ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 614 สวยใส คุณยังใจร้ายกับผมไม่ลงจริงๆ ด้วย
แต่เส้นหมี่กลับทำเป็นมองไม่เห็น หลังจากที่เธอเดินขึ้นมาจากด้านล่างสุด ค่อยๆขึ้นมาทีละก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหล่อน และยื่นมือไปคว้าจับคอเสื้อของหล่อนไว้แน่น!
“ฉันกำลังถามเธออยู่ หยิบสิ่งของนั้นไปแล้ว เธอเอาไปให้กับเจ้านายของเธอโดยตรงหรือเปล่า?!!”
“ใช่…ใช่ค่ะ”
อากิโกะ นากาจิมะ ตกใจมาก จนในที่สุดก็ยอมเอ่ยปากพูดความจริงออกมา
เส้นหมี่ปล่อยมือและผลักเธอออกไปแล้ว ใบหน้าอันสวยงามในทุกอณูต่างก็เย็นลง เต็มไปด้วยสีหน้าความอาฆาตแค้น!
“เธอจะไม่มีชีวิตรอดออกไปจากเมืองนี้” เธอบอกหล่อนด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย คิ้วที่ไร้ความอ่อนโยนอีกต่อไป เต็มไปด้วยความแปลกหน้าและความเกลียดชังที่ทำให้คนรู้สึกสั่นกลัว
อากิโกะ นากาจิมะ ล้มฟุบลงไปในทันที
อย่านะ………
หลังจากที่เส้นหมี่ยืนยันเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่อยู่ต่อ รีบเดินไปยังห้องที่แผนกกฎหมายของบริษัทกำลังพักผ่อนกันอยู่
กลับคิดไม่ถึงว่า ตอนที่เธอเข้าไปนั้น กลับเผชิญหน้ากับผู้ชายคนหนึ่ง
“สวยใส…….”
คณาธิปล้วงมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมสีดำของเขา อาจจะเพราะมองเห็นเส้นหมี่ หรืออาจจะ เป็นเพราะเพิ่งจะชนะกลุ่มคนแผนกกฎหมายของหิรัญชากรุ๊ปเมื่อสักครู่ มุมปากของเขาแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มบางๆ ท่าทางดูดีราวกับสุภาพบุรุษผู้สง่างาม
“ผมได้ยินมาว่า สิ่งของนี้คุณส่งมาให้ ขอบคุณมากนะ มันช่วยผมได้เยอะมากเลยทีเดียว”
“……”
ประโยคนี้ออกมา เส้นหมี่ที่พยายามบังคับให้ตัวเองสงบสติอารมณ์เอาไว้ ก็เหมือนถูกสิ่งของบางอย่างต่อยเข้าให้ และเธอก็ส่งเสียงกรีดร้องออกไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ออกไปทันที : “คุณพูดอะไร? คุณอย่ามาพูดมั่วๆ ฉันเอาอะไรให้คุณ?”
อารมณ์อย่างนี้ จะพบเห็นได้น้อยมากจากตัวเธอ
ตื่นตระหนก หวาดกลัว ปฏิเสธทุกอย่าง…….
ราวกับว่า เธอกำลังกลัวว่าจะมีใครรู้เรื่องที่เธอทำไว้ สีหน้าของเธอซีดขาวเป็นอย่างมาก อารมณ์ก็ยิ่งตื่นตระหนกและเสียงอันเฉียบแหลมและสั่นระรัว
แววตาของคณาธิปค่อยๆ มัวลง
เส้นหมี่จะต้องไม่ยอมรับแน่นอน
ถ้าหากยอมรับแล้ว เรื่องไปเข้าหูของแสนรัก แล้วเขาจะทำอย่างไรล่ะ?
จากเมื่อวานตอนบ่ายจนถึงตอนนี้ แสนรักก็ยังคงไม่กลับมา ยังคงติดตามหาตัวภารานิน ถ้าหากเขารู้ ว่าในช่วงเวลานี้ ภรรยาของเขานำเอาหลักฐานของบริษัทไปให้กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง
จากนั้นส่งผลให้แพ้คดี!
เส้นหมี่ไม่กล้าคิดไปถึงเหตุการณ์ตอนนั้นจริงๆ
“ฉันจะบอกคุณให้นะ คณาธิป ฉันไม่เคยเอาอะไรให้กับคุณ และยิ่งไม่เคยคิดที่จะช่วยคุณ ตั้งแต่เริ่มจนจบ ความสัมพันธ์ของเราคือขนานกัน คุณเข้าใจไหม?”
