ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 712 ดันทุรัง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 712 ดันทุรัง
เส้นหมี่ที่อยู่ภายใต้ความร้อนใจ คิดได้ว่าให้ลูกสาวมาจัดการปัญหานี้
แสนรักไม่รู้ว่าลูกทั้งสามอยู่ที่ไหน แต่ในตอนที่เส้นหมี่มาหาแสนรักที่เมืองหลวงเมื่อครึ่งปีก่อน เธอโทรหากาวิน ก็ได้รู้ความเป็นอยู่ของลูกๆ
ตอนนั้นแสนรักภายในใจรู้ว่าต้องตายแน่นอน
ดังนั้น เขาได้มอบหมายกับกาวิน ว่าหลังจากเกิดเรื่องจะต้องบอกที่อยู่ของลูกทั้งสามกับเส้นหมี่
เส้นหมี่ฟื้นแล้ว แน่นอนว่าต้องหาลูกๆ เจอ
เพียงแต่ ลูกทั้งสามคน เธอกลับไม่สามารถให้ลูกชายทั้งสองคนมาได้ เพราะว่าพวกเขาเหมือนกับแด๊ดดี้มากเกินไป ถ้าหากมาที่นี่ จะต้องถูกคนตระกูลเทวเทพรับรู้
อีกอย่าง สองหนุ่มนี่ฉลาดมากเกินไป เธอกลัวว่าพวกเขาจะก่อเรื่อง
ประเทศมัลดีฟส์
แสงแดดเจิดจ้า ต้นมะพร้าวเขียวชอุ่มปลิวไสวตามสายลม และน้ำทะเลสีฟ้าใสข้างหน้า เป็นเพราะถูกลมพัดจนเกิดเส้นซ้อนกัน มันสวยงามเป็นอย่างมาก
เด็กสาวที่สวมกระโปรงสีชมพู ตอนนี้ยกก้นน้อยๆ อยู่ใต้ทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วสร้าง “ปราสาท” ของเธอ
จนกระทั่งดลธีปรากฏตัวขึ้น
“คุณอาว่าอะไรนะคะ? คุณอาธี หนูไปพบแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ได้แล้วเหรอคะ?”
เด็กสาวได้ยินคำพูดนี้ ก็ดีใจเป็นอย่างมาก เธอโยนอุปกรณ์หลากสีในมือทิ้ง ขาเล็กที่จ้ำม่ำวิ่งมา
ดลธีเห็นแล้ว รีบคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ: “คุณหนูน้อยวิ่งช้าๆ หน่อย อย่าล้มลง”
เด็กสาวไม่สนใจแล้ว
ได้เจอแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ ถึงจะดีใจมากที่สุด
เด็กชายอีกสองคนที่เล่นอยู่ไม่ไกลเห็นแล้วก็วิ่งมา…
“คุณอาธี นี่ไม่ยุติธรรม ทำไมน้องสาวไปเจอแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ได้? ผมกับพี่ชายทำไมถึงไปไม่ได้ล่ะ?”
“ใช่!”
ชินจังที่ไม่ชอบพูด ใบหน้าเล็กก็ทำหน้างอน แสดงความไม่พอใจ
ดลธีทำได้เพียงดึงสามคนทูนหัวเข้ามา จากนั้นก็อธิบายกับพวกเขา
“คือแบบนี้ครับ คุณชายน้องทั้งสองคน ตอนนี้สถานการณ์ทางด้านแด๊ดดี้และหม่ามี๊ของพวกหนูค่อนข้างพิเศษ ถ้าหากพวกหนูสามคนไปพร้อมกัน พวกเขาจะดูแลไม่ทั่วถึง น้องสาวคือเด็กผู้หญิง ดูแลง่ายกว่า”
“…”
“เพียงแต่พวกหนูวางใจได้ เพียงแค่สถานการณ์ของแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ดีขึ้น ก็จะพาพวกหนูสองพี่น้องไปด้วยกัน
เห็นคุณชายน้อยทั้งสองคนยังขมวดคิ้วแน่น ดลธีรีบพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง
เมื่อพูดจบ เด็กชายทั้งสองก็ไม่พูดอะไรอีก
หลายนาทีต่อมา หน้าวิลล่าที่สวยงามริมทะเล หัวเล็กๆ สองหัวรวมกันอยู่ที่ใต้ฐานดอกไม้
“คุณอาธีจะต้องโกหกแน่นอน!”
