ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 68 เขาพาเธอไปที่ห้องนอน
“คุณเป็นอะไร?”
ใบหน้าแสนรักมืดมนกวาดมองศีรษะที่เปียกปอน และร่างกายที่ดูราวกับสะบักสะบอมของเธอ
เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ ยังเป็นชุดเดียวกับที่เธอใส่ไปที่บริษัทของเขาในตอนบ่าย ไม่ได้พิเศษอะไร แต่ตอนที่เธออยู่กับเขา อย่างน้อยก็ยังสะอาดสะอ้าน แล้วตอนนี้นี่มันยังไงกัน ?
โดนใครปล้นมาหรือยังไง ? ทำไมถึงดูไม่ได้เลย!
ยังมีอีก แล้วหน้าเธอเป็นอะไรไป ?
แสนรักจ้องมองเธออย่างเศร้าโศก ใบหน้านี้ อันที่จริงก็พอใช้ได้ แม้จะไม่ได้มีเสน่ห์และงดงามอย่างแป้งร่ำ แต่โครงหน้าก็สวยงาม ออกแนวยิ่งดูยิ่งน่ามอง โดยเฉพาะดวงตากลมโตคู่นั้น สดใสและสว่างไสวราวกับอัญมณี มันดูน่าทึ่งมาก
แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ? บวมจนราวกับแมลงกัดต่อย ?
“ไม่เป็นไร ตอนที่มา ลมแรงไปหน่อย ”
เส้นหมี่อธิบายอย่างเรียบเฉย ไม่มีอารมณ์แปรปรวนอะไร
แน่นอนว่าเธอไม่คิดอยู่แล้วว่าที่ชายหนุ่มถามเธอ เพราะเป็นห่วงเธอ นั้นมันเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดไม่ใช่เหรอ ? เขาเป็นห่วง!อย่างมากเขาก็คงกลัวว่าจะได้รับผลกระทบ อารมณ์ไม่คงที่ จนทำให้ส่งผลต่อการฝังเข็มให้เขา
เส้นหมี่จัดผมที่ยุ่งเหยิงตรงหน้าผาก ไม่สบอารมณ์เล็กน้อย“ ตัดสินใจได้หรือยัง ? จะให้ทำการฝังเข็มที่ไหน?”
แสนรัก“……”
แม้จะรู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยกับการไม่รู้ผิดชอบชั่วดีของหญิงสาว แต่สุดท้าย เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ก้าวขาเดินออกจากห้องหนังสือ แล้วเข้าไปยังอีกห้องที่อยู่ข้างๆ
เมื่อเส้นหมี่เห็น ก็เดินตามหลังเขาไป
สองนาทีต่อมา ในห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีการตกแต่งตามแบบฉบับด้วยโทนขาวดำเทา หลังจากที่เส้นหมี่เห็นชายหนุ่มพาเธอเดินเข้ามา หยิบรีโมทแล้วกดเปิดเครื่องทำความร้อน
เส้นหมี่นิ่งไปชั่วครู่!
นี่มันห้องนอนของเขาเหรอ ?
เธอรู้สึกอึดอัดขึ้นในทันที และคิดไปถึงในห้องนี้เคยมีผู้หญิงอีกคนมาพักอาศัยอยู่ ในใจของเธอก็รู้สึกรังเกียจขึ้นมาอย่างรุนแรง
แต่ว่า ที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ ในตอนที่ชายหนุ่มไปหยิบผ้าห่มผืนบางที่ตู้เสื้อผ้านั้น เส้นหมี่เห็นตู้ที่เขาเปิด ล้วนเป็นเสื้อเชิ้ตและชุดสูทของผู้ชายทั้งสิ้น ส่วนเสื้อผ้าของผู้หญิง ก็ดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย
นี่มันอะไรกัน ?
เธอตะลึงงัน ยังไม่ทันที่จะได้มองสำรวจดูดีๆ ผ้าเช็ดตัวสีขาวผื่นหนึ่งก็ถูกโยนมาให้เธอ
“ที่บ้านผมไม่มีเสื้อผ้าผู้หญิง ใช้ไอนี่เช็ดหัวคุณไปก่อน”ชะงักไป ราวกับรู้ตัวว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นเหมือนกำลังเป็นห่วงอยู่ คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็พูดเสริมไปอีกคำว่า“อย่าป่วยแล้วเอามันมาติดลูก!”
