ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 708 ปกป้องสามีอย่างบ้าคลั่ง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 708 ปกป้องสามีอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อปรับเตียงเสร็จ เธอไปจัดโต๊ะเล็กสำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะมาทันที
“คุณแสนรักคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณดื่มเถอะค่ะ”
“…”
ไม่มีเสียงตอบรับ
ห้องพักผู้ป่วยนี้ เหมือนกับว่าหลังจากที่เธอจัดแจงอาหารพวกนี้วางไว้บนโต๊ะเสร็จ ก็เข้าสู่จุดเยือกแข็งอีกครั้ง
เส้นหมี่กลืนน้ำลาย เป็นเวลานาน ถึงได้กล้าเหลือบมองไปที่ดวงตาเฉียบคมคู่นั้น: “คุณ…คุณแสนรัก อยากให้ฉันออกไปไหมคะ? ตกลงค่ะ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้”
เธอคิดว่า เขาเห็นเธออยู่ตรงนี้แล้วในใจรู้สึกรังเกียจขึ้นมาอีก ถึงได้มีสีหน้าน่ากลัวขนาดนี้
เธอก้มหน้าลงอย่างเสียใจ เตรียมจะออกไป
“อ้าว? หมอคิตตี้ คุณจะไปไหนคะ? ไม่ป้อนนมคุณแสนรักเหรอคะ?”
“ห๊ะ?”
เส้นหมี่เงยหน้าขึ้นทันที แล้วมองไปทางพยาบาลที่ส่งเข็มยาเข้ามา
ป้อนนม
จริงด้วย เธอลืมไปได้ยังไง? หนุ่มคนนี้สองมือบาดเจ็บอยู่ แม้แต่ขยับก็ยังขยับไม่ได้ จะทานอะไรได้ยังไง?
ความเศร้าของเส้นหมี่หายไปทันที เธอหันหลังเดินกลับไป
“คุณแสนรักคะ ฉันป้อนคุณนะคะ”
“ไสหัวไป!”
“ขอโทษค่ะคุณแสนรัก เมื่อครู่ฉันสะเพร่าไป ฉันขอโทษคุณค่ะ เพราะว่าฉันกลัวแตะต้องโดนคุณ ลืมคิดไปชั่วคราว ว่าคุณกำลังบาดเจ็บอยู่ คุณให้อภัยฉันสักครั้งได้ไหมคะ?”
เด็กสาวที่สำนึกผิดยืนยิ้มอยู่ข้างหน้าเตียง ดวงตาสดใสสวยงามที่มองมาทางเขาอย่างน่าสงสาร เหมือนกับลูกหมาน้อยที่ถูกเจ้าของรังเกียจ
แสนรักตกตะลึงทันที
สายตาแบบนี้ เหมือนกับเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน? ทำไมมีความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่าง?
ไม่ เป็นไปไม่ได้!
เขาจะรู้จักผู้หญิงที่ขี้เหร่ขนาดนี้ได้อย่างไร?
เขาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว แล้วมองไปทางอื่นด้วยสายตาอึมครึม
แต่ว่า แม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่รู้ ว่าเขาไม่ได้เอ่ยปากไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปแล้ว
เส้นหมี่ขยับเขยื้อนสายตา…
“ขอบคุณค่ะคุณแสนรัก ฉันจะไปหยิบหลอดมาให้คุณ” เธอที่ฉลาดหลักแหลม หันหลังไปหยิบหลอดมา แล้ววางไว้ในแก้มนม จากนั้นยื่นไปข้างปากของเขา
ยังไงซะเธอก็หน้าหนาจนเคยชินแล้ว เมื่อก่อนที่เมือง A ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยตามตื๊อตอแยเขามาก่อน
เส้นหมี่ยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ
สุดท้ายแสนรักก็ดื่มนมแก้วนี้หมด ส่วนของหวานพวกนั้น…
“อุ๊ย ฟื้นแล้วเหรอ? งั้นก็ดีมากจริงๆ นายไม่เป็นไรนะ? รัก”
จู่ๆ หญิงสาววัยกลางคนที่ผลักประตูมาจากด้านนอก เมื่อเห็นทั้งคู่ที่กำลังทานของอยู่ภายในห้องพักผู้ป่วย เธอประหลาดใจจนตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็พุ่งเข้ามา
เส้นหมี่เห็นดังนี้ ก็ลุกขึ้นยืนขึ้นด้วยสัญชาตญาณทันที
เธอขวางอยู่ด้านหน้าเตียง
ส่วนแสนรัก เดิมทีอ้าปากอยากจะทานของหวาน ก็ปิดปากลงทันที เขาไม่มีความสนใจอีกต่อไป
“ไม่ทราบว่าคุณคือ?”
