ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 671 ชอบพอกันทั้งสองฝ่าย
ไอ้คนบ้านี่ ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้นล่ะ?!!
ในที่สุดเส้นหมี่ก็เข้าใจแล้ว ทันใดนั้น หลังจากที่ความโศกเศร้าและความสำนึกผิดพุ่งขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอก็คว้าสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะข้างๆ แล้วโยนทิ้งลงบนพื้นทั้งหมด!
“เพล้ง——”
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนคนใช้ตกใจจนหน้าซีด
“ทำไม? ทำไมเขาต้องทำแบบนี้? เขาคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะขอบคุณเขางั้นเหรอ? หา?” ผู้หญิงที่ถูกความจริงทำร้ายอย่างสิ้นเชิง ตะโกนคำรามอย่างบ้าคลั่งจนทั้งห้องเต็มไปด้วยเสียงคำรามเธอ
ใช่สิ นี่มันคืออะไรกัน?
ปกป้องเธอเหรอ?
แต่ เขารู้หรือไม่? ถ้าหากเขาเป็นอะไรไป นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่าเธอทิ้ง? เขาอยากจะให้ชาติหน้าเธอต้องมีชีวิตอย่างเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเหรอ?
บนโลกนี้ ทำไมต้องมีผู้ชายที่เห็นแก่ตัวอย่างนี้?
น้ำตาเม็ดใหญ่ของเส้นหมี่ค่อยๆร่วงหล่นออกมาจากดวงตา สักครู่ คนยืนสั่นระรัวอยู่ตรงนั้นราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่นเมื่อมีพายุฝนลมแรง
คนใช้เห็นเข้า ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง : “คุณนายคะ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? คุณอย่าโกรธไปเลย คุณผู้ชายทำอย่างนี้ ก็เพื่อปกป้องคุณ และลูกๆอีกสามคน…”
“ฉันไม่ต้องการ!”
ยังไม่ทันจะพูดจบ ทันใดนั้น ก็ถูกผู้หญิงคนนี้พูดตัดบท
“ฉันไม่ต้องการเขามาปกป้องฉัน เขามีสิทธิ์อะไรที่ทำอย่างนี้?!!” เส้นหมี่เจ็บปวดถุงขีดสุด เธอประคองตัวเองด้วยโต๊ะข้างๆ รู้สึกเหมือนกับว่าภายในร่างกายเธอได้แตกละเอียดแหลกเหลวไปหมดแล้ว
เหมือนมีมีดทิ่มแทงเข้าในหัวใจ และดึงออกอย่างไร้เยื่อใย แม้แต่เลือดของเธอ ก็โดนกรีดออกไปจากร่างกายของเธอ
ใช่ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้
เพราะว่า ถึงต่อให้ต้องตาย เธอก็ยินดีที่จะอยู่ด้วยกันกับเขา
——
ตอนที่คณาธิปอยู่บนชั้นบนสุดของหิรัญชากรุ๊ปได้รับข่าวว่า เส้นหมี่ได้หายไปจากใต้จมูกของเขาแล้ว
“คุณชายรอง ขอโทษครับ คุณเส้นหมี่เธอ…ฉลาดมากจริงๆ เหมือนว่าเธอจะรู้ว่าพวกเราติดตามเธออยู่ หลังจากที่ไปถึงเรืองรอง พวกเราก็หาร่องรอยเธอไม่เจอแล้วครับ”
บอดี้การ์ดที่ขึ้นมารายงานข่าวกับเขาข้างบน ยืนก้มหน้าอยู่ตรงนั้นอย่างไม่กล้าจะส่งเสียงดัง
ทันใดนั้นนิ้วมือของคณาธิปก็มีเสียงแตกดังขึ้น!
แต่สุดท้าย เขายังคงไม่มีอาการใดๆ แต่หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที ก็สั่งย้ำอีกหนึ่งประโยคว่า : “เธอจะต้องไปที่เมืองหลวงแล้ว ไปตรวจหาทุกๆ เส้นทาง จะต้องหาตัวเธอให้เจอ ก่อนที่เธอจะไปถึงเมืองหลวง!”
“ครับ คุณชายรอง!”
บอดี้การ์ดก็ลงไปอย่างรวดเร็ว
เส้นหมี่คือทนดูไม่ไหวแล้วจริงๆ ประสบการณ์การหลบหนีของเธอนั้นมากมาย ตั้งแต่ตอนที่เธอหนีไปกับลูกชายลูกสาวคู่หนึ่ง จนต่อมาหลังจากกลับมาในประเทศ ก็เล่นหายตัวไปหลายครั้งในเงื้อมมือของแสนรัก
พูดตามจริง ไม่ต้องเอ่ยถึงคณาธิปนั่นหรอก
แม้แต่ตัวแสนรักเอง ตอนนั้นก็โกรธเสียจนต้องกระทืบเท้า
คณาธิปยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ เขาที่ไม่นอนมาทั้งคืน มองไปยังสีท้องฟ้าด้านนอกที่ปรากฏให้เห็นแสงสว่างมาแล้ว บีบกำปั้นแน่น ริมฝีปากเม้มรวมกันจนเป็นเส้นตรงสีขาว…….
