ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 907 หึงหวง
ในตอนที่คุณชายเล็กตระกูลเทวเทพถูกส่งมาฝึกฝนที่ค่ายทหาร
ความจริงแล้ว หลายคนต่างตั้งตารอดูเขา เขาคนนี้ พวกเขาไม่มากไม่น้อยต่างก็เคยได้ยินเรื่องไม่ดีของเขา
แปลกประหลาด อารมณ์ร้าย ไม่เชื่อฟังใครทั้งนั้น รวมทั้งไชยันต์ปู่ของเขา
ดังนั้นหลังจากที่เขามา หลายคนคิดว่า เขาจะอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วันก็คงหนีไป
แต่แป๊บเดียวสามเดือนผ่านไปแล้ว นอกจากมาในตอนแรกไม่กี่วันนั้นเขาดื้อรั้นอย่างมาก มีความรู้สึกต่อต้านเป็นอย่างมาก เวลาที่เหลือ เขาล้วนอยู่ในลักษณะท่าทางของเครื่องจักรกลจนจบภารกิจ
ทำไมถึงพูดว่าเครื่องจักรกล?
เพราะว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยแสดงอารมณ์อะไรใดๆเลย ใบหน้าในทุกๆวันนิ่งมาก เหมือนกับเทือกเขาน้ำแข็งยังไงอย่างงั้น ใครได้เห็นต่างก็กลัว
แต่ตอนนี้?
ในสนามซ้อมผู้คนยังคงครึกครื้น วินาทีนี้ต่างหยุดหายใจลง จ้องมองมายังทั้งสองที่อยู่บนสนามซ้อม
“ไปหยิบกระเป๋ามา”
ในที่สุดแสนรักก็พูดออกมาแล้ว ใบหน้าหล่อแข็งทื่อ หันหน้าไปทางอื่น
ทุกคนที่กำลังมองอยู่:“……”
ทว่าเส้นหมี่ฟังเข้าใจแล้ว เงยหน้าขึ้นมาทันที ดวงตาดำคลับทั้งสองข้างเป็นประกาย เปล่งประกายเหมือนกับดวงดาวยังไงอย่างงั้น
“ค่ะ ฉันไปเดี๋ยวนี้แหละ”
หลังจากนั้นเธอหันหลังกลับวิ่งเหยาะๆออกไปแล้ว จึงไปหยิบกระเป๋าที่ใส่ผ้าขนหนูกับกระติกน้ำของใช้ส่วนตัวอื่นๆของคนคนนี้ที่วางอยู่บนเก้าอี้หน้าสนามซ้อมมา
ผ.บ.ธีระที่ยืนอยู่ที่นี่พอดีมองอย่างตะลึงงัน
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เมื่อทั้งสองคนออกไปแล้ว เส้นหมี่กลับมาเป็นเหมือนเดิม เธออยู่ด้านข้างของชายหนุ่ม เป็นเหมือนหางเล็กๆน้อยๆของเขา
ทว่าสำหรับ คนที่อยู่ที่นี่มาถึงสามเดือนเต็ม ในสามเดือนนี้เขาไม่เคยให้ใครเขาใกล้เป็นพิเศษเลย
ยังไม่ทันได้รู้ตัว
“แสนรัก จะไปแล้วเหรอ? การทดสอบครั้งต่อไปคือเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา คุณสามารถพาน้องสะใภ้ไปพักผ่อนก่อนได้”
ผ.บ.ธีระก็มาแล้ว มองเห็นว่าคู่รักทั้งสองออกมาแล้ว เขายิ้มแย้มออกมาแล้วช่วยออกความคิดเห็นให้กับคุณชายเล็กตระกูลเทวเทพคนนี้
ที่แท้ แสนรักฝึกอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามเดือน ไชยันต์ไม่ได้ให้เขามาแค่เล่นๆ ยังขอร้องให้ทางค่ายทดสอบเขาด้วย ผ่านการทดสอบถึงจะออกไปได้
แต่แสนรักกลับมองไปที่เขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ก้าวขาเดินไปแล้ว
เส้นหมี่:“……”
ไอ้คนนี้……
ทำได้เพียงหยุดลง กล่าวขอโทษกับผ.บ.ท่านนี้ :“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ผ.บ.ธีระ เขาก็นิสัยเป็นแบบนี้ คุณอย่าได้ถือสา”
ผ.บ.ธีระใจกว้างอย่างมาก:“ไม่เป็นไรหรอก พวกเขาชินไปตั้งนานแล้ว ใช่แล้ว น้องสะใภ้มาตั้งแต่เช้าขนาดนี้ ทานอาหารเช้าหรือยัง? สามารถใช้เวลานี้ไปทานสักหน่อยก็ได้นะ?”
