ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 67 ความเฉยชาของเธอ เขาปรับตัวไม่ทัน
“ห๊า? เด็ก? คุณหมายถึงคุณชายเล็กเหรอคะ ? เขาหลับไปแล้วค่ะ ทำไมคะ ? คุณเส้นหมี่หาเขามีอะไรหรือเปล่า?”
พี่ภากำลังหาผ้าขนหนูให้ เธอเห็นผมของหมอเส้นหมี่เปียกโชกไปหมด เสื้อผ้าก็ไม่ได้ดูดีมากนัก กังวลว่าเธอจะเป็นไข้ พอเข้ามาได้ก็หาผ้าเช็ดตัวให้เธอทันที
เส้นหมี่ตะลึงงันอีกครั้ง!
ชินชินหลับไปแล้ว ?
แล้ว……ดึกป่านนี้เขายังรอเธออีก ทำไมกัน……?
“เอาล่ะค่ะเอาล่ะค่ะ หาเจอแล้ว หมอเส้นหมี่ คุณเอานี่ไปเช็ดก่อน เดี๋ยวฉันจะทำน้ำขิงแล้วเอาไปให้ที่ชั้นสามนะค่ะ ”
“ชั้นสาม?”
“ใช่ค่ะ คุณมาฝังเข็มให้คุณผู้ชายไม่ใช่เหรอคะ ? คุณผู้ชายน่าจะยังไม่นอน ฉันได้ยินเสียงเขาเดินไปที่ห้องหนังสือ จนตอนนี้ก็ยังไม่ออกมาเลย คุณรีบขึ้นไปเถอะ หากยังไม่นอนก็จะได้รีบทำการรักษา คุณเองก็จะได้รีบกลับบ้าน”
พี่ภาถือผ้าขนหนู คอยอธิบายให้หมอสาว และคอยเร่งเร้าให้เธอรีบๆขึ้นไป
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
ที่แท้ พูดมาซะยืดยาว แม่บ้านคนนี้เป็นคนมารอเธอเอง เป็นไปได้ว่า ก่อนที่ป้าญาจะออกไปได้บอกเขาเอาไว้ ว่าเธอจะมาฝังเข็มให้ชายชั่วคนนี้ทุกคืน
งั้นตอนนี้เธอต้องขึ้นไปไหม ?
เส้นหมี่ไม่อยากขยับไปไหน โดยเฉพาะเมื่อเธอนึกไปถึงในตอนกลางวันที่เขาสองคนทะเลาะกัน เธอก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งร่าง ภายในใจด้านชา
สำหรับคนคนนี้ นอกจากคำว่าน่ารังเกียจ เธอก็ไม่พบว่าจะมีคำไหนที่เหมาะสมไปกว่านี้อีก
“หมอเส้นหมี่?”
“……ทราบแล้วค่ะ”
ในที่สุดเส้นหมี่ก็เดินขึ้นไป เพราะเธอคิดถึงลูกชาย คิดถึงคำที่เธอได้รับปากกับเขาเอาไว้ ว่าจะช่วยรักษาแด๊ดดี้ของเขา
เส้นหมี่ลากขาที่ทั้งหนักอึ้งและเมื่อยล้า เดินขึ้นบันไดไปทีละขั้น……
——
ชั้นสาม
แสนรักยังไม่ได้นอนจริงๆ เขากำลังประชุมทางวิดีโอกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในห้องหนังสือ
ค่อนคืนห้าทุ่มเกือบเที่ยงคืน หากเป็นเมื่อก่อนตอนที่เขายังป่วยอยู่ เวลาแบบนี้มาเรียกประชุม ผู้บริหารของบริษัทก็พอเข้าใจได้ เพราะความเจ็บปวดจากการนอนไม่หลับ การทรมานพวกเขาก็เป็นเรื่องปกติ
แต่ตอนนี้เห็นว่าได้รับการรักษาแล้ว และผลก็ออกมาดีมาก!
แล้วทำไมเขายังทำแบบนี้อีก ?
เขาไม่คิดว่าพฤติกรรมนี้ไม่ใช่แบบที่คนทั่วไปจะคิดได้ และไร้มนุษยธรรมไปเหรอ? !
“ประธานแสนรัก เออคือ……ลูกชายผมร้องไห้ ผมขอไปป้อนนมลูกก่อนได้ไหมครับ ?”
กินเวลามากว่าสองชั่วโมงเต็ม นี่ก็ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว มีผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่เพิ่งจะมีลูกอ่อนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ยกมือขึ้นอย่างอาจหาญหน้าจอคอมพิวเตอร์ ต้องการจะไปป้อนนมให้ลูก
หน้าจอก็เงียบลงอย่างน่าขนลุกในทันที
และทางฝั่งของแสนรักเอง ใบหน้าที่หล่อเหลาก็มืดมนลงในชั่วพริบตา!
