ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 827 เป็นฝีมือของตระกูลเทวเทพอีกแล้วเหรอ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 827 เป็นฝีมือของตระกูลเทวเทพอีกแล้วเหรอ?
“คนกลุ่มนั้นของตระกูลเทวเทพใช่ไหม?”
“อะไรนะ?”
“ผมจะฆ่าพวกมัน!”
เขาทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้ แล้วหันหลังเดินออกไป
ในที่สุดเส้นหมี่ตั้งสติได้ ทันใดนั้น เธอไม่ได้สนใจว่าลูกยังอยู่ข้างๆ รีบพุ่งออกไปและจับคว้าเขาไว้แน่น : “ดลธี คุณจะทำอะไร? คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“คุณปล่อยผม ผมจะฆ่าพวกมัน! ผมจะต้องเอาพวกเดรัจฉานเหล่านั้นมาสับให้เละเป็นโจ๊ก!!”
เขาคำรามด้วยความโมโห ตามร่างกายเต็มไปด้วยแรงอาฆาต ดวงตาทั้งสองข้างต่างก็แดงก่ำเป็นสีเลือด
เส้นหมี่จะปล่อยเขาไปได้อย่างไร?
ตอนนี้กาวินเสียชีวิตไปแล้ว ถ้าหากเขาเป็นอะไรไปอีก งั้นข้างกายของแสนรักก็จะไม่เหลือใครอีก
เส้นหมี่ใช้แรงจับเขาไว้ : “ไม่ได้ ดลธี คุณไปไม่ได้ ตอนนี้กาวินเสียชีวิตไปแล้ว คุณคิดจะทิ้งให้ท่านประธานของคุณต่อไปเหลืออยู่ตัวคนเดียวใช่ไหม?”
ดลธี : “…..”
เส้นหมี่พูดต่อ : “ฉันรู้ว่าคุณโกรธ และเสียใจมากด้วย พวกเราเองก็ไม่ต่างจากคุณเลย แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะวู่วาม พวกเราจำเป็นต้องวางแผนให้ละเอียดรอบคอบ ถึงจะแก้แค้นให้กับกาวินได้ และแสนรักเอง ตอนนี้เขาก็ต้องการคุณ!”
ประโยคสุดท้าย เพราะว่าความโศกเศร้าเสียใจและความรีบร้อนภายในใจ แม้แต่เสียงของเธอก็มีสำลักเล็กน้อย
ในที่สุดดลธีก็หยุดลง
เขาจ้องมองไปยังเบื้องหน้า คนทั้งคนสั่นระรัวราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่นปลิวในสายลมของฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาคู่นั้นก็เต็มไปด้วยสีแดงก่ำ ความเจ็บปวดเคลื่อนไหวไปมาในนั้นอยู่ตลอด
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ขัดขืนอีก
หลังจากนั้นอีกสองชั่วโมง เมื่อศพของกาวินถูกส่งออกไป ดลธีที่รออยู่ด้านนอก ก็แบกเขาไว้บนหลังของเขาแล้วไปจากที่นี่
และแสงดาวที่ขับรถMPV สีดำคันหนึ่งมาแต่เช้า หลังจากที่ดลธีออกมาแล้ว เธอก็เปิดประตูรถ จากนั้น ทั้งสองคนก็พาร่างไร้วิญญาณของหนุ่มน้อยคนนี้ออกไป
เส้นหมี่ส่งพวกเขาจนลับสายตา เป็นเวลานานมากกว่าที่เธอจะหันหลังกลับไปเดอะวิวซี
“ท่านจอมพล เรื่องของกาวินคราวนี้ คุณชายเล็กจะมาโทษลงที่ท่านอีกหรือเปล่าครับ?”
เมื่อตอนที่เพิ่งจะเข้ามาและกำลังเดินผ่านสวนดอกไม้ ก็ได้ยินกัปตันหน่วยเอสเอสคนนั้นกำลังคุยเรื่องนี้อยู่กับไชยันต์
เธอได้ยินแล้ว ก็หยุดเดินลงและเอียงศีรษะไปดู
“เขาจะโทษก็โทษ เรื่องไร้สาระ สิ่งที่เขาทำก็ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว!” ไชยันต์ตอบอย่างเอือมระอา น้ำเสียงนั้นฟังดูคลุมเครือเหมือนกับว่าเขารู้สึกเหนื่อยกับการรับมือกับเรื่องนี้
เหนื่อยที่จะรับมือ?
สายตาของเส้นหมี่เย็นชาลงไป
แต่ไม่นานนัก กัปตันคนนี้ก็เอ่ยปากพูดขึ้นอีก : “ได้อย่างไรกันครับ? ถ้าหากไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเทวเทพ ท่านยอมรับได้อย่างแน่นอน กาวินคนนี้ เห็นชัดๆว่ามีคนต้องการรู้เรื่องคุณชายเล็ก เลยทรมานทารุณเขาหนักขนาดนี้ และในตระกูลเทวเทพจะมีใครที่กล้าทำแบบนี้?”
