ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 839 หมดหวัง
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาอยู่ดีๆถึงได้เกิดอาการชักขึ้นมา ตอนออกไปไม่ใช่ว่ายังดีๆอยู่ไม่ใช่เหรอ”
เมื่อเขากลับมา มองเห็นเด็กๆทั้งสามนอนเรียงกันอยู่อย่างนั้น ทันใด ทั้งตกใจทั้งโมโหในทุกๆวินาทีเหมือนกับว่าจะชักปืนออกมาฆ่าคน!
ขวัญเมืองนั้นตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น
“คุณปู่ไชยันต์ ขอโทษจริงๆค่ะ ต่างเป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรที่จะพาพวกเขาไปทานขนมหวาน เป็นไปได้ว่าขนมหวานเหล่านั้นมีฤทธิ์เย็น ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาไม่สามารถรับของฤทธิ์เย็นได้ ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ”
เธอร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด เพื่อจะแสดงออกมาว่าตัวเองนั้นรู้สึกผิดจริงๆ พูดไปพูดมา ยังก้มกราบคารวะไชยันต์ด้วย
ไชยันต์:“……”
ยังไม่ทันได้เปิดปาก ด้านหน้าเตียงเด็ก เส้นหมี่ที่กำลังก้มรักษาพวกเด็กๆอยู่ ก็ยืนขึ้นมาแล้ว
“ไม่ใช่เป็นเพราะว่าธาตุในร่างกายเย็นหรอกค่ะ คุณท่าน ฉันคิดว่าคุณไปจับตัวเจ้าของร้านขนมหวานคนนั้นได้แล้ว เด็กๆถูกวางยาพิษแล้วค่ะ”
“วางยาพิษ?”
คำพูดนี้พูดออกมา ทันใดคนทั้งชั้นนี้ก็สุดหายใจเข้าลึกๆ
แต่ไชยันต์นั้น ยิ่งถูกบดบังไปด้วยเมฆดำอันหนาทึบเหมือนกับว่าเป็นปีศาจ!
“คุณพูดให้ชัดเจน วางยาพิษอะไร”
“สิ่งที่พวกเขาทานเข้าไปนี้ คือใช้แป้งมันสำปะหลังกับต้นหนามทำขึ้นมา สองอย่างนี้เอารวมเข้าด้วยกันไม่ได้เป็นอะไร แต่หลังจากนั้นเขาได้เติมลิ้นจี่ลงไป ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อนเป็นอย่างมาก เติมเข้าไปในต้นหนามที่เดิมทีมีสรรพคุณเฉพาะตัวแล้วรวมเข้าด้วยกัน จึงทำให้เด็กๆเกิดอาการร้อนในอย่างกะทันหัน แล้วทำให้เกิดอาการชัก นี่คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาป่วยขึ้นมา”
เส้นหมี่ยืนอยู่ที่นั่น ค่อยๆอธิบายออกมาทีละน้อย
แล้วก็เพื่อที่จะให้ชายชราคนนี้เชื่อ เธอยังตั้งใจนำวัตถุดิบจากร้านขนมหวาน ที่เอากลับมาด้วยหยิบออกมา
ไชยันต์ได้เห็นแล้ว ก็หรี่ตาลง ทันใดนั้น อบอวลไปด้วยแรงอาฆาต ที่พวยพุ่งออกมาจากด้านใน!
ขวัญเมืองอ่อนยวบลงแล้ว……
วางยาพิษ?
ไม่ ไม่ใช่แบบนี้ คุณป้าของเธอไม่ได้บอกเธอ ว่าจะวางยาพิษ
เธอเพียงแค่ให้เธอพาพวกเด็กๆไปที่ซอยสายนั้น ให้พวกเขารับสิ่งที่ไม่ดีเข้ามา ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปเป็นวางยาพิษเสียแล้ว?
ขวัญเมืองตกใจจนสติหลุดไปแล้ว:“ไม่ ไม่ใช่แบบนี้ คุณปู่ไชยันต์ ฉัน……ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ……”
“รู้หรือไม่รู้ ตรวจสอบดูสักหน่อยก็รู้แล้ว ใช่แล้ว คุณท่านคะ ถ้าเจ้าของร้านขนมหวานร้านนี้ไม่ยอมรับล่ะก็ คุณสามารถตรวจสอบวิธีการทำของเมื่อก่อนดูได้ คุณขวัญบอกว่า นี่เป็นเมนูแนะนำของร้านนี้ไม่ใช่เหรอ”
“คุณ——”
คำพูดนี้โหดเหี้ยมมาก หญิงสาวคนนี้อ่อนยวบ ลงกับที่ เลือดที่มีอยู่บนใบหน้าทั้งหมดได้เหือดหายไปแล้ว เธอไม่สามารถตอบกลับอะไรออกมาได้อีกสักคำ
ถ้าเป็นเมนูแนะนำ งั้นเมื่อก่อนก็ต้องเคยทำมาก่อน
แต่ว่า เด็กๆในก่อนหน้านี้ ก็ต่างไม่ได้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ไม่งั้น ธุรกิจของร้านนี้ก็คงไม่ดีขนาดนี้
งั้นครั้งนี้ทำไมเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?
ผลลัพธ์มีอยู่อย่างเดียว งั้นไม่ก็เธอขวัญเมืองหรือเจ้าของร้านขนมหวาน มีคนใดคนหนึ่งที่พูดโกหก
ไชยันต์รีบสั่งให้คนไปจัดการอย่างกับลมพายุที่พัดมา
ปรากฏว่า หลังจากนั้นสิบนาที บอดี้การ์ดที่ถึงทางด้านโน้นแล้วก็ส่งข่าวมา บอกว่าได้ปิดร้านไปแล้ว อีกทั้งเชฟขนมหวานคนนั้น ถูกค้นพบว่าได้ฆ่าตัวตายไปแล้ว
ฆ่าตัวตาย?