และในเวลาเดียวกัน ในเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่อยู่ห่างไกลเมืองนี้ประมาณสามสิบกว่ากิโลเมตร
เส้นหมี่ที่ขับมอเตอร์ไซต์เล็กๆคันหนึ่งจากเมือง A มาถึงที่นี่ตลอดทั้งคืน ซื้อตั๋วรถบัสธรรมดาใบหนึ่งเพื่อไปยังแม่น้ำโสรัล ได้เรียบร้อยแล้ว
เธอฉลาดมากจริงๆ หลังจากที่รู้ว่าตัวเองถูกคนสะกดรอยตาม ไม่เลือกที่จะออกเดินทางจากเมืองใหญ่เมือง A แต่หลังจากที่เธอยืมรถมอเตอร์ไซต์คันเล็กของคนใช้ขับมาทั้งคืน จนเธอมาถึงที่เมืองเล็กๆ แห่งนี้
เมืองเล็กแบบนี้ จะไม่มีรถไฟหรือยานพาหนะอย่างอื่นที่พัฒนาก้าวหน้าไปกว่านี้
หรือแม้แต่รถบัสแบบนี้ มันก็ต้องวิ่งผ่านถนนหลวง ไม่สามารถวิ่งบนทางด่วนได้
ดังนั้น นี่คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุด
“แม่หนู นี่เธอจะไปไหนเหรอ? ใส่น้อยขนาดนี้ ไม่หนาวเหรอ?”
“หา?”
เส้นหมี่ที่เพิ่งนั่งลงมองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย จู่ ๆ ได้ยินมีคนข้างๆมาชวนเธอคุยด้วย เธออึ้งไป และหันหน้ากลับมา
เป็นคุณป้าอายุประมาณสี่ห้าสิบปี ใส่เสื้อผ้าหนามาก เมื่อขึ้นมาแล้ว กลิ่นสาบเหงื่อเหม็นๆ ผสมกับกลิ่นน้ำมันบนร่างกายก็ลอยพุ่งเข้าจมูก
“ไม่หนาว ฉันใส่เสื้อสเวตเตอร์ไว้ข้างใน” การอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูของเส้นหมี่ดีมาก ถึงต่อให้กลิ่นตัวของคนนี้แรงมาก แต่เธอยังคงไม่แสดงออกให้เห็นถึงความรังเกียจแม้แต่น้อย
แต่หลังจากที่ขยับตัวชิดเข้าไปข้างในแล้ว เธอก็นั่งมองไปยังนอกหน้าต่างโดยไม่พูดอะไร
แต่คุณป้าฟังแล้ว กลับหัวเราะ : “เธอหลอกใครเหรอ ก็แค่เสื้อสองตัวนี้ ยังบอกว่าใส่เสื้อสเวตเตอร์ แม่หนู เธออย่าทำให้ตัวเองแข็งตายเลย อากาศในตอนนี้ เธอจะไปไหนเหรอ? ภาคเหนือทางนั้นอากาศยิ่งหนาวนะ”
เส้นหมี่ : “…..”
ถึงแม้ว่าไม่อยากจะสนใจเธอ
แต่ มือทั้งสองข้างของเธอ ยังคงรู้สึกได้ จึงดึงเสื้อคลุมบางๆบนตัวเธอเข้ามาห่อตัวไว้
เธอสวมเสื้อบางจริงๆ เมื่อคืนตอนที่ออกมา เพราะว่าอารมณ์ร้อนรนเป็นอย่างมาก สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แทบไม่ได้คิดที่จะสวมใส่เสื้อโค้ตหนาๆ ก่อน คนก็พุ่งออกมาแล้ว
“อันนี้ให้เธอคลุมไว้ นี่คือเสื้อผ้าของลูกสาวฉัน เธอเรียนอยู่ที่นี่ ฉันเพิ่งมาจากส่งผ้าหนาๆ เธอก็เปลี่ยนเอาสิ่งนี้ไว้ให้ฉัน”
จู่ ๆ คุณป้าคนนี้ก็หยิบเสื้อแจ็กเกตนักเรียนของเด็กมัธยมปลายตัวหนึ่งออกมาจากถุงที่ตัวเธอถืออยู่
เส้นหมี่เห็นเข้า ก็รีบที่จะปฏิเสธทันที
แต่เวลานี้ คุณป้าคนนี้ก็คลุมเสื้อตัวนี้ลงบนตัวเธอเรียบร้อยแล้ว
เส้นหมี่ : “…….”
ช่างเถอะ รอตอนที่ลงรถ ค่อยคืนให้เธอละกัน
เส้นหมี่คิดอย่างนี้ สุดท้าย ก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับ จากนั้นอีกไม่นาน ตั้งแต่เมื่อวานกลางวันจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่ได้ปิดตาลงนอนเลย ก็เลยพิงหน้าต่างของรถบัสแล้วผล็อยหลับไป