ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 801 เขารู้สึกแปลกใจว่าทำไมตัวเองถึงโกรธ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 801 เขารู้สึกแปลกใจว่าทำไมตัวเองถึงโกรธ
“ฮัลโหล หม่ามี๊ หนูรินจังเองนะคะ”
“รินจัง”
ทางฝั่งเจแปน เส้นหมี่ที่นอนหลับไปได้ไม่นานแล้วเพิ่งเอาโทรศัพท์มาลูบ ก็ได้เห็นวิดิโอคอลบนหน้าจอที่โทรมา เธอตกใจมาก คิดว่าตัวเองตาฝาดไป
แสนรักโทรวิดิโอคอลกับเธอหรอ?!!
จนกระทั่งเธอกลั้นอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้แล้วกดรับสาย เลยได้ยินเสียงของก้อนแป้งน้อยดังขึ้น
“ใช่ค่ะหม่ามี๊ หม่ามี๊ดีขึ้นยังคะ? ตอนนี้หนู…หนูอยู่กับแดดดี๊ที่นี่”
เจ้าหนูพูดทักทายกับหม่ามี๊ด้วยความตื่นเต้นดีใจในโทรศัพท์ พูดคำว่า “แดดดี๊” เธอก็หันไปมองแดดดี๊ที่อยู่บนเตียงแล้วมองอย่างระมัดระวัง เกรงว่าเขาจะตื่น
เส้นหมี่ “…..”
เธอรู้อยู่แล้วแน่นอนว่าเธอต้องอยู่กับแดดดี๊ที่นั่น
เจ้าเด็กนี้นี่ถือโอกาสสร้างความวุ่นวายให้เธอในขณะที่เธอผ่าตัดแล้วยังไม่ฟื้น เธอยังไม่ได้ตีก้นเธอเลย
เส้นหมี่พูดโกรธๆ “ยังมีหน้ามาบอกให้หม่ามี๊ฟังอีกหรอ ลูกรู้มั้ยว่าอาธิปเหนื่อยกับลูกไปเรื่องนี้ตั้งมากมายเท่าไหร่!”
“หม่ามี๊……”
เจ้าเด็กฟังออกว่าหม่ามี๊กำลังตำหนิ ทันใดนั้นก็ให้เบ้ปากท่าทางน้อยใจ
ดีที่คณาธิปเข้ามาในเวลานี้พอดี เขาเห็นฉากนี้เข้าเลยพูดกับเส้นหมี่อย่างอดไม่ได้ “เธอยังเด็กอยู่ คุณจะว่าเธอไปทำไม?”
เส้นหมี่ “……”
“เอาล่ะ หม่ามี๊ไม่ว่าลูกแล้ว ลูกอยู่ที่นั่นเป็นไงบ้าง? ได้เจอแดดดี๊แล้วหรือยัง?” เส้นหมี่เชื่อฟังคำพูดของเขาไม่ได้ใส่อารมณ์กับเจ้าเด็กคนนี้อีก
หนูรินจังได้ยินก็ให้ดีใจ
“ได้เจอแล้วค่ะ ป้าเป็นคนมารับหนูกลับมา แต่หม่ามี๊คะแดดดี๊ป่วย เขาร้องตะโกนเสียงกังอยู่ในห้อง เมื่อกี้อาหมอมา หม่ามี๊ แดดดี๊เขาจะตายมั้ยคะ?”
เจ้าเด็กถือโทรศัพท์ แล้วเอ่ยถามขึ้นหม่ามี๊ขึ้นด้วยเสียงเหมือนจะร้องไห้
เส้นหมี่ได้ยิน นิ้วมือที่บีบโทรศัพท์ให้ขาวซีดขึ้นมาทันที
เขาจะต้องไม่ตายอย่างแน่นอน
แต่ว่ามันออกมาจากปากของเด็ก ได้ยินทุกคำเลยทำให้บาดลึกเธอ
เส้นหมี่กลั้นความเศร้าโศกและความกังวลที่อยู่ข้างในใจลึกๆ แล้วพูดปลอบลูกสาวว่า “ไม่หรอก แดดดี๊จะไม่เป็นไร ลูกอยู่ที่นั่นอยู่กับเขาให้มากๆ ไม่นานเขาก็จะดีขึ้นเอง”
“จริงหรอคะ?”
