ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 873 ฉันขอจูบคุณสักครั้งได้หรือเปล่า
เมื่อสิ้นเสียง เสียงโครมก็ดังขึ้น ตาแก่คนนี้ปัดสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะที่กว่าจะจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยทิ้งอีกครั้ง
ไอ้เลวนี่!
หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ไวท์รอนไม่ใช่คนโง่ เมื่อได้รับตัวลูกชาย เพียงถามความเป็นมาของเรื่อง ก็จะต้องรู้แน่นอน
เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะส่งผลให้เกิดขึ้น ก็คือตระกูลเทวเทพและตระกูลไวท์ทั้งสองตระกูลจะต้องพังภาพลักษณ์ที่ดูญาติดีกันแน่ เริ่มเปิดศึกรุนแรงขึ้นอย่างโจ่งแจ้ง
ถ้าเป็นแบบนี้ ตระกูลเทวเทพคงไม่ได้สงบสุขอีกนานเป็นแน่
ไชยันต์โกรธจนหน้าดำไปหมด
แต่สิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากกว่าคือ ปาเวซถูกจับแล้ว แต่ไอ้มารผจญของพวกเขากลับยังไม่กลับมา เมื่อถามขึ้น กลับได้รับคำตอบว่าเขากลับไปที่ค่ายทหารอีกครั้งแล้ว จะทำตามที่ทางตระกูลจัดแจงไว้ให้ เข้าร่วมการฝึกฝน
ไชยันต์ “……”
ยังไม่ทันได้พูดอะไร ท้ายสุด เขาก็หงายหลังไป
“นายท่าน! นายท่าน!”
“คุณท่าน……”
ผ่านไปเป็นเวลานาน เดอะซีวิวก็วุ่นวายไปหมด
เส้นหมี่เองก็สับสน เพราะว่า เธอไม่คิดว่าสุดท้ายชายคนนี้จะทำแบบนี้
กลับไปยังค่ายทหาร?
แล้วเธอจะทำอย่างไร? ตอนนี้เขาจำเธอได้แล้ว แล้วไม่เคยคิดว่าจะเอาอย่างไรกับเธอหรือ?
แล้วยังมีลูกสาวของพวกเธอด้วย
เส้นหมี่ตามไปตลอดทาง จนกระทั่งถึงค่ายทหาร ในที่สุดเธอก็รั้งเขาไว้อย่างเหลืออด
“เดี๋ยว……เดี๋ยวก่อน ถ้าจะเข้าไป ก็ควรจะบอกกับฉันชัดเจนก่อนหรือเปล่า? คุณ……จะเอาอย่างไรกับฉัน? ฉันคงจะกลับไปที่เดอะซีวิวทั้งๆแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ?”
“เธอจะไปที่เดอะซีวิวทำไม?”
ในที่สุดเขาก็หยุดลง แล้วก็จ้องมือของเธอที่จับไหล่ของเขาไว้ ขมวดคิ้วไม่พอใจแล้วถามขึ้น
ดวงตาของเส้นหมี่กลมโตขึ้นทันที “เพราะงั้น ฉันต้องไปที่ไหน? คุณไม่คิดจะจัดการอะไรเรื่องของฉันเลยหรือ?”
สุดท้ายเธอก็ถามออกไป
นั่นสิ เมื่อก่อนพวกเขายังจำกันไม่ได้ เธอต้องคิดเองว่าจะไปที่ไหน เธอจัดการเอง
แต่ว่าตอนนี้ เขาจำเธอได้แล้ว ถ้างั้นก็ควรจะจัดแจงที่อยู่ให้เธอเรียบร้อยไม่ใช่หรือ? เธอเป็นภรรยาของเขาเลยนะ แล้วยังเป็นแม่ของลูกของเขาอีก มันก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้วไม่ใช่หรือ?
เส้นหมี่รอคอยคำตอบของเขา
แต่จู่ๆเธอก็เกิดรู้สึกไม่ดีขึ้น เธอเห็นเขานั่งอยู่ในรถ ใบหน้าเย็นชาแสดงความรำคาญออกมาเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
“ยังไม่ได้คิด ไชยันต์เคยพบเธอแล้วหรือยัง?”
