ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 882 สมองของเธอพันธุ์กรรมของฉัน
เส้นหมี่มองดูแล้วอ้าปากตาค้าง เพราะว่า เธอพบว่าโจทย์พวกนี้แม้แต่เธอก็แก้ไม่ได้
แม่เจ้า นี่คือโจทย์ของประถมศึกษาชั้นปีที่ 1 จริงเหรอ? ใครโรคจิตขนาดนี้? ออกโจทย์ที่ผิดมนุษย์แบบนี้? นี่คือโจทย์จริงๆ เหรอ?
เส้นหมี่ตกอยู่ในความสงสัยอย่างลึกซึ้ง
แต่คุณครูหลังจากที่เห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ ความเยาะเย้ยบนใบหน้ากลับเพิ่มขึ้น: “คุณแม่รินจัง คุณอย่าบอกฉันว่าคุณก็ทำไม่เป็น”
เส้นหมี่: “…”
เธอรีบส่ายหน้าแทบจะทันที: “ไม่ ไม่ใช่ค่ะ ฉันทำเป็นอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่รู้สึกประหลาดใจ ประถมศึกษาชั้นปีที่ 1 ของที่นี่ เรียนโจทย์…ที่ยากขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
เธอทำไม่เป็น
แต่ว่า จะเสียหน้าผู้ใหญ่ไม่ได้!
คุณครูกลับหัวเราะเยาะขึ้นมาอีก: “นี่เรียกว่ายากแล้วเหรอคะ? ฉันบอกคุณให้ นี่คือโจทย์ที่ง่ายที่สุดของโรงเรียนเราค่ะ”
“…”
“คุณทำอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเธอแล้วกันค่ะ ถ้าหากวันนี้ทำแบบทดสอบใบนี้ไม่เสร็จ งั้นพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาแล้ว ฉันไม่สนว่าคุณสถานะอะไร โรงเรียนของพวกเราไม่มีทางรับนักเรียนที่ไม่มีความสามารถแบบนี้เข้ามา”
คุณครูคนนี้ทิ้งประโยคนี้ไว้ จากนั้นเธอก็เดินหน้าเขียวออกไป
เส้นหมี่ตะลึงตาค้าง
ทำทั้งหมดให้เสร็จ?
โจทย์แค่ข้อสองข้อนี้เธอก็จะบ้าแล้ว ยังต้องทำทั้งแผ่น นี่จะฆ่าเธอเลยไม่ใช่เหรอ?
เส้นหมี่ไม่เคยรู้สึกมึนงงขนาดนี้มาก่อน เธออยากจะเรียกลูกชายสองคนมาช่วยเหลือ แต่กลับถูกแจ้งว่า หลังจากที่คุณครูรู้ว่าพวกเขาเป็นแฝดสามกัน ก็ห้ามพวกเขาเข้ามาอย่างเด็ดขาด
งั้น…ทำยังไงดี?
เส้นหมี่มองดูกระดาษทดสอบใบนี้ที่ดูท่าคนอายุรุ่นเธอก็ไม่สามารถเข้าใจได้ เธอตกอยู่ภายใต้ความทุกข์
“หม่ามี๊ หนูไม่อยากออกจากที่นี่ หนูอยากอยู่ด้วยกันกับพวกพี่ชาย”
ช่วงเวลาสำคัญ สาวน้อยตัวการสำคัญยังอยู่ข้างเธอ ตาโตแดงก่ำน้ำตาคลอขอร้องอย่างน่าสงสาร
เส้นหมี่: “…”
เธอครุ่นคิดดู เมื่อไร้ซึ่งหนทาง ในที่สุดเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นหาเบอร์โทรศัพท์เบอหนึ่งกดโทรออกไป
“ตู๊ด…ตู๊ดตู๊ด…”
ในตอนที่กดโทรออก ในใจของเธอรู้สึกประหม่า
เพราะว่า เรื่องนี้น่าอับอายขายหน้ามากๆ
ยังมีอีกเรื่องคือสองวันนี้ หลังจากตั้งแต่ที่เขาไปกองทัพ ก็ไม่เคยเป็นฝ่ายติดต่อตัวเองมาก่อน เธอกลัวว่าเธอโทรไป เขาจะไม่รับสายด้วยซ้ำ
เส้นหมี่รอคอยอย่างเป็นกังวล
“ฮัลโหล?”
“พี่…สามีคะ ฉันเอง ตอนนี้คุณว่างไหมคะ? ฉันมีเรื่องนิดหน่อย”
ได้ยินเสียงนี้ เส้นหมี่ดีใจแทบบ้าจนเกือบจะเรียก “พี่ชาย” สองคำนี้ออกมา
แต่สุดท้าย เธอก็อดกลั้นไว้ได้
“เรื่องอะไร?”