“คุณไม่ใช่ผู้หญิง จะต้องไปป้อนนมอะไรด้วย ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ท่านประธาน ภรรยาของผมเธออุ้มลูกมาสองชั่วโมงแล้วยังไม่ได้กินอะไรเลย ไม่มีอะไรให้กินหรอกครับ ผมต้องไปชงนมแล้วเอามาป้อน”
“……”
ผ่านไปห้าวินาที แสนรักก็จึงพูดโพล่งออกมาคำหนึ่ง“ไสหัวไป!”
และแล้วผู้บริหารพ่อลูกอ่อนก็ไสหัวไปอย่างมีความสุข
เมื่อผู้บริหารคนอื่นเห็น ก็มีความหวัง รีบหาข้ออ้างขึ้นมาทันที “ท่านประธาน ผมขอไปอาบน้ำหน่อยได้ไหมครับ ?”
“ครับใช่ครับ ประธานแสนรัก ผมก็อยากลุกจากที่สักครู่เหมือนกัน เมื่อครู่ภรรยาผมก็ร้องเรียก ว่าเธอหนาว ผมไปอุ่นที่นอนให้เธอก่อนได้ไหมครับ ?”
“!!!!”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป และทุกคนต่างคิดว่า เจ้านายของพวกเขาจะต้องฟาดงวงฟาดงากลับมา จู่ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูผ่านกล้องวิดีโอ
“แสนรัก?อยู่หรือเปล่า?”
what?
แสนรัก?!!
มีคนกล้าเรียกชื่อเขาเฉยๆด้วยเหรอ? แล้วยังเรียกชื่อเต็มซะด้วย ? คนคนนี้คือใครกัน ? ขนาดคุณแป้งร่ำที่เป็นถึงว่าที่ภรรยาของท่านประธานยังไม่กล้าขนาดนี้เลย
แล้วคนคนนี้เป็นใครกัน?
ทุกคนดวงตาเบิกกว้างขึ้นในทันใด ลืมแม้กระทั่งคำโกหกของตัวเองที่เตรียมเอาไว้เมื่อครู่
น่าเสียดาย ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ ท่านประธานคนเมื่อครู่ที่ยังดึงดันไม่ยอมจบง่ายๆ ทันใดนั้นเสียง“ป้าบ”ก็ดังขึ้นปิดโน๊ตบุ๊กลงอย่างรวดเร็วในทันที
ทุกคน“……”
……
ในตอนนี้เส้นหมี่อยู่ด้านนอกจริงๆ เธอตั้งใจจะเคาะเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้น หากไม่มีการตอบรับจากชายหนุ่มที่อยู่ด้านในเธอก็จะออกไป
เธอทำถึงขั้นนี้ สำหรับเธอมันคือการทำดีที่สุดแล้ว
แต่เธอไม่คิดว่า เธอเพิ่งจะเคาะไป หูก็ได้ยินเสียงของเก้าอี้ลากดังขึ้น จากนั้นไม่นาน ประตูบานนี้ก็มีเสียง“แกร็ก”ดังขึ้นและถูกเปิดออกจากด้านใน
เส้นหมี่“……”
มันเป็นแสงที่อบอุ่นมาก เป็นแสงสีส้มที่หาดูได้ยาก บวกกับผนังสีขาวนวลและเก้าอี้หนังสือสีไม้ ห้องหนังสือนี้ แตกต่างจากส่วนอื่นๆในคฤหาสน์อย่างสิ้นเชิง มันเป็นโทนสีอบอุ่นที่หาดูได้ยาก
บวกกับชายหนุ่มเปลี่ยนมาใส่ชุดลำลอง เรียบง่ายผ่อนคลาย สง่าและสบายๆ แม้แต่ความดุร้ายที่มักจะมีให้เห็นอยู่ตลอด ก็ถูกกลืนกินหายไปไม่น้อย
“ฉันมาฝังเข็มให้คุณ ในเมื่อคุณยังไม่นอน งั้นก็มารีบๆทำเถอะ”
เส้นหมี่ถอนสายตาออก น้ำเสียงเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความเมินเฉย ราวกับคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ที่เธอมา ก็เห็นเขาเป็นเพียงแค่คนไข้ และมาทำหน้าที่ของเธอในฐานะหมอก็เท่านั้น
เมื่อแสนรักเห็น อารมณ์ดีๆในตอนที่เปิดประตูเมื่อครู่ ก็แปรเปลี่ยนเป็นมืดมนและหนาวเหน็บขึ้นในทันที