“……”
“หลังจากฉันไปกระตุ้นตระกูลเทวเทพและตระกูลไวท์แล้ว ไม่ช้าคงสงครามคงเริ่มขึ้น มีผู้คนรอบข้างมากเกินไป ไม่เป็นผลดีกับฉัน ตอนนี้มีลูกสองคนแล้ว ถ้าหากที่นี่ยังไม่มีใครเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ ฉันแนะนำว่าให้เธออย่าเพิ่งเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง การทำแบบนี้ก็เป็นการปกป้องตัวเธอเองด้วย”
สุดท้ายเขาก็สงบลง จากนั้น ก็เริ่มอธิบายสิ่งที่ตัวเองคิด
เส้นหมี่ได้ยินดังนั้น ทันใดนั้น เธอก็ถูกน้ำเย็นๆราดลงมาบนหัว ความหวังและความดีใจที่เต็มเปี่ยมของเธอดับมอดไป รู้สึกหนาวเย็นไปทั้งร่าง
ทำไมเขาถึงใช้น้ำเสียงแบบนี้มาพูดเรื่องจัดแจงเธอด้วย?
พอฟังแล้ว เธอไม่เหมือนเป็นภรรยาของเขา กลับเหมือนพวกพ้องของเขามากกว่า หรือไม่ ก็เหมือนความสัมพันธ์แบบดลธีและกาวิน
เส้นหมี่เริ่มหน้าซีดลง
“……ฉันขอถามอะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหม?”
“พูดสิ”
“คุณรู้หรือเปล่า……ว่าฉันคือใคร?” ในที่สุดเส้นหมี่ก็ฝืนถามขึ้นจากใจ
เมื่อสิ้นเสียง คนคนนี้ก็หันหน้ามามองเธอทันที
นั่นมันสีหน้าอะไรกัน?
เส้นหมี่ไม่กล้าแม้แต่จะไปมองดีๆ สิ่งเดียวที่รู้สึกได้คือ ในขณะที่เขาจ้องมองเธอ เหมือนหยุดมองเป็นเวลานานถึงสี่ห้าวิเลย
“เธออยากพูดอะไร?”
“เปล่า ฉันแค่อยากแน่ใจ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใบหน้า แต่ตอนที่คุณพบฉัน ไม่ได้ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้น ฉันอยากจะรู้ คุณรู้ว่าฉันคือใครมานานแล้วใช่ไหม?”
เส้นหมี่ถามคำถามที่อยากถามมานานแล้ว เมื่อถามจบ ก็กำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัวอีกครั้ง
แสนรักละสายตาทิ้ง
เกี่ยวกับเรื่องใบหน้าของผู้หญิงคนนี้
ที่จริง เขารู้มานานแล้ว เขาไม่ได้โง่ ม็อกโกยังรู้สึกตัวได้ แล้วเธอกับเขาก็ใช้เวลาด้วยกันมากกว่า เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?
เพียงแต่ ในตอนนั้นเขาขี้เกียจจะไปเปิดเผย ผู้หญิงคนนี้ เดิมทีก็โง่อย่างกับหมู เวลานานไป ถ้าอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร มันก็เรื่องที่ทำได้ง่ายๆไม่ใช่หรือไง?
แสนรักปริปากนิ่งๆ “ไม่ได้ถึงกับนานแล้ว ก่อนที่ลูกจะมา ไม่รู้ว่าเป็นเธอ”
เส้นหมี่ “……”
เพราะฉะนั้น สุดท้ายแล้วก็เป็นลูก ที่ทำให้เธอถูกจับได้
เส้นหมี่จ้องชายคนนี้ ไม่รู้ว่าควรจะดีใจ หรือควรสลดใจดี
ดีใจ แน่นอนว่าเพราะเขารู้ว่าเป็นตัวเองก่อนหน้านี้แล้ว แต่สลดใจ คือในเมื่อเขารู้มาก่อนแล้วว่าเป็นเธอ แต่ในตอนที่ใช้เวลาด้วยกันตอนนั้น เธอกลับสัมผัสความรักจากเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แม้แต่ความสวยงามของความทรงจำก็ไม่มีเลย
เพราะฉะนั้น มันมีอะไรใช่ไหม?
เส้นหมี่หลับตาลง สูดลมหายใจลึกๆ แล้วมองไปยังชายคนนี้อีกครั้ง
“ถ้างั้นฉันขอจูบคุณสักครั้งได้ไหม?”
“อะไรนะ?”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนอย่างกะทันหันจริงๆด้วย ชั่วพริบตาที่สิ้นเสียงลง เขายังถอยหลังไปโดยอัตโนมัติอีกด้วย