ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 613 เรื่องนี้ ห้ามให้เขารู้เป็นอันขาด
“เรื่องอะไร?”
“คือว่าเมื่อตอนตีสี่ช่วงเช้า เมื่อเรื่องเกิดขึ้นที่ตู้ขบวนในรถขบวนนี้ ตอนนั้นมีคนบอกว่าจู่ ๆ ได้ยินเสียงมาก จากนั้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รถไฟ บอกว่ามีคนลักลอบนำประทัดขึ้นมาด้วย จากนั้นคนในตู้ขบวนก็ต่างแยกย้าย และยังมีคนถูกจับตัวไปด้วยไม่กี่คน”
ในโทรศัพท์ จู่ ๆ หัวหน้าทีมที่เธอว่าจ้างมานั้น ก็บอกเรื่องนี้กับเธอ
ประทัด?
รถไฟอยู่ในสังกัดกรมการรถไฟ ตอนที่ผู้โดยสารขึ้นรถ แต่ก็จะมีการตรวจสอบเข้มงวด ทำไมยังมีคนแอบนำสิ่งของต้องห้ามเหล่านี้ขึ้นไปบนรถได้ล่ะ?
เส้นหมี่ไม่ค่อยเชื่อนัก
“มันไม่น่าจะใช่เรื่องจริงไหม?”
“คุณเส้นหมี่ฉลาดมาก หลังจากที่คนของพวกเราไปตรวจสอบ พบว่า ตู้ขบวนรถนั้นไม่มีแม้แต่ร่องรอยของประทัดเลย แต่เป็นกระสุน พวกเราพบปลอกกระสุน ยังมีคราบเลือดที่ยังไม่ทำความสะอาดอยู่บนพื้น!”
“……”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ สมองของเส้นหมี่ก็รู้สึกว่างเปล่าในทันที เธอพบว่า ตัวเองไม่สามารถแม้แต่จะจับโทรศัพท์ให้แน่นได้แล้ว
กระสุน?
ยังมีคราบเลือด?!!
อยู่ดีๆ ทำไมถึงได้มีสิ่งของแบบนี้ล่ะ? หรือว่า เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับภารานินแล้วเหรอ? ถูกคนของตระกูลเทวเทพฆ่าบนรถไฟขบวนนั้นเหรอ?
เส้นหมี่สั่นระริกไปทั้งตัว
“พวกคุณรีบตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ลองดูว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ฉันต้องการให้ช่วยเหลือหรือเปล่า?”
เธอออกคำสั่งคนกลุ่มนี้อย่างตื่นตระหนก เพื่อให้พวกเขาจะต้องคิดหาวิธีไปสืบหาข้อมูลเรื่องนี้ให้ชัดเจน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอมีชีวิตอยู่ก็ต้องเจอตัว ตาย….ก็ต้องเจอศพด้วย!
คนคนนั้นรับปากแล้ว ก็วางสายโทรศัพท์ไป
เส้นหมี่ก็ค่อยๆวางโทรศัพท์ลง ความเย็นยะเยือกไปทั่วร่างกาย ทำให้ฝ่ามือของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อเปียกชุ่ม
แต่ในเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ด้านนอก กลับมีคนมาหาเธอ
“ผู้อำนวยการเส้นหมี่ ทางแผนกกฎหมายทางนั้นจู่ ๆ ส่งข้อความมา บอกว่าคดีในศาลทางนั้นคืบหน้าไปไม่ค่อยราบรื่นนัก ท่านประธานก็ไม่อยู่ พวกเขาหวังว่าคุณจะเดินทางไป เพื่อหารือเกี่ยวกับคดีนี้สักหน่อย”
“คุณว่าอะไรนะ?”
เส้นหมี่ที่เพิ่งวางสายโทรศัพท์ ก็รีบหันขวับมาทันที
และในเวลานี้ ใบหน้าเธอที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ ที่แม้แต่สีเลือดก็ยังไม่ทันจะคืนสภาพกลับมา
“บอกว่าหลักฐานที่เคยส่งมอบให้กับศาลไปเมื่อก่อนหน้านี้ เกิดข้อแตกต่างกับหลักฐานที่ทางฝ่ายจำเลยนำมา อีกอย่าง……. หลังจากยืนยันหลักฐานชุดนั้นของฝ่ายจำเลย ก็เป็นหลักฐานตัวแม่”
คนที่เข้ามาหาเธอ เป็นเพียงแค่ผู้จัดการของแผนกนี้
เดิมทีคือเขามาเพื่อถ่ายทอดข้อความที่แผนกกฎหมายส่งมา แต่ทันใดนั้นหลังจากที่เขาเห็นสีหน้าของผู้อำนวยการท่านนี้แย่มากขนาดนั้น เขาก็ตกใจจนพูดติดขัดๆ อยู่หลายครั้ง
“ผู้อำนวยการ คุณ…..เป็นอะไรไหมครับ?”