เป็นอย่างที่คิด เสียงที่ตอบกลับมาอีกครั้ง ไม่ได้เป็นมิตรขนาดนั้น เขายังคงรักษาท่าทางเย็นชาเหมือนอย่างเคย คำพูดกระชับรัดกุมไม่มีคำพูดไร้สาระแม้แต่คำเดียว
เส้นหมี่มองข้ามไป
จากนั้นก็เล่าสถานการณ์ของลูกสาวในตอนนี้ให้เขาฟังคร่าวๆ
“สามีคะ ฉันไม่อยากให้ลูกสาวแยกกับพวกพี่ชาย แต่ว่าโจทย์นี้…ฉันคิดว่ามันผิดมนุษย์ไปหน่อยจริงๆ นะ”
“ในเมื่อเธอคิดว่ามันผิดมนุษย์ งั้นทำไมยังจะต้องไปแก้?”
คิดไม่ถึง ผู้ชายที่อยู่ในโทรศัพท์คนนี้ แค่อ้าปากก็ตอบกลับเธอประโยคแบบนี้
เส้นหมี่ตกตะลึง!
เขาหมายความว่า…เห็นด้วยกับความคิดของเธอ?เขาที่ไอคิวสูงขนาดนั้น กลับเห็นด้วยกับความคิดของเธอ?!!
เส้นหมี่สงสัยตัวเองว่าฟังผิดหรือเปล่า?
“สามี คุณ…ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาทางไอคิวของคน แต่เป็นปัญหาของ…โจทย์จริงๆ ใช่ไหม?”
“…”
ชายหนุ่มที่อยู่อีกฝ่ายที่กำลังจับปืนฝึกซ้อมการยิงเป้าอยู่มือสั่น กระสุนที่ยิงออกไปเกือบจะพลาดเป้า
ผู้บังคับบัญชาที่ฝึกซ้อมเขาอยู่ข้างๆ ได้เห็น อดกระตุกหางตาไม่ได้
สายโทรศัพท์นี้เป็นใครกันแน่? ทำให้เขารับสายขณะที่ฝึกซ้อมการยิงเป้าที่สำคัญขนาดนี้?
“เธอคิดว่าสมองของเธอมีปัญหา?”
“…ไม่มีค่ะ”
“งั้นพันธุ์กรรมของฉันมีปัญหา?”
“ไม่ใช่ค่ะ!”
เส้นหมี่ที่อยู่อีกด้านปฏิเสธอย่างแน่วแน่ร้อยเปอร์เซ็นต์ในทันที
ผลสรุป ผู้ชายคนนี้หัวเราะเยาะอยู่ที่อีกด้านของโทรศัพท์: “งั้นเธอทำไมจะต้องสงสัยลูกของตัวเอง? โจทย์แบบนี้ มีแต่ในสถานที่โบราณคร่ำครึแบบนี้เท่านั้น พวกเขามีชีวิตอยู่แค่ในโลกของตัวเอง คิดไปเองว่าออกโจทย์แปลกประหลาด ก็คือการศึกษาชั้นสูง ความเป็นจริงแล้วแค่คนไร้ค่ากลุ่มหนึ่ง!”
“…”
เด็ดขาดมาก!
ในที่สุดเส้นหมี่ไม่สงสัยตัวเองอีกต่อไป
แต่ว่า เธอไม่สงสัยก็ส่วนไม่สงสัย งั้นลูกสาวล่ะ? ลูกสาวควรจะทำยังไงต่อไป?
ถ้าหากเธอแก้โจทย์ออกมาไม่ได้ ก็จะถูกไล่ออกไปนะ
“งั้นก็ย้ายโรงเรียน”
“ย้ายโรงเรียน?”
เส้นหมี่ถลึงตาโตทันที “ย้ายไปไหนคะ? ไม่ใช่ว่า คิวเอสวายที่นี่ดีที่สุดเหรอคะ? ตอนเช้าตาแก่ยังพารินจังมาส่งที่นี่ด้วยตัวเอง”
นั่นสิ คิวเอสวาย เป็นถึงสถาบันการศึกษาระดับสูงอันดับต้น
ไม่เรียนที่นี่ ให้ไปที่ไหน?
“โรงเรียนสาธิตปฐมเขตทหาร!” ผู้ชายคนนี้ สุดท้ายพูดชื่อโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งออกมาผ่านโทรศัพท์
โรงเรียนสาธิตปฐมเขตทหาร
นั่นคงเป็นโรงเรียนธรรมดาแห่งหนึ่งสินะ?
เส้นหมี่ได้ยินชื่อนี้ก็คิดในใจ
แต่ที่เธอไม่รู้ก็คือ เธอที่อยู่ด้านนี้วางสาย ผู้บังคับบัญชาที่ยืนอยู่ด้านข้างที่ทางด้านลานยิงเป้าของกองทัพ เห็นชายหนุ่มที่ถือปืนอยู่ตรงหน้าในที่สุดก็วางโทรศัพท์ลง
เขาสีหน้าเปลี่ยนไป
“นายจะส่งเด็กๆ ไปที่ โรงเรียนสาธิตปฐมของพวกเราที่นี่?”
“ไม่ได้เหรอ?”
“…ได้มันก็ได้อยู่ แต่ว่าโรงเรียนนั้น เด็กที่มีอำนาจอิทธิพลแทบจะทั้งหมดของเมืองหลวงอยู่ที่นี่ รวมทั้งคนของทางด้านไวท์ พาเลซ”
ผู้บังคับบัญชาอดเตือนอย่างจริงจังไม่ได้