ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 605 เรื่องที่กลัวที่สุด ในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว
“ชั้นศาล”
เนติได้ฟังคำพูดของเธอ ทันใดสีหน้าก็เปลี่ยนไป:“คุณคิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือยังไง หลักฐานแบบนี้ แสนรักจะเอาเทปต้นฉบับให้กับพวกเขาอย่างนั้นเหรอ”
ฐานิษ:“……”
หนึ่งวินาที สีหน้าก็ซีดจางเหมือนกับกระดาษ
แต่ในสายโทรศัพท์ คุณหญิงท่านคนนี้ยังไม่ยอมแพ้ ทั้งๆที่เมื่อสักครู่ยังให้รางวัลกับเธอ แต่แวบเดียว เธอก็รังเกียจขึ้นมาอย่างมาก ในน้ำเสียงนั้นดูผิดหวังเป็นอย่างมาก
“เรื่องที่ให้ทำก็ทำไม่สำเร็จ ยังทำให้เรื่องราวแย่ไปกว่าเดิม เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ คุณยังคิดว่าฉันจะมีความหวังอะไรกับคุณอีก ตอนที่ถ่ายรูปนั้น พยายามอย่างเป็นพิเศษ ทั้งยังมีแผนการ ตั้งใจเลือกรูปที่เสียดแทงลูกชายของฉันมา ทำไมล่ะ คุณคิดจะทำให้เขาเกิดความเกลียดชังผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา แล้วคุณก็จะสามารถเข้ามานั่งตำแหน่งคุณผู้หญิงของเขาได้แล้วอย่างนั้นหรือ”
คำพูดนี้ พูดออกมาอย่างทิ่มแทง ดูถูก เกลียด!
ตอนนี้ฐานิษเหมือนถูกตบลงมาอย่างแรง ยืนอยู่ที่นั่นสีหน้าทั้งขุ่นเคืองและซีดขาว อย่าได้ถามว่าหนักหนาขนาดไหน
“คุณหญิง ฉัน……”
“ช่างเถอะ งั้นก็แค่นี้แหละ ไร้ประโยชน์จริงๆ”หลังจากนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็เอาโทรศัพท์“ตึด”วางสายลง
ฐานิษนิ่งอึ้งไป
ผ่านไปสักพัก น้ำตาสองเม็ดใหญ่เท่าเม็ดถั่วเหลืองก็ร่วงลงมาบนใบหน้าอันซีดขาวของเธอ……
——
เส้นหมี่กลับมาที่บ้านตระกูลวชิรนันท์
จริงๆเลย หลังจากกลับบ้านมา ภายในบ้านเละเทะไปหมด ยกเว้นเด็กๆทุกคนต่างถูกส่งออกไปตามหาคน เด็กๆทั้งสามแสดงความหวาดกลัวและความไม่สงบออกมาไม่น้อย อยู่ในบ้านอย่างระมัดระวัง
ไม่กล้าแม้จะส่งเสียงใดออกมา
“อิคคิว รินจัง ชินจัง ทำไมพวกหนูมาอยู่ที่นี่กัน แล้วคุณตาล่ะ”
เส้นหมี่ได้เห็นแล้ว ก็ปวดใจขึ้นมา จึงรีบวิ่งเข้ามาคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของพวกเขาทันที
“หม่ามี๊……”
พวกเด็กๆที่ได้รับความตื่นตระหนกมาทั้งบ่าย ในที่สุดมองเห็นหม่ามี๊กลับมาแล้ว ทันใดแต่ละคน ต่างกระโจนเข้ามาบนร่างกายของเธอ
เส้นหมี่ได้แต่กางแขนออกมากอดพวกเขาเอาไว้แน่นๆ
“ไม่เป็นไรแล้วนะ หม่ามี๊รู้แล้ว พวกหนูไม่ต้องกังวล คุณย่าต้องกลับมาอย่างแน่นอน หืม?”
