ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 643 แผนการของเขายิ่งใหญ่มาก
“แสนรัก คุณทำเกินไปหรือเปล่า ทำไมคุณสามารถ……ทำกับภรรยาของตัวเองแบบนี้ได้ เพื่อทดสอบเธอ ยังตั้งใจวางแผนขึ้นมา คุณไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเกินไปเหรอ”
“จะมีอะไรต้องเหนื่อยเกินไปล่ะ ผมทำแบบนี้ ต่างทำเพื่อให้ความรักของพวกเราไร้มลทิน คุณก็น่าจะรู้ ผมคนนี้มีอาการรักสะอาดอย่างมาก ถ้าสิ่งของถูกคนอื่นทำให้มีมลทิน ผมก็จะไม่แตะต้อง”
เขาเตือนสติอีกครั้งด้วยประโยคนี้
อีกทั้งน้ำเสียงหนักแน่นเป็นอย่างมาก ไม่หงุดหงิด แต่เวลานี้ อารมณ์และสีหน้าของเขา หลังจากที่เส้นหมี่ได้เห็นแล้ว เธอใจไม่ดียิ่งกว่าตอนที่เขาอารมณ์ร้ายใส่เธอเสียอีก โศกเศร้าเสียใจ
“ดี งั้นตอนนี้ คุณได้รับคำตอบหรือยัง”
“……”
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้ส่งเสียงใดออกมาอีก
ถือว่าเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย
เส้นหมี่ได้เห็นแล้ว ยิ่งกว่าการถูกเยาะเย้ย เธอกระตุกปากที่ซีดเซียวนั้น ยิ้ม:“ไม่ง่ายเลยจริงๆ ในที่สุดก็ทำให้ประธานแสนรักเชื่อแล้วว่าฉันบริสุทธิ์ใจ”
แสนรักขมวดคิ้วขึ้นมา
แต่ในที่สุด เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา บนใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์ใดออกมาแล้วเบนสายตากลับไป เขาเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ทำงานต่อแล้ว
เส้นหมี่ได้เห็นสถานการณ์แล้ว ก้นบึ้งหัวใจเหมือนถูกมีดกรีดลงจนเจ็บปวด ไม่มีกะจิตกะใจจะอยู่ต่อแล้ว ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาหลังจากนั้นก็หลับตาลงอย่างแรง เธอออกไปจากที่นี่ทันที
หลายวันมานี้ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายคนนี้!
หลังจากเส้นหมี่ออกไป ไม่นาน เคมีที่อยู่ด้านนอกก็เข้ามาแล้ว
“ท่านประธาน คุณ……คุณเป็นอะไรไหม ผมไปรินนำ้มาให้คุณแก้วหนึ่ง”
เขาเข้ามาเห็นBOSSใหญ่คนนี้ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน กำลังกุมหน้าอกของตัวเองเอาไว้แล้วพิงไปยังพนักเก้าอี้ บนหน้าผากเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
ทันใดนั้น เขาตกใจจนหน้าซีด
เขาไม่ลืมเลยว่า คนคนนี้เมื่อสองวันก่อนยังกระอักเลือดออกมา ยังไปโรงพยาบาลมาแล้ว
เคมีรินน้ำดื่มมาให้คนคนนี้โดยเร็ว อีกทั้งหยิบยาที่หลายวันมานี้ต้องกินมา
หลังจากนั้นสักพัก ชายหนุ่มที่กินยาเข้าไป มือที่กุมหน้าอกเอาไว้ก็ปล่อยลง แต่ว่า เขายังพิงอยู่ที่นั่น ในนัยน์ตามีทั้งความหมองหม่นและความเจ็บปวด ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
“ท่านประธาน คุณจำเป็นต้องทำอย่างนี้ไหม เพียงเพื่อให้คุณผู้หญิงออกไปจากชีวิตคุณ คุณจำเป็นต้องทำให้ตัวเองดูเป็นคนชั่วช้าขนาดนั้นเหรอ เทปบันทึกอันนั้น ทั้งๆที่เป็นความผิดพลาดของฝ่ายกฎหมาย……”
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ เธอก็จะไม่ไป”
ชายหนุ่มที่พิงอยู่ที่นั่น เหมือนว่าใช้กำลังที่มีทั้งหมด พูดออกมาจากปากไม่กี่คำนี้
ใช่สิ หญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลมขนาดนั้น นอกจากจะใช้วิธีนี้แล้ว เขามีวิธีใดที่จะไล่เธอไปได้?