เส้นหมี่บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ลง จากนั้นก็ค่อยๆ พูดกับคนคนนั้นอย่างชัดเจนทีละคำ
คณาธิป : “……”
หรี่ตาแล้วหรี่ตาอีก
ในท้ายที่สุด เขายังคงเห็นนิ้วของผู้หญิงคนนี้ที่ยืนถือกระเป๋าตัวเองอยู่ ที่บีบแน่จนแทบจะบาดเข้าไปจนเลือดออกอยู่แล้ว เขาจึงเลือกยอมที่จะถอยดีกว่า
“ได้ ผมคิดมากไปเอง”
“รู้ไว้ก็ดีแล้ว!”
เส้นหมี่ราวกับยกภูเขาออกจากอก จากนั้นก็รีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องรับรองที่แผนกกฎหมายบริษัทอยู่
เธอไม่รู้จริงๆ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
“คุณนาย คุณมาแล้วเหรอครับ?”
คนของแผนกกฎหมาย ที่ตอนนี้กำลังพูดคุยหารือกันอยู่ในห้องรับรองเกี่ยวกับเหตุการณ์กะทันหันที่เกิดขึ้นในศาลเมื่อสักครู่ จู่ ๆ เห็นมีคนเดินเข้ามา พวกเขาหันไปมอง ในใจก็เต็มไปด้วยความดีใจ
จริงๆแล้ว เหมือนคดีแบบนี้ เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องการเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ คนที่มีอำนาจตัดสินใจ
แต่คนคนนี้ ตอนนี้แสนรักไม่อยู่ที่บริษัท โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ตัวเลือกเพียงหนึ่งเดียว ก็คือคุณนายท่านประธานของพวกเขาท่านนี้นั่นแหละ
เส้นหมี่ยังคงตกตะลึงอยู่ สักพัก เธอค่อยๆพยักหน้า : “อืม เรื่องอะไรคะ? เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
“ใช่ วันนี้ตอนที่พวกเราเปิดศาล เดิมทีเป็นเรื่องจะทำให้พวกเขาแพ้คดีได้อย่างราบคาบ แต่จู่ ๆ ตอนที่คุณคณาธิปเข้ามาแล้ว เขาก็นำหลักฐานชุดหนึ่งออกมา ซึ่งก็คือชุดที่คุณท่านถูกนากาจิมะบีบบังคับให้เซ็นชื่อในเอกสารในตอนนั้น”
“……..จากนั้นล่ะ?”
“ไม่รู้ว่าเขาไปได้เอกสารชุดนี้มาจากที่ไหน? เมื่อเปิดออกดูแล้ว ตอนนั้นที่เป็นภาพการขู่บังคับของนากาจิมะ กลับกลายเป็นภาพเขานั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของคุณท่าน ดูแล้ว เหมือนจะเป็นคุณท่านเองที่ยอมเซ็นชื่อให้กับเขาเอง”
“อะไรนะ?”
เมื่อเส้นหมี่ได้ยินแล้ว มองไปยังหัวหน้าแผนกกฎหมายคนนี้ด้วยความตกใจสุดขีด
มันเป็นไปได้อย่างไรกันล่ะ?
วิดีโอที่เธอให้ไปมันเป็นของปลอมชัดๆ ทำไมถึงกลายเป็นเพิ่มเนื้อหาส่วนนี้มาได้ล่ะ?
หรือว่า แท้จริงแล้วเป็นพวกเขาเองที่ทำอะไรกับวิดีโอตัวนี้?
เส้นหมี่เริ่มรู้สึกสงสัย
แต่ในไม่ช้า เธอก็ปฏิเสธอีกครั้ง
เพราะว่า วิดีโอแบบนี้ถึงถึงแม้ว่าจะมีฝีมือการตัดต่อเก่งขั้นสูงขนาดไหน ก็ไม่สามารถนำเอาส่วนที่ถ่ายทีหลังตัดต่อเข้าไปได้ อีกทั้งศาลก็ดูไม่ออก
นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ฉะนั้น เกิดอะไรขึ้นกับวิดีโอนี้กันแน่?
สมองของเส้นหมี่รู้สึกสับสนไปหมดแล้ว
“ใช่แล้ว หัวหน้าแผนก คุณว่า นี่เป็นกล่องมาสเตอร์เทปนั้นที่ท่านประธานส่งมอบให้กับพวกเราหรือเปล่า?”
ทันใดนั้น ผู้ช่วยแผนกกฎหมายก็ถามประโยคนี้กับหัวหน้าแผนก
หัวหน้าแผนกถึงกับตะลึง : “เป็นไปไม่ได้ กล่องมาสเตอร์เทปนั้นอยู่กับผม อีกอย่างผมก็เพื่อป้องกันเผื่อว่ามีคนคิดไม่ซื่อขึ้นมาจริงๆ ผมเลยตั้งใจเอาอันปลอมใส่ลงไปในกล่องมาสเตอร์เทปนั่น ส่วนตัวจริงก็วางเอาไว้ข้างๆกัน”
“!!!!”
ไม่มีอะไรที่จะสิ้นหวังได้เท่ากับประโยคนี้อีกแล้ว