ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 69 เขาถอยก้าวหนึ่ง
แต่น่าเสียดาย เพราะธนาตย์ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้อัครนันท์แพทย์แผนจีนที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต พอตกมาอยู่ที่เขาก็จึงค่อยๆทรุดโทรมไป หากไม่ใช่เพราะภรรยาของเขาสาธินีคอยดูแลอยู่ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะมีสภาพยังไง
แสนรักไม่ได้หาเรื่องให้ลำบากใจอีก จดจ่อกับการรอให้หญิงสาวฝังเข็มให้ตัวเอง
“อื้อ……”
เป็นไปตามคาด ไม่ถึงสองวินาที ที่เหนือศีรษะก็รู้สึกเสียวซ่านขึ้นมาทันที อาการชาวาบแพร่ซ่านไปทั่วใต้หนังศีรษะของเขา
เส้นหมี่เหลือบมองลงมาที่เขาอย่างเฉยชา“อดทนไว้!”
แสนรัก“……”
ผู้หญิงน่ารำคาญ เขาไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะไม่ทน
ฝังไปหลายเข็มติดต่อกัน ในที่สุด ศีรษะของแสนรักที่ปวดมาทั้งวัน ก็คลายลงได้มาก
พอคลายลง อารมณ์เขาก็ดีขึ้น ก็จึงเริ่มถามขึ้นมาอีกครั้ง“ นอกจากทำสิ่งนี้แล้วที่ต่างประเทศ คุณยังทำอะไรอีก ? ผมหมายถึงเรื่องการศึกษา”
“การศึกษา?”เมื่อเส้นหมี่ได้ยินดังนี้ มุมปากก็ยิ่งเย้ยหยัน“ประธานแสนรัก ฉันไปต่างประเทศเพื่อเอาชีวิตรอด ไม่ได้ไปเที่ยว และไม่มีเวลาไปร่ำเรียนหนังสืออะไรทั้งนั้น”
“งั้นก็หมายความว่า หลังจากที่คุณสอบไม่ผ่านที่นี่ ไปที่อื่น ก็ไม่ได้เข้าเรียนที่ไหนอีกเลย ?”
“ใช่ ฉันไม่ได้เรียน ความรู้ฉันน้อยมาก เป็นแค่เด็กจบมัธยมปลาย เป็นยังไง ? ประธานแสนรัก ตอนนี้คุณคงรู้สึกเสียใจมากใช่ไหมที่ให้ฉันมาทำการรักษาคุณ ? ให้ฉันเข้ามาเหยียบในบ้านที่สูงศักดิ์นี้ของคุณ?”
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอวางเข็มในมือลง น้ำเสียงแปรเปลี่ยนเป็นแหลมคม ราวกับหนามตามร่างกายถูกสะกิดขึ้นมาอีกครั้ง
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ เธอไม่ได้ไปร่ำเรียนอ่านเขียนอะไรมาเลย
เธอแทบไม่มีเวลา ทารกน้อยสองคนที่ต้องคอยให้อาหาร เธอพาพวกเขาไปยังดินแดนที่ไม่คุ้นเคย เธอต้องเอาชีวิตรอด และต้องเลี้ยงดูพวกเขา จะเอาเวลาที่ไหนไปเรียนหนังสือ?
ผู้ชายคนนี้ไม่มีวันรู้ ว่าตลอดห้าปี เธอต้องลำบากมากแค่ไหน และผ่านช่วงนั้นมาได้ยังไง? !
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นที่เธอไม่เรียนต่อ ไม่ใช่ว่าเธอสอบไม่ผ่าน !
แต่เพราะเธอต้องแต่งงานกับเขา จึงฉีกใบเรียกตัวนั้นทิ้งแล้วปิดบังเรื่องนี้กับทุกคน นั่นมันใบเรียกตัวของคณะเศรษฐศาสตร์มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองYเชียวนะ แล้วยังเป็นสิทธิ์โควตาของนักเรียนเรียนดีด้วย
เส้นหมี่รู้สึกแค้นเคืองจนเข็มในมือ ถึงกับบิดงอ
แสนรักไม่คิดว่าเธอจะสุดโต่งขนาดนี้ เขาก็แค่อยากจะยืนยันอะไรบางอย่างเท่านั้น จึงถามออกไป แล้วเธอจะต้องโกรธขนาดนี้ทำไม? เธอสอบไม่ผ่าน จะโทษเขาหรือไง?
บ้าไปแล้ว!