เจ้าเด็กได้ยินหม่ามี๊พูดอย่างนี้ เธอก็เริ่มมีความเชื่อว่าแดดดี๊จะไม่เป็นไรแล้วจริงๆ
เธอพยักหน้าอย่างว่าง่ายในสาย “ตกลงค่ะ รินจังจะอยู่เป็นเพื่อนแดดดี๊ หม่ามี๊งั้นรินจังจะวางสายแล้วนะ ไม่งั้นแดดดี๊จะตื่นเอาค่ะ”
เจ้าเด็กเห็นแดดดี๊เหมือนขยับไปมาอยู่บนเตียง เลยให้มีท่าทางทีกระวนกระวาย
แต่เส้นหมี่ได้ยินว่าเธอจะวางสาย กลับพูดอย่างรีบร้อนขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อนลูก ลูกเอากล้องส่องไป…..ทางแดดดี๊หน่อย ให้หม่ามี๊เห็นเขาหน่อยสิ”
เธอหน้าแดงไปยันหู รู้สึกอายที่พูดข้อเสนอนี้กับลูกสาวต่อหน้าผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องคนไข้
สายตาของคณาธิปดำขลับลง
แต่ทางก้อนแป้งน้อยนั้นกลับเอากล้องส่องไปทางแดดดี๊ที่นอนอยู่บนเตียง
นั่นเป็นผู้ชายที่ผอมลงไปมากจริงๆ
ทั้งๆที่ตอนที่เธอจากไปก็ได้ป้อนเขาให้จนดูอ้วนขึ้นมาหน่อยแล้ว แต่ว่าเพิ่งจะกี่วันเอง เขานอนอยู่ตรงนั้น เส้นหมี่ก็ให้รู้สึกว่าเขาผอมลงไปเยอะมากอย่างชัดเจน
สภาพทั่วทั้งร่างก็ไร้เรี่ยวแรงลงไปไม่น้อย
นี่น่าจะเป็นความทรมานของพิษที่อยู่ในร่างกายของเขาสินะ
เส้นหมี่ตาดวงตาแดงกล่ำ
“เอาละ พอแล้วละลูก ลูกวางสายเถอะ อยู่ที่นั่นต้องเชื่อฟังแดดดี๊และป้านะ เข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจค่ะ งั้นหม่ามี๊ก็ต้องรีบมานะคะ”
เจ้าเด็กก็ยังพูดข้อเสนอของตัวเอง
เส้นหมี่ได้ยินดังนั้น เลยส่งเสียงจุ๊บๆเป็นการตอบรับไป
เธอต้องรีบไปแล้วจริงๆ ไม่งั้นเธอคงไม่เริ่มการผ่าตัดครั้งที่สองทั้งๆที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการผ่าตัดครั้งที่หนึ่งหรอก
เส้นหมี่วางโทรศัพท์ลง
คณาธิปที่อยู่ข้างๆเห็น เลยเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้นหรอ? สภาพเขา…..ไม่ดีเลยหรอ?”
เส้นหมี่ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่แน่ชัดเหมือนกัน แต่ก่อนหน้านี้แสงดาวเคยบอกกับฉันว่าพิษนั้นเป็นสิ่งที่ออกมาใหม่ เลิกยากกว่ายาเสพติดทั่วไป”
ยาเสพติดชนิดใหม่หรอ?
คณาธิปได้ยิน ระหว่างนั้นความคิดเขาก็กลับไปตอนนั้นที่อยู่เจแปน
นั่นสิ ตอนนั้นแม่ของเขาคนนั้นก็ทำสารนี้ไม่ใช่หรอ?
——
พลบค่ำที่เดอะวิวซี
ขณะที่แสนรักตื่นขึ้นมา แสงที่อยู่ด้านนอกก็ไม่ได้แรงขนาดนั้นแล้ว ทางขอบฟ้ามีเส้นสีแดงบอกถึงเวลาพลบค่ำปกคลุมเข้ามา พอเขาลืมตาก็เห็นแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าส่องเข้ามาที่ประตูหน้าต่าง ทั่วทั้งห้องให้เป็นสีแดงระเรื่อ
เขานอนนานอย่างนี้เลยหรอ
เขาขมวดคิ้ว หลังจากนั้นเลิกผ้าห่มออก
“ตุ้บ….”
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าของอะไรที่วางไว้ข้างเขา พอเขาลุกขึ้นก็ตกลงมาที่พื้น
เขาก้มลงมองถึงเห็นว่าเป็นโทรศัพท์ของตัวเอง
ของนี้วิ่งมาอยู่บนเตียงเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เขาเลยทำได้แต่ก้มตัวลงไปเก็บมันขึ้นมา