“อืม”
“พี่ดูสิ พวกเราเชื่อฟังขนาดนี้ ทำไมถึงกลายเป็นภาระของแด๊ดดี้กับหม่ามี๊? จากความสามารถของแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ ดูแลไม่ทั่วถึง ในบ้านพวกเราไม่มีคนใช้เหรอ?”
“อืม”
ชินจังที่พูดน้อย ยังคงเห็นด้วยกับความคิดเห็นของน้องชาย
งั้นในเมื่อคุณอาธีพูดโกหก ทางด้านแด๊ดดี้กับหม่ามี๊เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ? พวกเขามาที่นี่ครึ่งปีกว่าแล้ว พูดไว้แล้วว่าจะตามมาอย่างรวดเร็ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมา
พวกเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เด็กชายทั้งสองเร่ิมกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
“งั้น…พวกเราแอบตามไป?” คิวคิวเห็นพี่ชายขมวดคิ้วแน่น จึงยื่นข้อเสนอที่ใจกล้าขนาดนี้ออกมา
แอบตามไป?
แต่ชินจังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหน้า
“ยังไม่ต้องก่อนชั่วคราว แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ในเมื่อไม่อยากให้พวกเราไป จะต้องมีเห็นผลของพวกเขาแน่นอน ถ้าหากพวกเราปรากฏตัวอย่างบุ่มบ่าม ไม่แน่อาจจะสร้างปัญหาอะไรให้กับพวกเขา”
“งั้นความหมายของพี่คือ…?”
“พวกเราติดเครื่องมือสื่อสารเล็กๆ ให้กับน้องสาว รักษาการติดต่อกับเธอ รอจนกว่าจะแน่ชัดสถานการณ์ทางด้านนั้นแล้วค่อยว่ากัน!”
ชินจังไม่เสียแรงที่เป็นพี่ชาย ในการจัดการเรื่อง ค่อนข้างมีสไตล์ของแสนรัก และยังมองการณ์ไกลกว่าคิวคิว
สองพี่น้องก็ไปเช่าเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กนี้ในทันที
ส่วนรินจังเมื่อได้ฟังการตัดสินใจของพวกพี่ชาย ก็ไม่มีความคิดเห็นใดๆ
ดังนั้นในตอนที่ดลธีพาเด็กสาวคนนี้ไป ใครก็ไม่ได้สังเกตเห็น ว่าขนปุกปุยบนเส้นผมของเธอ จู่ๆ ก็มีกิ๊บติดผมที่สวยงามและน่ารักเป็นอย่างมาก
—
เส้นหมี่ก็ได้รับข่าวที่ลูกสาวของเธอมาถึง ทันใดนั้น เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ และเฝ้ารอเล็กน้อย
“คุณแสนรักคะ คุณ…ทานยาแล้วยังคะ?”
“…”
เขาไม่สนใจเธอ
ชายหนุ่มคนนี้ที่ตั้งแต่รู้ว่าเธอแต่งงานมีลูกเมื่อวานนี้ เหมือนกับว่ากลับไปตอนที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกอีกครั้ง
เขาไม่อยากแม้แต่จะพูดกับเธอ
ทำยังไงได้?
แน่นอนว่าทำได้เพียงเกลี้ยกล่อม
เส้นหมี่ยิ้มแย้มแจ่มใส และก็ไม่ถามเขาอีก เก็บยาของเขากลับมา เธอรินน้ำอุ่นแก้วหนึ่ง หยิบยื่นมาให้เขา
“คุณแสนรักคะ มา ฉันป้อนคุณค่ะ”
“…”
เหมือนกับถูกอะไรต่อยเข้า
ชายหนุ่มคนนี้ได้ยินคำว่า “ป้อน” ความพะอืดพะอมที่ไม่สามารถคาบคุมได้ เขารู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งตัว
“ต้องให้เธอป้อน? ไสหัวไป!”
“ห๊ะ?” เส้นหมี่เผยความเสียใจสุดขีดอย่างถึงที่สุดในทันที
“คุณแสนรัก นี่คุณ…ยังโกรธอยู่เหรอคะ? เมื่อวานฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณไม่ชอบเด็ก ถ้าหากฉันรู้ ฉันไม่มีทางให้คุณดูรูปลูกสาวของฉันแน่นอนค่ะ”