เส้นหมี่“……”
ถือผ้าขนหนูและยืนอยู่กับที่ชั่วครู่ จากนั้นก็ถึงได้เอามันมาพันรอบศีรษะตัวเอง แล้วเช็ดไปมาอย่างเชื่องช้า
ในช่วงฤดูแบบนี้ หลังจากตากฝน ก็อาจจะป่วยได้ง่ายมากจริงๆ โดยเฉพาะคนอย่างเส้นหมี่ที่สุขภาพไม่ค่อยจะดี ในตอนนั้น แม้เธอจะรอดมาได้ แต่ลูกสามคน ก็คลอดก่อนกำหนด ต่อให้เธอจะแข็งแรงแค่ไหน ร่างกายก็ทนไม่ไหวหรอก และสึกหรอไปมากแล้ว
ดังนั้น ครั้งนี้เธอก็จึงไม่ได้รอช้าอะไร
เช็ดผมอยู่สักครู่ อุณหภูมิภายในห้องก็ถูกปรับให้สูงขึ้น ร่างกายของเส้นหมี่ก็รู้สึกดีขึ้นมาก เมื่อเห็นชายหนุ่มนอนลงไปยังบนโซฟา เธอก็จึงเดินตามเข้าไปพร้อมอุปกรณ์ฝังเข็ม
“วันนี้นอนหรือยัง?”
“ยัง”
“ยาล่ะ?”
“กินแล้ว……”
พูดคุยกันแบบถามคำตอบคำ ทั้งหมดล้วนเป็นการสื่อสารระหว่างหมอกับคนไข้ทั้งนั้น
เส้นหมี่ถามคำถามตัวเองจบ ก็ยื่นมือไป “ ยื่นมือคุณมา ขอจับชีพจรก่อน ”
แสนรัก“……”
นอนอยู่ตรงนั้น เขาหันมองข้อมือของหญิงสาวที่ปลายนิ้วเรียวยาวและออกจะสีแดงด้วยเล็กน้อย หลังจากนั้น ก็ถึงได้ยื่นแขนของตัวเองออกมา
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก
เพราะในความทรงจำของแสนรัก หญิงสาวคนนี้ยังเหมือนเดิมกับตอนที่แต่งงานกับเขา ตอนนั้นเธออายุแค่19ปี หลังจากที่เจอเขา ใบหน้าอันไร้เดียงสายังมีความตื่นตระหนกอยู่ เธอไม่มีปากมีเสียง แม้แต่ความกล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาก็ยังไม่มี
แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอกลายเป็นคนนิ่งและสงบแบบนี้ไปได้ ?
เธอสงบนิ่ง ขณะที่สองนิ้วเย็นๆยื่นมานั้น แสนรักก็แทบไม่เห็นเงาที่ขี้ขลาดและอ่อนแอในอดีตของเธอเลย
“คุณเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“อะไร ?”
เส้นหมี่ที่กำลังจับชีพจรอยู่เมื่อได้ยินคำนี้ สติก็หลุดออกจากปลายนิ้ว เหลือบมองเขา
“คุณหมายถึงที่ฉันทำนี่เหรอ ?”
“ใช่ ผมจำได้เมื่อก่อนคุณไม่ได้เรียนหมอ จู่ๆคุณรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง ?”
สายตาแสนรักจ้องมองไปยังมือของตัวเองที่เพิ่งถูกวัดชีพจรไป ตรงนั้นยังมีความเย็นหลงเหลืออยู่ ราวกับลมเย็นที่พัดผ่านจากรอยแยกของขอบหน้าต่าง ไม่ได้รุนแรงนัก แต่ก็รับรู้มันได้อย่างชัดเจน
“ประธานแสนรักช่างเป็นคนมีฐานะที่ขี้ลืมจริงๆ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าครอบครัวคุณปู่ของฉันเป็นครอบครัวแพทย์แผนจีน ? แม่ของฉันเรียนแพทย์แผนจีนกับคุณปู่ของฉันมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อโตขึ้นก็ได้รับการถ่ายทอดจากท่าน หากไม่ใช่เพราะมาแต่งงานกับพ่อของฉัน เธอก็คงจะเป็นทายาทของตระกูลอัครนันท์ไปแล้ว ”
เส้นหมี่หยิบเข็มที่ทั้งเล็กและยาวออกจากกระเป๋า มุมปากก็พลางพูดเสียดสีไปด้วย
แสนรักกลืนน้ำลายลงคอ
อันที่จริง เขาลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ครอบครัวของลุงเธอ ก็เปิดร้านขายยาจีนอยู่ไม่ใช่เหรอ?