ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 609 ท่านประธาน ท่านอดทนเอาไว้นะ
เคมีสีหน้าท่าทางที่จะหลบเลี่ยงเล็กน้อยในทันที : “ท่านประธาน ผมพูดแล้ว ท่านอย่าโกรธผมนะ”
“พูด!”
“หลังจากที่พวกเราไปตรวจค้นเชิงลึกในสถานที่กองทัพต่างๆ ตามเบาะแสจากคุณชายเปรมไตร ผลคือพบว่า บุคคลนี้….มีความคล้ายกับคนที่ติดตามคุณชายม็อกโกเป็นอย่างมาก”
“คุณพูดว่าอะไรนะ? ม็อกโก?”
และแล้ว เมื่อคำพูดนี้ออกมา ผู้ชายคนนี้ตกใจมากจนถึงขั้นสีหน้าท่าทางตกตะลึงจนพูดไม่ออก!
จะเป็นม็อกโกไปได้อย่างไร? พวกเขาเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า?
แสนรักไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ : “คุณพูดมั่วอะไร? มันเกี่ยวอะไรกับม็อกโกล่ะ?”
“จริงๆครับ ท่านประธาน ถ้าท่านไม่เชื่อ ผมจะนำข้อมูลที่พวกเขาส่งมาให้ท่านดูครับ”
จากนั้นเคก็นำเอาสิ่งของที่พวกเขาส่งมาให้ทั้งหมดวางลงบนโต๊ะ นอกจากเอกสารอย่างละเอียดชุดหนึ่ง ยังมีสัญลักษณ์พิเศษของทหารเหล่านั้นที่เป็นลูกน้องของม็อกโกด้วย
ต่างก็วางอยู่บนโต๊ะทั้งหมด
คนของกองทัพ จริงๆ แล้วแต่ละทีมจะมีข้อแตกต่างกัน ซึ่งจะเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากกับผู้บังคับบัญชานำทีมของพวกเขา
ตัวอย่างเช่น ม็อกโก อำนาจทางทหารของตระกูลเทวเทพพวกเขาคือมีกองทัพบกเป็นหลัก ถ้าอย่างนั้นที่เขานำทีมทหาร สั่งสอนพวกเขามากที่สุดก็คือทักษะการจับ รวมทั้งการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน
แต่สิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดก็จะทิ้งร่องรอยไว้บนตัวของทหารเหล่านี้
“ท่านดูกริชด้ามนี้สิครับ ที่ทหารทั่วไปใช้แน่นอนว่าต้องเป็นเหล็กกล้าคาร์บอน แต่ทีมทหารในมือของคุณม็อกโกนั้น ทั้งหมดทำจากวัสดุหายาก กริชด้ามนี้ หลังจากหล่อหลอมออกมาแล้ว ก็มีความแข็งแกร่งกว่าใบมีดทั่วไปมาก และมีความเหนียวกว่าอีกด้วย นี่ก็คือสัญลักษณ์เฉพาะที่เห็นได้ชัดเจนครับ”
เคชี้ไปยังรูปภาพสองภาพที่พิมพ์ออกมาพร้อมทำการอธิบาย
รูปภาพสองภาพนี้ ภาพหนึ่งคือภาพในกล้องวงจรปิดตอนนั้นที่คนร้ายปิดหน้าลักพาตัวภารานินไป ขณะนั้น สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในมือของเขา ก็มีกริชด้ามหนึ่งจ่ออยู่ที่คอของภารานินจริงๆ
ส่วนรูปภาพอีกภาพหนึ่งนั้น ก็คือภาพของกริชสองด้ามนี้
ด้ามหนึ่งที่ธรรมดาทั่วไป อีกด้ามหนึ่งที่มองดูอย่างไรก็รู้ว่าไม่ธรรมดา และก็ดูเหมือนกันกับที่คนปิดหน้านั้นถืออยู่ในมือ
สีหน้าของแสนรักก็ค่อยๆ เย็นลงไป
ภายในไม่กี่วินาทีสั้นๆ เขาจ้องมองสิ่งของเหล่านี้ ร่างกายที่สูงตรงสง่าราวกับถูกจี้จุดจนตัวแข็งทื่อ อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าอยู่ตำแหน่งนิ่งไม่ขยับ แต่ ดวงตาสีดำคู่นั้นที่ดูแล้วช่างน่าตกใจ กลับดูราวกับว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้……
น่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุด!
“นี่ก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าเขาเป็นคนทำ เขามีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำแบบนี้?”
“เพราะว่า แม่ของท่านคือคนที่ตระกูลเทวเทพพวกเขากำลังตามหาตัวอยู่ครับ!”
ในช่วงเวลาสำคัญ ดลธีก็กลับมาแล้ว ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น กระเซอะกระเซิงไปทั่วร่างกาย ค่อยๆเดินเข้ามาในห้องทำงานทีละก้าวทีละก้าว
แสนรักหรี่ตามองในทันที!
“คุณพูดว่าอะไรนะ? คุณพูดอีกครั้งซิ?”