หลายวันมานี้ เขาทำเพื่อให้ได้หย่ากับเธอ สิ่งที่ควรทำก็ทำไปหมดแล้ว ด่า ทำให้อับอาย อีกทั้งยังทรมานให้ทุกข์ระทม แต่ว่าเด็กโง่คนนี้สลัดยังไงก็สลัดไม่ออกติดหนึบเหมือนตังเม
ยังตามติดเขาอยู่อย่างนั้น
แสนรักพิงไปที่พนักพิงของเก้าอี้ เจ็บปวดจนถึงขีดสุด หางตาต่างก็แดงขึ้นมา มือเรียวยาวทั้งสองข้างซีดเซียว จับแน่นอยู่ที่แก้วอันนั้น เหมือนจะบีบให้แหลกคามือยังไงอย่างงั้น
เคมี:“……”
ไม่กล้าพูดเรื่องนี้ต่ออีก เขาทำได้เพียงถามอย่างอื่นไป:“งั้นท่านประธาน ต่อไปพวกเราจะทำอะไรต่อ ร่างของคุณหญิงด้านโน้น”
“เผาศพในทันที หลังจากนั้นก็ทำพิธีศพ”
พูดถึงเรื่องนี้ สติสัมปชัญญะของชายหนุ่มดีขึ้นมาหน่อย แต่ว่า ในเวลาเดียวกันก็เต็มไปด้วยความอาฆาตที่แสดงออกมาอย่างรุนแรง
เคมีฟังเข้าใจแล้ว:“ครับ ท่านประธาน”
เขาหันหลังกลับไปแล้วไปจัดการเรื่องเรื่องนี้
ม็อกกามาถึงที่นี่ ในตอนนี้ ร่างของภารานิน แน่นอนว่าจัดการได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ไม่งั้น ถ้าถูกพวกเขาแย่งไปจริงๆ ก็คงจะวุ่นวายขึ้นมา
แต่ว่า ในตอนที่เขากำลังจะออกจากประตูไป ชายหนุ่มด้านหลังก็ถามออกมาหนึ่งประโยค:“ที่ญี่ปุ่นด้านโน้นตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
“ห๋า?” เคมีหยุดลงทันที “ท่านประธานถามถึงซาจาใช่ไหม”
“ไม่ใช่ เนติ”
“เนติ? ตอนนี้เธอยังไม่ได้ทำอะไร ตั้งแต่ถูกนักฆ่าของคุณผู้หญิงตามล่าจนบาดเจ็บสาหัส เธอก็ไม่ได้ออกมาสร้างเรื่องอะไรอีก ทำไมเหรอ ท่านประธานทำไมถามถึงเธอขึ้นมากะทันหันล่ะ”
เคมีเกิดความสงสัยขึ้นมามองไปที่BOSSใหญ่คนนี้ ไม่เข้าใจสักนิด ในเวลาสำคัญแบบนี้ ยังถามถึงคนชั่วช้าที่ชอบทำเรื่องไม่ดีคนนั้น
แต่แสนรักฟังจบแล้ว หลังจากนั้นนิ่งไปสักพัก ทันใดก็พูดขึ้นมา:“คุณปล่อยข่าวออกไปว่า ตระกูลเทวเทพได้มาหาผมแล้ว”
“ห๋า?”
“เนติคนนี้ หิรัญชากรุ๊ปเป็นสิ่งที่เธอปรารถนา ถ้ารู้ว่าคนของตระกูลเทวเทพมาหาผม เธอคงต้องกระวนกระวายขึ้นมา คงคิดว่าหิรัญชากรุ๊ปจะถูกผมเอาไปที่ตระกูลเทวเทพด้วย เมื่อถึงเวลานั้น เธอก็จะไม่มีความหวังเหลืออยู่อีกแล้ว”
“ดังนั้น เธอต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งเอาไว้อย่างแน่นอน”
ชายหนุ่มที่หน้าตาซีดเซียว หลังจากได้เห็นว่าเลขาคนนี้ไม่เข้าใจ จึงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวนั้นอธิบายออกมาด้วยประโยคนี้
เคมีได้ฟังแล้ว ทันใดขมับของเขาก็เต้นตุบๆขึ้นมา
“นั่นไม่ใช่ว่าหาเรื่องวุ่นวายมาให้เราอีกเหรอ พวกเราต่างวุ่นวายกันขนาดนี้แล้ว นางบ้าคนนั้นถ้าเข้ามา พวกเรายังจะมีเวลาไปรับมือกับเธออีกเหรอ”
“เธอไม่ทำหรอก!”
แสนรักยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “เธอคนนี้เฉลียวฉลาดไม่น้อย ในเวลาแบบนี้ ไม่มีทางมาทำให้พวกเราเดือดร้อนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังจะเลือกทางเดินทางเดิมที่เคยเลือกเอาไว้”