“ท่านจอมพล กาวินคนนี้มีความลับที่ใหญ่ที่สุดแอบซ่อนอยู่ในตัวเขา คงจะเป็นเรื่องที่หลบซ่อนตัวของเด็กๆทั้งสามคน ท่านคิดว่าในตระกูลเทวเทพยังมีใครที่อยากได้ความลับนี้อีกไหมครับ? เขาคิดจะทำอะไร? ใช้เด็กทั้งสามคนนี้มาขู่บังคับเพื่อแลกกับตำแหน่งทายาทผู้สืบทอดของตระกูลเทวเทพงั้นเหรอ? หรือว่าลงมือจัดการกับเด็กทั้งสามคนนี้? ท่านจอมพล มันก็เป็นไปไม่ได้นะครับ แม้ว่าเด็กทั้งสามคนเป็นอะไรไป คุณชายเล็กยังหนุ่มยังมีโอกาสมีลูกได้อีก และทายาทผู้สืบตระกูลเทวเทพคนนี้ ฟังดูแล้วก็ยิ่งเหมือนกับเรื่องตลก เขาจะทำยังไง และเป็นไปได้ที่จะบรรลุเป้าหมายงั้นเหรอ?”
ตอนที่กัปตันหน่วยเอสเอสคนนี้พูดถึงประโยคสุดท้ายเต็มไปด้วยกลิ่นความเยาะเย้ยอันรุนแรง
เส้นหมี่ได้ยินแล้ว ทันใดนั้น หลังจากที่สมองของเธอเหมือนโดนสิ่งของอะไรหนักๆบางอย่างทุบ ทั้งสมองก็สับสนวุ่นวาย
เธอไม่เคยคิดแบบนี้เลย
เพราะว่า ตอนที่อยู่ในห้อง ตอนกาวินขีดเขียนให้กับแสนรักก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เธอดูแล้วไม่เข้าใจ
ฉะนั้น อันที่จริงหลังจากที่กาวินเสียชีวิตแล้ว ในใจของเธอก็เข้าใจมาตลอดว่าตอนนั้นเป็นคนของวุฒิพลทางนั้นที่จับตัวเขาไว้ เขาตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาแล้ว พวกเขาจึงได้ทำการทรมานทารุณอย่างไร้มนุษยธรรมกันขนาดนี้ เพื่อที่จะแก้แค้นแสนรัก
จนกระทั่งตอนนี้ จู่ ๆ เธอได้ยินสิ่งที่กัปตันคนนี้วิเคราะห์ออกมา
เขาหมายความว่าอะไรกันแน่?
หรือว่า เขาจะพูดว่า คนที่คิดจะขุดความลับออกมาจากปากกาวิน เกรงว่าจะไม่ใช่คนที่จะจัดการกับแสนรัก แต่….แม้แต่ไชยันต์เองก็ต้องการจะจัดการด้วย?!!
เส้นหมี่ตกใจมาก หลายวินาทีมากที่เธอยืนอยู่ตรงนั้นโดยที่ความคิดพื้นฐานในสมองก็ได้หายไปหมดเลย
วังวนนี้ ทำไมยิ่งนานวันยิ่งน่ากลัว?
——
สองวันถัดมา ณ เดอะวิวซี
เมื่อเส้นหมี่ได้รับรูปถ่ายป้ายหลุมศพรูปหนึ่งที่แสงดาวส่งมาให้ เธอก็กลับขึ้นไปชั้นสามอีกครั้ง
“คุณแสนรัก ฉันเข้าไปได้ไหมคะ? เมื่อสักครู่คุณแสงดาวส่งรูปถ่ายรูปหนึ่งมาให้ฉันค่ะ ฉันอยากจะเอาไปให้คุณดูค่ะ”
เธอเคาะประตูบานนั้นที่ปิดเงียบสนิทมาแล้วสองวันเต็มๆ และถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
แต่ยังคงไม่มีเสียงใดๆ ในห้องนอนนี้ก็ไม่ต่างจากช่วงสองวันนี้ ไม่ว่าเธอจะเคาะเรียกยังไง ข้างในก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
เฮ้อ…..
เห็นแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือกทำได้เพียงแค่ส่งรูปภาพนี้ไปให้เขาผ่านทางวีแชท
เมื่อลงมาจากชั้นสาม เธอบังเอิญเจอไชยันต์ที่กำลังขึ้นมาพอดี
“คุณท่าน…..”
“เขายังไม่เปิดประตูเหรอ?” สองวันมานี้อารมณ์ของไชยันต์เองก็ไม่ค่อยดีนัก หลังจากที่เห็นเธอลงใบหน้าอึมครึมเหี่ยวย่นนั้นก็ถามขึ้นมาทันที
เส้นหมี่ก็ได้เพียงแค่ส่ายหน้า
ไชยันต์เห็นแล้ว เส้นเอ็นบนหน้าผากก็กระตุกขึ้นมาอย่างจังสองสามครั้ง เหมือนกับว่าความอดทนถึงขีดสุดแล้ว เขาจึงพุ่งและถีบไปยังประตู
แต่ในเวลานี้ จู่ ๆ โทรศัพท์ของเส้นหมี่ก็ดังขึ้น
【แสนรัก : ไปหาแสงดาว ให้เธอบอกที่ซ่อนตัวของลูกทั้งสามคนออกมา รับพวกเขากลับมาที่เดอะวิวซี】
【……】