ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 854 หัวแก้วหัวแหวน
“ใช่เหรอ? งั้นน้องสาวของผมวิ่งออกมาได้ยังไง?”
คิวคิวไม่เกรงใจอีกต่อไป และพาน้องสาวลงมาจากในรถ
ยามเห็นเข้า สีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก คิดอยากจะเถียง แต่เวลานี้ รปภ.ของตระกูลเทวเทพที่ลงมาจากรถก็ได้ลงมือเรียบร้อยแล้ว หิ้วคอเสื้อของเขาแล้วจับโยนไปอีกทางหนึ่ง
“เดี๋ยวจะกลับมาคิดบัญชีกับนาย!”
“……”
พาคนเหล่านี้มาคือมีประโยชน์จริงๆ ด้วย
เด็กน้อยสามคนนี้เข้ามาภายใต้การคุ้มกันของรปภ.เหล่านี้ ยังไม่ทันที่จะไปถึงห้องเรียนของหนูรินจัง พวกนักเรียนที่กำลังเล่นกันอยู่ในสนาม หลังจากที่เห็นหนูรินจังแล้ว ก็หัวเราะเยาะขึ้นมาอีก
“คนโง่ พวกเธอดูสิ คนโง่นั่นกลับมาอีกแล้ว”
“ใช่ ยังคิดว่าเธอวิ่งไปแล้วจะไม่กลับมาอีก ที่แท้ เธอก็ยังต้องยอมไสหัวกลับมา”
“ฮ่าๆๆๆๆ……”
เสียงหัวเราะเยาะอันแหลมคมลอยเข้ามา หนูรินจังได้ยินแล้ว หน้าเล็กๆ กลมก็ซีดขาว รีบกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดพี่ชายทันที
ชินจังโกรธจนหน้าดำหน้าเขียว
แต่ ตอนที่เขาคิดจะโจมตี คิวคิวที่อยู่ด้านข้างก็ได้ก้าวเท้าน้อยๆ ค่อยๆ เดินออกไปแล้ว
“พวกแกพูดว่าใครเป็นคนโง่เหรอ?”
หลังจากที่เดินมาถึงตรงหน้านักเรียนสองสามคนนั้น บนใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มอยู่ ดูเหมือนท่าทีเฉยๆ สบายๆ แต่ทุกคำที่ย้อนถามกลับแฝงไปด้วยเจตนาสังหาร
อันที่จริงเด็กๆ เหล่านั้นก็เป็นเด็กรุ่นพี่มอปลายแล้ว
ตอนแรกที่พวกเขาได้ยินน้ำเสียงที่น่ากลัวนี้ ก็มีสะดุ้งเล็กน้อย
แต่ไม่นาน เมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่า คนที่ถามพวกเขานี้รูปร่างไม่สูง ดูแล้วก็เป็นแค่เด็กชั้นมอหนึ่ง พวกเขาก็หยิ่งผยองขึ้นมาอีกครั้ง
“ก็หมายถึงเธอน่ะสิ จะทำไม?”
“แกเข้ามานี่”
คิวคิวกระดิกนิ้วชี้เรียก
เด็กสองสามคนนั้นก็เดินเอ้อระเหยเข้ามาจริงๆ : “ฉันเข้ามาแล้ว แกจะทำ……..”
ยังไม่ทันจะพูดจบหนึ่งประโยค คิวคิวที่ยืนตรงหน้าก็เตะท่าจระเข้ฟาดหางสาดเข้าให้ เขารวดเร็วและว่องไวมาก คนทั้งคนดูเหมือนกับแมวที่ลุกกระโดดขึ้นมาจากบนพื้น และกวาดขาฟาดไปที่ขาของพวกนั้นอย่างจัง
“ตึง–”
คนเหล่านี้ต่างพากันล้มหงายลงบนพื้น เขาก็รุดไปข้างหน้าอีกครั้ง และแกว่งหมัดกำปั้นน้อยๆ ต่อยลงไปอย่างไม่ทารุณ
แม่งเอ๊ย!
ชั่วครู่ เมื่อเสียงกรีดร้องโหยหวนของพวกเด็กเหล่านั้นดังไปทั่วบริเวณ ไม่เพียงแต่นักเรียนที่ยืมดูอยู่รอบๆ เท่านั้นที่ตกตะลึง
แม้แต่รปภ.ของตระกูลเทวเทพสองสามคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็ยืนมองดูอยู่ด้วยความตกใจจนอ้าปากค้างอีกครั้ง!
เด็กดี ท่านบรรพบุรุษตัวน้อยสองท่านนี้ พวกเขาเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งจริงเหรอ? ทักษะฝีมือแบบนี้ นั่นคือสุดยอดมากจริงๆ พูดออกไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอก
หลังจากที่ยืนมองดูอย่างตกตะลึงอ้าปากค้างกันอยู่สี่ห้านาทีเต็มๆ คิวคิวเองก็ชกต่อยอยู่ตรงนั้นสี่ถึงห้านาทีเช่นกัน
จนกระทั่ง พวกเด็กเหล่านั้นไม่สามารถแม้แต่จะตะโกนออกมาได้แล้ว และคุณครูก็ได้ยินข่าวและรีบเข้ามา รปภ.เหล่านี้จึงรีบเข้าไปเพื่อให้บรรพบุรุษน้อยท่านนี้หยุดลงมือ
“พอแล้วครับ คุณหนูอิคคิว รีบหยุดเถอะ คุณต่อยต่อไป เดี๋ยวต่อยจนเขาตายได้นะครับ”
“ต่อยจนตายก็สมน้ำหน้า บังอาจมารังแกน้องสาวฉัน ฉันจะฆ่ามันให้ตาย!”