ขวัญเมืองเบื้องหน้ามืดบอดไปทันที……
เส้นหมี่มองดูสถานการณ์อยู่อย่างเย็นชา จนหญิงสาวคนนี้ถูกลากตัวออกไปแล้ว เธออยู่ในห้องของเด็กๆต่อ แล้วก็เทผงอะไรบางอย่างละลายลงไปในกะละมังน้ำร้อน
หลังจากนั้น เธอบิดผ้าขนหนูแล้วเช็ดตัวให้เด็กๆทั้งสามคน ทันใด พวกเขาก็ลืมตาขึ้นมา ฟื้นคืนกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ เป็นยังไงบ้าง ผู้หญิงคนนี้แสดงความจริงออกมาหรือยัง”
“ใช่แล้ว หม่ามี๊ หนูเห็นเหมือนกับว่าเธอกำลังจนมุมแล้ว”
“……”
รู้จักคำว่าจนมุมด้วย
เส้นหมี่อุ้มลูกสาวขึ้นมา โอบกอดเอาไว้ในอ้อมกอด:“จนมุมแล้ว คุณรอดูเถอะ ไม่นานคนที่อยู่เบื้องหลังเธอก็จะออกมาแล้ว”
อิคคิวได้ยินแล้ว ทันใดดวงตาโค้งๆของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมา!
“หม่ามี๊ ที่แท้คุณรู้ว่าเบื้องหลังของเธอยังมีคนอื่นอีก”
“ไร้สาระ คุณคิดว่าหม่ามี๊โง่จริงๆหรือยังไง”
“เฮอ……”
มองดูหม่ามี๊ที่รำคาญจนโมโหออกมา เด็กน้อยทั้งสามก็ไม่กล้ายิ้มออกมาแล้ว
เส้นหมี่รู้ว่าเบื้องหลังของขวัญเมืองมีคนอื่นอีก เพราะว่าหลังจากที่เธอกลับมา ก็รีบติดต่อกับแสนรักทันที อีกทั้งในตอนแรกยังไม่ยอมเอาเรื่องราวเหล่านี้บอกกับแสนรัก หลังจากได้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น
ในที่สุด เธอเอาเรื่องของเธอที่เดอะวิวซี ที่ผู้หญิงที่ชื่อขวัญเมืองคนนี้ทำกับเธอทุกอย่างพูดออกมา
ดังนั้น หลังจากพูดคุยกันจบแล้ว เส้นหมี่จึงแน่ใจได้แล้ว ว่าฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังผู้หญิงคนนี้ ก็คือป้าของเธอมินตรา
ปรากฏว่า วันต่อมา มินตราก็ถูกคนของไชยันต์พาตัวออกไปจากเรด พาวิเลี่ยนแล้ว ไชกุเองก็ขวางเอาไว้ไม่อยู่ อีกทั้งพอดี ในช่วงเช้าของวันนี้ ม็อกโกกับแสนรักก็กลับมาด้วยกันแล้ว
“คุณพูดว่าอะไรนะ เธอให้คนวางยาพิษเด็กๆ จะเป็นไปได้อย่างไร”
พึ่งกลับมาถึง เขาได้ฟังเรื่องนี้ ก็แสดงท่าทางออกมาว่าไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
ไชยันต์ได้ยินแล้ว โมโหอย่างหยุดไม่อยู่:“จะเป็นไปไม่ได้ได้อย่างไร เดิมทีแม่ของคุณก็เป็นคนแบบนี้ เธอทำเพื่อให้คุณยังคงครอบครองตำแหน่งนี้เอาไว้ เธอทำเรื่องแบบนี้ก็ไม่น้อยเลยนะ”
เขาตะโกนประโยคนี้ออกมา ต่อหน้าทุกคน
สีหน้าของม็อกโกก็ซีดขาวขึ้นมาทันทีไม่เหลือแม้สีเลือด
ด้วยความรวดเร็ว แม้แต่แสนรักอยากจะหยุดยั้งเอาไว้ก็ไม่ทันแล้ว
“ม็อกโก……”
“ครับ ผมรู้แล้ว ที่แท้ในสายตาของคุณ แม่ของผม แล้วก็ผม เป็นคนแบบนี้มาโดยตลอด แต่ไหนแต่ไรมาพวกเราไม่มีความเก่งกาจสามารถ ไม่เคยเข้าไปอยู่ในสายตาของไชยันต์คนนี้ ผมเข้าใจแล้ว”
มุมปากของเขากระตุกยิ้มออกมาอย่างน่าเวทนา
หลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรก ที่เห็นสีหน้าของเขาเป็นแบบนี้ ปกติแล้วแววตาของเขาทั้งสองจะประกายไปด้วยความหน้าใหญ่ใจกว้าง ครั้งนี้ถูกเยาะเย้ยและเย้ยหยัน ตอนนี้ ก็ไม่เห็นแล้ว
ที่มีอยู่ มีเพียงความโศกเศร้าที่แสนสาหัสเหมือนกับหมึกสีดำ ที่เสียดแทงเข้ามาอย่างผิดหวังจนขีดสุด
สีหน้าของแสนรักเปลี่ยนไปแล้ว ยื่นมือออกไปจับที่ไหล่ของเขา
แต่ว่า วินาทีที่เขาแตะลงที่ตัวเขา เขาหลบออกเหมือนกับว่าหลบเชื้อโรคติดต่อ
หลังจากนั้น เขาก็หันหลังเดินออกไปแล้ว……