ใบหน้าที่หล่อเหลาของแสนรักมืดมน และแล้วก็ไม่ได้ถามอะไรต่ออีก
อย่างไรเสีย ต่อให้เขาไม่ถามเขาก็รู้อยู่แล้ว เพราะหลังจากนั้นไม่นาน หญิงสาวก็ได้เขียนใบสั่งยาให้เขา และลายมือบนใบสั่งยานั้น ก็เหมือนกันกับตัวหนังสือญี่ปุ่นในเศษกระดาษที่ทิ้งเอาไว้ในห้องทำงานของเขาเมื่อตอนกลางวันเลย
ดังนั้น ผู้หญิงคนนี้ยังปิดบังอะไรเขาอีก ?
แสนรักเริ่มจะมีอาการมึนงงเล็กน้อย
เส้นหมี่ที่มีอาการหงุดหงิดอย่างที่สุดหลังจากที่โต้เถียงกันเห็นเข้า รีบวางใบสั่งยาที่เขียนเสร็จแล้วลง เก็บข้าวของของตัวเองและเตรียมตัวจะจากไป
สถานที่สับปะรังเคแห่งนี้ เธอทนมันมามากพอแล้ว และต่อไปเธอก็คงจะไม่ได้มาที่นี่อีก
ในขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ชายหนุ่มที่นอนราบอยู่บนโซฟาก็เอ่ยปากพูด“เส้นหมี่ เรื่องเข้าโรงเรียนอนุบาลของชินจังที่คุณพูด หากคุณมีวิธี ผมจะให้คุณลองดู ”
อะไรนะ ?
เส้นหมี่หยุดขาที่ก้าวลงทันที
เธอเป็นคนแบบนี้ ไม่ว่าตัวเองจะเสียความรู้สึกแค่ไหน หรือทุกข์ทรมานเพียงใด แต่ถ้าหากมันเกี่ยวพันถึงลูก เธอก็มักจะโอนอ่อนอย่างควบคุมไม่ได้ตลอด
“ที่คุณพูด……จริงเหรอ?”
“ใช่ แต่คุณต้องบอกผมว่าคุณคิดจะทำอะไร? เรื่องนี้สำหรับชินจังจิตใจของเขาไม่พร้อมจะเปิดรับมัน หากวิธีการของคุณมันไม่เข้าท่า ทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานอีก งั้นคุณก็ไสหัวไปได้เลย!”
ชายหนุ่มนอนหลับตาอยู่ตรงนั้น อันที่จริง เพราะผลจากการรักษา คำพูดคำจาของเขาก็จึงติดๆขัดๆอยู่บ้าง
แต่ว่า ประโยคสุดท้าย ก็ยังฟังออกว่ามันเป็นเสียงที่เล็ดลอดออกจากไรฟัน
เส้นหมี่ยืนยันกับเขาในทันที“ ไม่มีปัญหา คุณวางใจได้ ฉันเป็นหมอ ฉันย่อมต้องรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว”
น้ำเสียงของเธอยังคงเย็นชาและสงบนิ่ง แต่ถ้าหากฟังดีๆ ก็จะสังเกตเห็น ว่ามันแตกต่างจากเมื่อครู่ คำพูดของเธอเมื่อครู่มีความเบื่อหน่ายและหงุดหงิด
แต่ตอนนี้ มันมีชีวิตชีวาและมีพลังอย่างเห็นได้ชัด
มุมปากแสนรักมีรอยยิ้มเยาะ ในที่สุดก็ผล็อยหลับไป
เส้นหมี่ชะงักไปชั่วขณะ คงเพราะเรื่องน่ายินดีนี้มาอย่างกะทันหันเกินไป ตลอดคืนนี้เธอรู้สึกหดหู่และสิ้นหวังอย่างมากและยังคงปรับสภาพอารมณ์ไม่ได้ในทันที
ผ่านไม่กว่าสิบวินาที “ตึง”เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินวนไปมารอบๆอย่างมีความสุข
“ชินชิน เยี่ยมไปเลย !!หม่ามี๊จะได้พาลูกไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว!!ฮ่าๆๆๆ……”
เธอหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ตลอดทั้งวัน ในที่สุดใบหน้าของเธอก็มีรอยยิ้มให้เห็น แม้จะมีความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง อีกทั้งใบหน้าก็ซีดเซียว แต่ว่า เธอก็ราวกับคนที่กำลังจะจมน้ำ แต่แล้วจู่ๆก็มีขอนไม้ท่อนหนึ่งลอยมาให้เธอได้เกาะเกี่ยว และมีชีวิตอีกครั้ง
ใช่ บางครั้ง ความสุขของคนเป็นแม่มันก็เรียบง่ายแบบนี้จริงๆ