คิวคิวที่ถูกจับแยกออกมายังคงไม่หายโกรธ เดินออกไปแล้วก็ยังใช้แรงกระทืบเท้าลงไป
เส้นเอ็นของพวกรปภ. ต่างพากันชักกระตุก!
หลังจากที่พวกคุณครูเหล่านั้นมาเห็นเหตุการณ์ฉากนี้ ก็ทั้งตกใจทั้งโกรธจนเป็นลมล้มพับไป
“พวกคุณเป็นใครกัน? ทำไมมาทำร้ายคนในโรงเรียน?” พวกเขาตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สายตาคู่นั้นเหมือนกับว่าจะกลืนกินคิวคิวเข้าไปทั้งตัว
ชินจังจ้องมองพวกเขาอย่างเย็นชา จูงมือของน้องสาวแล้วค่อยๆ เดินออกมา
“รินจัง น้องบอกมา ครูคนไหนที่ถามคำถามปัญญาอ่อนนั้นกับน้อง?” เขาเมินคุณครูกลุ่มนี้ หันหน้ามามองน้องสาวและถามอย่างอ่อนโยน
“……”
หนูรินจังยังคงหลบอยู่ด้านข้างพี่ชาย ดวงตากลมโตใสปิ๊งคู่นั้น ก็เลยมองไปทางกลุ่มคุณครู
ครูที่ใจร้ายคนนั้น
เธอมองหาอย่างละเอียด ในที่สุดก็เจอแล้ว ทันใดนั้น มือกลมๆ น้อยๆ ก็ชี้ไปยังเธอคนนั้น : “คือเธอคนนั้น เธอบอกว่าหลังจากที่แบ่งลูกเป็ดให้เด็กสองสามคนแล้ว ลูกเป็นที่เหลือต่างก็หนีไปหมดแล้ว”
เธอฟ้องด้วยความโมโห เพราะเมื่อนึกถึงความเสียใจในตอนนั้น หน้าอกน้อยๆ ก็เริ่มเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้ง
สายตาแสนเย็นชาของชินจังก็เพ่งมองไปหาครูคนนั้น
คุณครู : “…….”
ในที่สุดเธอก็จำเด็กผู้หญิงคนนี้ได้
ทันใดนั้น หัวใจของเธอก็รู้สึกตื่นกลัว ก้นบึ้งของหัวใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา
“ที่แท้คือเธอนี่เอง รินจัง ครูก็แค่แก้ไขในข้อผิดพลาดของเธอ แต่ตอนนี้เธอกล้าพาผู้ช่วยมาก่อเรื่องที่โรงเรียน เธอทำเกินไปหรือเปล่า? ผู้ปกครองเธอล่ะ? เรียกผู้ปกครองของเธอมา ฉันต้องการจะคุยกับเขา!”
คุณครูคนนี้ยังคงไม่ยอมรับในข้อผิดพลาดของตัวเอง ยังที่จะโยนความผิดไปให้คนอื่นเขาทันทีที่เอ่ยปาก
ชินจังหัวเราะเยาะ แล้วพูดว่า : “ผมก็คือผู้ปกครองของเธอ คุณต้องการจะพูดอะไร?”
“เธอ?”
“ใช่ ผมเป็นพี่ชายของเธอ ยังมีคนที่กระทืบพวกเขาก็คือพี่ชายรองของเธอ ด้านหลังที่ติดตามมา ก็คือรปภ.ของครอบครัวพวกเรา คนเหล่านี้เพียงพอหรือยัง?”
ยากที่จะจินตนาการได้ว่า เวลาผ่านไปหนึ่งปีเด็กคนนี้จะพูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำได้ขนาดนี้
ประโยคคำพูดที่คมชัดและทั้งเสียงดังฟังชัด ยังมีความทรงพลังในการเว้นวรรคคำแต่ละช่วงที่พูดออกมา ช่างเหมือนกับแด๊ดดี้แสนรักของเขาเสียจริงๆ อายุเพียงแค่หกขวบ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างพากันตกใจ
คุณครูได้ยินแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที
รปภ.?
ที่บ้านของเจ้าเด็กพวกนี้ยังมีรปภ.ด้วย?!!
ความเย่อหยิ่งของทุกคนต่างลดต่ำลงไปเกินครึ่ง เพราะว่ารปภ. เหล่านี้ ใช่ว่าครอบครัวธรรมดาทั่วไปจะมีได้
“พอ….พอแล้ว ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันก็แค่อยาก……”
“อยากอะไร? อยากจะบีบบังคับวิธีการสอนแบบนั้นของคุณให้กับทุกๆ คน? หรือว่าอยากจะบอกกับนักเรียนของคุณว่า สิ่งที่คุณสอนมานั้นล้วนแต่ถูกต้องแล้ว?”
ชินจังพูดเยาะเย้ยอีกหนึ่งประโยคอย่างไม่ไว้หน้า!