดอธิบายออกมา
นี่เป็นเรื่องที่เขาขอร้องให้ตำรวจจัดการพอดี เขาก็ใช้ชีวิตมาครึ่งหนึ่งของช่วงเวลาชีวิตแล้ว อีกทั้งก็เคยเป็นเถ้าแก่ของบริษัทขนาดใหญ่ ประสบการณ์เหล่านี้ก็พอมีอยู่
ลักพาตัว?
คำพูดเหล่านี้พูดออกมา สีหน้าของแสนรักยิ่งเพิ่มความน่าหวาดกลัวขึ้นมา!
“ใครเป็นคนทำ พวกเขาไม่รู้เหรอว่าพวกคุณเป็นใคร”
“ไม่มีทางไม่รู้แน่ พี่สาวของคุณก็อยู่บนรถด้วยไม่ใช่เหรอ สถานะของเธอ เชื่อว่าผู้คนทั้งเมืองAต่างรู้จัก อีกทั้งรถของตระกูลพวกคุณคันนี้คนอื่นไม่มีทางที่จะไม่รู้”
ดิลกคิดอย่างรอบคอบแล้วชี้ไปที่ป้ายทะเบียนของรถsavanaคันนี้
แสนรักได้ฟัง จึงไม่ถามอะไรออกมา ทั้งร่างที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเดินตรงเข้าไปด้านหน้าของตำรวจหลายคน
“คนล่ะ”
“ประธานแสนรัก พวกเราได้ตรวจสอบดูแล้ว คนคนนี้สามใส่หมวกกันน็อกกับแมสปิดปาก จากเทปบันทึกของกล้องวงจรปิดมองไม่ออกว่าเขาเป็นใคร คงต้องรบกวนคุณให้เวลาพวกเราตรวจสอบอีกหน่อย”
หลังจากที่ทางด้านตำรวจเห็นเขาเดินมา พวกเขาก็เริ่มสั่นสะท้านแล้ว แม้แต่หน้าก็ยังไม่กล้าเงยขึ้นมา ได้แต่ร้องขอให้เขาให้เวลากับพวกเขาสักหน่อย
พวกเศษสวะ!
แสนรักไม่ใช่ไม่เชื่อคำพูดของพวกเขาเหล่านี้ หลังจากเอาเทปบันทึกจากในมือพวกเขามา เขาก็กลับไป อย่างรวดเร็ว