“อ่อ ฉันเหรอ ฉันคือคุณป้าของเขา คือแม่ของคุณชายม็อกโก พวกเรามาเยี่ยมเขา คุณลุงของเขาอยู่ด้านหลัง เดี๋ยวก็มาถึงแล้ว”
มินตราเห็นแพทย์หญิงคนนี้ขวางตัวเอง จึงทำได้เพียงอธิบายสถานะของตัวเองอย่างไม่พอใจ
คุณแม่ของม็อกโก
เส้นหมี่โล่งอกเล็กน้อย
แต่ว่า เธอก็ยังไม่เปิดทาง กลับหันหน้ามองไปทางชายหนุ่มที่กึ่งนั่งอยู่บนเตียง พบว่าใบหน้าของเขาเคร่งขรึมลงในตอนนี้ แถมยังแฝงไปด้วยความรังเกียจและหงุดหงิด
เธอมองไปทางผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้ต่อ: “ขอโทษด้วยนะคะ คุณนายมินตรา ผู้ป่วยต้องการพักผ่อน ยังไม่สามารถรบกวนได้ชั่วคราวค่ะ”
“เขาฟื้นแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันแค่มาเยี่ยมดูเขา ไม่ได้รบกวนเขาสักหน่อย”
มินตราได้ยินก็รู้สึกโมโห แล้วยื่นมือมาจะผลักเธอออก
แต่เส้นหมี่ตอบสนองไวกว่าเธอ ก่อนที่เธอจะลงมือ เส้นหมี่จับแขนของเธอไว้ จากนั้นก็ลากผู้หญิงคนนี้ออกไปโดยไม่ปล่อยให้แก้ตัวใดๆ
“ผู้หญิงคนนี้ เธอกล้าดีมาก ถึงได้กล้าผลักฉันออกมา? เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันทราบค่ะ แต่ผู้ป่วยตอนนี้ต้องการพักผ่อนจริงๆ คุณนายมินตรายกโทษให้ด้วยนะคะ!”
เส้นหมี่พูดอย่างเย็นชา
จากนั้นก็ล็อกประตูบานนั้นจากด้านนอก
มินตราเห็นแล้ว ก็ระเบิดโมโหในทันที!
นี่แพทย์หญิงคนนี้มาจากไหนกันแน่? ถึงได้กล้าไล่เธอออกมา ตอนนี้โรงพยาบาลทหารไม่มีความเคารพต่อตระกูลเทวเทพของพวกเขาขนาดนี้แล้วเหรอ? นี่เป็นลูกน้องของใครกันแน่?
“เธอจำฉันไว้ได้เลย!!” หญิงคนนี้โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ ต้องการจะตามหาผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลทันที
เส้นหมี่ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ
สุดท้าย ไชกุก็มาถึงแล้ว เขาเห็นภรรยาของตัวเองโมโหเดือดดาล ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
“คุณไปทำอะไรมา? ไม่ใช่บอกว่ามาเยี่ยมรักเหรอ?”
“เยี่ยมอะไรกัน? แพทย์หญิงคนนั้นไม่ให้ฉันเข้าไปด้วยซ้ำ พูดว่าฉันรบกวนเขา แถมยังไล่ฉันออกมา ฉันกำลังจะไปหาผู้อำนวยการของพวกเขาอยู่ โรงพยาบาลซอมซ่อช่วงนี้รับสมัครแต่ขยะอะไรพวกนี้!”
มินตราด่าอย่างสาดเสียเทเสีย
ไชกุถึงได้สังเกตเห็นเส้นหมี่ที่ยืนอยู่ด้านนี้ จากนั้นสองสายตาที่ดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่กวาดมองมา
“เธอมาใหม่เหรอ?”
“ใช่ค่ะ ฉันคือผู้ช่วยของ ด็อกเตอร์ไพบูลย์”
“งั้น ด็อกเตอร์ไพบูลย์ไม่ได้บอกกับเธอเหรอ? คนด้านในคือหลานชายของพวกเรา?”
“บอกค่ะ แต่ ด็อกเตอร์ก็พูดไว้ว่า ตอนนี้คุณแสนรักอยู่ในช่วงที่ไม่มั่นคง โดยเฉพาะเพิ่งฟื้นจากการผ่าตัด อารมณ์ของเขาฉุนเฉียวง่าย พันโทม็อกกี้กับ คุณนายมินตราถ้าหากไม่กลัวจริงๆ งั้นฉันก็ไม่ขวางค่ะ”
พูดจบ เส้นหมี่ก็หยิบกุญแจออกมาจากในกระเป๋าด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วเตรียมที่จะเปิดประตูให้ทั้งคู่