“……”
เส้นหมี่เริ่มจะหน้ามืด
เธอจะไม่เป็นอะไรได้อย่างไรล่ะ?
เธอในตอนนี้ ต่อให้ใช้คำว่า “วันสิ้นโลก” นี้มาอธิบายความรู้สึกของเธอในตอนนี้ ก็แทบจะเทียบไม่ได้เลย
ตัวแม่?
เป็นไปได้อย่างไร? ที่เธอนำออกไปจากแผนกกฎหมายนั้น ไม่ใช่ตัวแม่แน่นอน และเธอก็สุ่มหยิบแผ่นซีดีแผ่นหนึ่งใส่กลับเข้าไปแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นตัวแม่ไปได้ล่ะ?”
สมองของเธอวุ่นวายไปหมดแล้ว
คน ก็ยิ่งเหมือนตกลงไปในเรือน้ำแข็ง นอกจากความเหน็บหนาวและความหวาดกลัว ก็รับรู้ถึงความรู้สึกอื่นๆไม่ได้อีกแล้ว
ผู้จัดการแผนก: “ผู้อำนวยการ?”
เส้นหมี่ : “……”
ผ่านไปเป็นเวลานานมาก เธอเหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ได้ยินเสียงของตัวเองที่มองและถามเขาไปอย่างมาหยุดว่า : “เขาให้ฉันไปเมื่อไหร่?”
“ตอนนี้เลยครับ แผนกกฎหมายทางนั้นบอกว่า หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น พวกเขาก็ขออนุญาตต่อศาลพักสักครู่ เมื่อครึ่งชั่วโมงผ่านไปก็จะเริ่มพิจารณาคดีต่อ ฉะนั้น ถ้าผู้อำนวยต้องการจะไป ผมจะไปส่งคุณทันทีครับ”
ผู้จัดการแผนกเห็นว่าเธอมีความคิดที่จะไป ก็รีบเสนอตัวเองไปส่งเธอโดยทันที
ใช่สิ พวกเขาอย่าลืมสิว่า ผู้หญิงเบื้องหน้าคนนี้ นอกจากจะเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการผู้เก่งกาจของพวกเขาแล้ว
อีกสถานะหนึ่งของเธอ นั่นก็คือคุณนายท่านประธานของพวกเขา
เพราะมิเช่นนั้น ทางแผนกกฎหมายก็คงไม่โทรศัพท์มาให้เธอไปหารือเรื่องนี้ ตอนที่ท่านประธานไม่อยู่แบบนี้หรอก
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ออกจากบริษัทไป
หลังจากนั้นยี่สิบกว่านาที ณ ศาล
“ผู้อำนวยการ คนของแผนกกฎหมายอยู่ในห้องรับรองแขกของศาล จะให้ผมไปส่งคุณไหมครับ?”
“ไม่ต้อง”
เส้นหมี่ที่ลงมาจากบนรถ มองไปยังอาคารอันน่าเกรงขามที่อยู่ตรงหน้าของเธอ และยังมีสัญลักษณ์ขนาดใหญ่แสดงถึงความยุติธรรมและความเสมอภาคของสังคมติดอยู่บนตัวอาคาร สีหน้าของเธอซีดขาวเป็นอย่างมาก
ตอนนี้เธอ ไม่รู้จริงๆ ว่า เกิดความผิดพลาดขึ้นตรงจุดไหน?
เนติต้องการวิดีโอมาสเตอร์ ที่เธอให้ไปก็เป็นอันปลอม ทำไมตอนนี้ถึงเกิดพบหลักฐานที่จะไม่ส่งผลดีต่อหิรัญชากรุ๊ปล่ะ?
เธอชะเง้อมองตามทิศทางของสายตาไปยังประตูใหญ่ทางเข้านิติเวช
บังเอิญ รูปร่างผอมเพรียวและแสนคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเธอ ทันใดนั้น เธอก็ค่อยๆ หรี่ตามอง
“ผู้……ผู้อำนวยการ ท่านมาได้อย่างไรคะ?”
นั่นก็คืออากิโกะ นากาจิมะ ผู้เปลี่ยนชื่อเป็นฐานิษ เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เส้นหมี่จู่ ๆ จะปรากฏตัวขึ้นที่นี่
ทันใดนั้น หลังจากเกิดความรู้สึกตื่นกลัวขึ้นภายในใจของเธอ ความปลื้มปิติดีใจเมื่อสักครู่ที่ด้านในคุณชายของเธอสามารถพลิกรูปคดีได้นั้นก็เป็นอันหายไปอย่างสิ้นเชิง
เส้นหมี่จ้องมองเธอด้วยความเย็นชา
“เธอเอาสิ่งของนั้นให้กับเจ้านายเธอโดยตรง?”
“อะ….อะไรนะ?”
อากิโกะ นากาจิมะดวงตาเบิกกว้าง หนึ่งวินาทีผ่านไป แม้แต่นัยน์ตาก็กำลังสั่นระรัว!