“ท่านประธาน เรื่องที่ท่านให้ผมไปสืบหา ผมสืบข้อมูลมาได้ชัดเจนแล้วครับ ถ้าอย่างนั้น ท่านลองดูสิ่งของที่ผมนำกลับมานี้ ไม่แน่ว่า หลังจากที่ท่านดูแล้ว ก็จะเข้าใจทุกอย่าง”
ดลธีมองดูเขาที่มีลักษณะควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็นำเอาห่อผ้าห่อหนึ่งที่เขานำกลับมาด้วยวางลงด้านหน้าของเขา
เมื่อวางสิ่งของลง สามารถเห็นสีหน้าของผู้ชายคนนี้ได้ชัด มองด้วยตาเปล่าจะเห็นว่างเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกจนน่าสะพรึงกลัวอย่างรวดเร็ว เขาจ้องดูสิ่งนั้น ไม่มีท่ามีจะเปิดมันออกในทันที
แต่ เขาบีบกำมือของเขาไว้แน่นจนเห็นถึงเส้นเอ็น ซึ่งมันแสดงให้รู้ทุกอย่างแล้ว
ใช่ เดิมทีเขาเป็นคนที่ฉลาดปราดเปรื่องกว่าใครๆอยู่แล้ว มีบางเรื่อง ที่มันคืบหน้ามาจนถึงขั้นนี้ ทำไมเขาจะเดาสิ่งเหล่านี้ไม่ออกล่ะ?
ดลธีกับเคทั้งสองคนได้แต่ยืนรออย่างเงียบๆ
สักพัก ในที่สุด พวกเขามองเห็นเขาขยับมือ ค่อยๆ เปิดกระดาษห่อออกทีละชั้นอย่างช้าๆ
เป็นรูปภาพสองรูป ยังมีสมุดบันทึกสีแดงที่ขาดเปื่อยอีกเล่มหนึ่ง สมุดเล่มนั้น นอกจากจะขาด ด้านบนยังมีร่องรอยสีแดงเข้มอยู่เต็มหน้า ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ซึ่งมันเกือบจะทำให้ตัวอักษรเลือนหายไปหมดแล้ว
“หลังจากที่ขุนนายเสียชีวิตแล้ว ข้อมูลทั้งหมดของเขาในค่ายทหาร ก็ถูกคนจัดการลบไปหมดเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นทางสุดท้ายผมทำได้เพียงแค่ตามหาเพื่อนร่วมรบในทีมของเขาสมัยนั้นให้เจอ จากนั้นเขาก็มอบสิ่งพวกนี้ให้กับผม”
ดลธีมองดู BOSS คนนี้ที่จ้องมองดูสิ่งของเหล่านี้อย่างเหม่อลอย เขาจึงรีบอธิบาย
แสนรักเพิ่งจะรีบหยิบสองภาพนี้ขึ้นมา
กลับพบว่า รูปภาพแรก คือรูปภาพรวมหมู่ ต่างก็สวมใส่ชุดทหาร มองดูก็รู้ว่าเป็นภาพรวมของเหล่าทหาร
แสนรักมองดูอย่างตั้งใจ ผลคือ ในรูปภาพนี้ เขาไม่เพียงเห็นธนากรอยู่ในภาพ เขายังเห็นดิลกพ่อตาของเขาอยู่ในภาพนั้นด้วย
“หรือว่า……….อันที่จริงพวกเขาต่างก็รู้จักกัน?”
“ถูกต้อง ต่างก็เป็นคนที่ขุนนายฝึกหัดมา สมัยนั้นทั้งคุณท่านและพ่อของคุณนาย หลังจากที่เข้าเป็นทหาร ก็อยู่ในค่ายของขุนนาย เขาเป็นผู้บัญชาการของพวกเขา มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน คุณลองดูอีกภาพหนึ่งก็จะรู้แล้ว”
ดลธีเตือนเขาให้ดูภาพที่สอง
แสนรักพลิกมันออกมามองดู
จริงๆ ด้วย ในภาพรวมนี้มีแค่หกคน แสนรักมองเห็นคุณท่านของตัวเอง ยังมีดิลกด้วย ต่างก็ยืนอยู่ด้านข้างของผู้บัญชาการผู้กล้าหาญตรงกลางท่านนั้น ต่างยิ้มอย่างมีความสุข
ดังนั้น คนแก่สองคนนั้นกำลังหลอกเขาอยู่!!
ในใจลึกๆ ของเขาก็มีไฟแห่งความโกรธปะทุขึ้นมา
แต่ไม่นาน อารมณ์เหล่านี้ ก็เลือนหายไปหมดสิ้น หลังจากที่เขามองเห็นสมุดบันทึกสีแดงเล่มเล็กที่ขาดเปื่อยเป็นอย่างมาก
“อันนี้ เพื่อนร่วมรบท่านนั้นบอกว่า หลังจากที่ขุนนายพลีชีพ ก็ได้มันมาจากบนร่างของเขา ตอนนั้น ลูกกระสุนก็ทะลุผ่านหน้าอกของเขาไป น่าเสียดาย ที่เขาเอาสิ่งของนี้ยัดไว้ในกระเป๋าหน้าอกข้างซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งกระสุนมันผ่านทะลุพอดี”
ทันใดนั้น น้ำเสียงของดลธีก็เปลี่ยนเป็นเสียงหนัก เขารีบถ่ายทอดคำพูดที่เพื่อนร่วมรบในสมัยนั้นของขุนนายท่านนั้นบอกไว้ออกมา