“จริงเหรอ หม่ามี๊”
“จริงสิ หม่ามี๊ ผมจะบอกคุณว่า คุณตากับคุณป้าพวกเขาทั้งสองไม่ได้ตั้งใจนะ ตอนนั้น คุณตาปกป้องผม คุณป้าถูกชนจนบาดเจ็บ ต่างไม่มีเวลาไปสนใจคุณย่า หลังจากนั้นก็ถูกคนร้ายลักพาตัวไป”
อิคคิวกลัวว่าเส้นหมี่จะโกรธคุณตากับคุณป้า จึงรีบร้อนอธิบายแทนพวกเขา
ชินจังไม่พูดอะไรออกมา แต่ว่ามองดูสีหน้าเขากับน้องชายแล้ว เชื่อว่า ภายในใจของพวกเขาตอนนี้คิดเหมือนกัน
เส้นหมี่ทั้งปวดใจและรู้สึกผิด ยื่นมือออกไปลูบใบหน้าน้อยๆของทั้งสองพี่น้อง เธอพูดปลอบใจพวกเขา:“ฉันเข้าใจแล้ว พวกหนูไม่ต้องกังวลนะ พวกเราไม่โทษพวกเขาเลย แด๊ดดี้ก็ด้วย”
พวกเด็กๆจึงโล่งอกไป
หลังจากนั้น เส้นหมี่จึงพาพวกเขาเข้าไป ไปหาคนตระกูลหิรัญชาถามดูสถานการณ์
แต่ว่า สิ่งที่ยังทำให้ภายในใจขุ่นมัว จนถึงตอนนี้แล้ว ยังไม่มีข่าวคราวอะไรของภารานินเลย
ทันใดเธอก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง
“หมี่ ต้องขอโทษด้วย ที่มารบกวนคุณอีกแล้ว”
เสียงของเนติดังมาจากสายโทรศัพท์ เหมือนกับแมลงวันยังไงอย่างงั้น ทันใด หลังจากที่เส้นหมี่ได้ยินแล้ว อยากจะขว้างโทรศัพท์ทิ้งไป
แต่ความจริงแล้ว เธอก็เตรียมที่จะทำอย่างนั้น
แต่เวลานี้ เสียงของผู้หญิงคนนั้นก็ดังขึ้นมา:“คุณอย่าขว้างโทรศัพท์ไปนะ วางใจเถอะ ครั้งนี้ฉันไม่หาเรื่องลำบากอะไรมาให้คุณหรอก ฉันมาส่งความอบอุ่นไปให้คุณต่างหาก ภารานินหายตัวไปใช่ไหม”
“!!!!”
คำพูดหนึ่งประโยคนี้ นิ้วมือที่กำลังจะกดตัดสาย ก็ต้องหยุดลงอยู่อย่างนั้น
ทำไมผู้หญิงคนนี้ เธอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
ตอนบ่ายนี้พึ่งจะเกิดขึ้น เธอเองก็พึ่งจะรู้เรื่องเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนนี่เอง แต่ว่า เธอที่อยู่ถึงญี่ปุ่นกลับรู้เรื่องเร็วขนาดนี้
หรือว่า เธอติดตั้งเครื่องสอดแนมเอาไว้ข้างกายเธอ?
ใบหน้าของเส้นหมี่ขุ่นเคืองขึ้นมา:“คุณกล้าสอดแนมฉันเหรอ?!!”
เนตินิ่งไป!
วินาทีนี้ ทันใดเธอก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง:“คุณคิดอะไรน่ะ คุณมันก็คือเด็กน้อยคนหนึ่ง ฉันจะไปสอดแนมคุณทำไม ฉันก็แค่จากเพื่อนอีกคนหนึ่ง ถึงได้รู้ข่าวนี้มา ก็เลยโทรมาหาคุณ”
“ใคร”
“อันนี้คุณอย่าได้สนใจเลย ฉันแค่อยากถามพวกคุณ ตอนนี้พวกคุณหาเธอเจอหรือยัง รู้หรือยังว่าเธอถูกใครพาตัวไป”
ในสายโทรศัพท์ เธอเหมือนกับว่าคุยเรื่องทั่วๆไปในครอบครัว ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย
เส้นหมี่ไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเธอ
“ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วยล่ะ”
“ไม่บอกฉันเหรอ หรือว่าไม่มีปัญญาบอกฉันกันแน่ ด้วยวิธีการของตระกูลเทวเทพ แค่คนแบบพวกคุณ จะสามารถหาเจอได้ง่ายๆเหรอ”
เหมือนก้อนหินที่แตกสลาย ทันใดผู้หญิงคนนี้ก็พูดถึงชื่อของตระกูลที่ทำให้เธอหวาดกลัวอยู่ลึกๆขึ้นมาต่อหน้าเธอ
สมองของเส้นหมี่“วิ้ง”ไปสักพัก
ตระกูลเทวเทพ?
เธอกลับพูดถึง……ตระกูลเทวเทพ?!!
เธอเหมือนกับว่าแสงที่อยู่ตรงหน้านั้นได้สลายไป ทั้งร่างเริ่มสั่นเทาขึ้นมา
“คุณ……คุณทำไมพูดว่าเป็นตระกูลเทวเทพ หรือว่า……คุณจะรู้เรื่องเรื่องนี้”
ครั้งนี้เนติส่ายหน้าออกมาตามความจริง
“ฉันไม่รู้หรอก ฉันก็แค่เดา คุณคิดดูนะ บนโลกใบนี้ ยังมีใครอีกที่ให้ความสนใจกับผู้หญิงบ้าคนนี้ อีกทั้งคุณยังไม่รู้ล่ะสิ เมื่อหลายวันก่อน ตระกูลเทวเทพได้ออกคำสั่งกับม็อกโกคนที่จะมารับช่วงต่อไปแล้ว ให้เขาตรวจสอบเรื่องอารองของเขา คุณคิดดูซิว่าทำไมตระกูลเทวเทพถึงให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง”
“……”
เส้นหมี่รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาอีกครั้ง
ปกคลุมเข้ามาด้วยความหวาดกลัว เธอไม่อยากถามอะไรออกไปอีก แม้แต่เรื่องราวที่เป็นความลับในตระกูลเทวเทพทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงรู้ได้ล่ะ?