“หืม?”เส้นหมี่ไม่ได้ยินสิ่งนี้ยังรู้สึกโอเค เมื่อได้ยิน ก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆแล้ว
“เอ่อ……ได้เหรอคะ?”
“ได้อย่างแน่นอน คุณให้แสนรักพาคุณไป ที่โรงอาหารด้านโน้น ผมจะบอกคุณนะ ถึงแม้ว่าพวกเราที่นี่คือค่ายทหาร แต่ความหลากหลายและคุณภาพก็ไม่ได้ด้อยกว่าด้านนอกเลยนะ”
ผู้บัญชาคนนี้ เป็นกันเองอย่างเกินไปแล้ว เหมือนกับว่ารอติดตามชมพวกเขาทั้งสอง
เส้นหมี่หูแดงระเรื่อขึ้นมาอีก ตอนนี้ เธอหันหลังกลับวิ่งออกไปแล้ว
ทานอาหารเช้า?
เธอไม่กล้าให้ชายหนุ่มไปเป็นเพื่อนหรอก ในเมื่อสักครู่แม้แต่เธอมาอย่างกะทันหันเขายังโกรธ ตอนนี้เธอหวังเพียงว่าได้อยู่กับเขาที่นี่สักพักก็เพียงพอแล้ว
“สามี คุณดื่มน้ำไหม?”
เธอวิ่งตามชายหนุ่มมาจนหอบ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขาดี จึงหยิบกระบอกน้ำออกมาจากในกระเป๋าของเขา
แต่ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้ายังคงก้าวเท้ายาวๆ ไม่ได้จะหยุดลงสักนิดเลย
“ไม่กระหาย!”
“……”
เส้นหมี่น้ำตารื้นขอบตาขึ้นมาทำได้เพียงเอาขวดน้ำวางกลับไป
ช่วงเช้าในค่ายทหาร อากาศดีอย่างมาก พื้นที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ต้นป็อปล่าขาวกิ่งก้านอุดมสมบูรณ์เรียงเป็นแนวแถวเป็นระเบียบอยู่ที่นั่น เหมือนกับนักรบเข้าประจำการ อีกทั้งเหล่านักรบตัวจริง กำลังฝึกซ้อมอยู่ในสนาม และตะโกนคำปฏิญาณออกมาอยู่เรื่อยๆ ทำให้เส้นหมี่ที่ไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อนตกใจ จนใจเย็นวาบขนลุกขึ้นมา
“หญิงสาวคนนั้นเป็นใครเหรอ? สวยมากเลย”
“ใช่ นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เห็นหญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีขาว ทหารหญิงของค่ายทหารพวกเรา ปกติก็ใส่แต่ชุดทหาร”
“นั่นน่ะสิ…..”
ทหารที่ยังไม่ได้เข้าร่วมฝึกซ้อมในสนามมองอยู่ไม่ไกล หลังจากมองเห็นเส้นหมี่ที่สวมชุดกระโปรงสีขาว ทันใด สายตาของพวกเขาต่างก็ถูกดึงดูดเข้ามา
เส้นหมี่ไม่ได้ยิน เธอกำลังมุ่งหน้าวิ่งตามชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้า
และก็ในวินาทีนี้ ทันใดนั้น คนคนนี้หยุดลงแล้ว เธอยังไม่ทันได้เตรียมการ ทันใด “ตึง”ชนเข้ากับด้านหลังของเขาแล้ว
“สามี ทำไมคุณถึงได้หยุดลงอย่างกะทันหันแล้วล่ะ?”
เธอชนจนเจ็บแล้ว ทันใดกุมจมูกของตัวเองเอาไว้ เงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาทั้งสองข้างขุ่นเคืองมองไปที่ชายหนุ่มอย่างน้อยใจ
เสียงเล็กเสียงน้อยเหมือนกับแมวน้อยยังไงอย่างงั้น
ในใจของแสนรักเหมือนกับมีกระแสไปผ่าน เหมือนกับว่าถูกอะไรบางอย่างช็อตเข้าแล้ว
“คุณพูดสิว่าทำไมผมถึงได้หยุดลง? เดินไม่ดูทางสักนิด คุณกำลังทำอะไร?”เขายื่นมือมาจับข้อมือของเธอเอาไว้ ในปาก ยังเหมือนเดิมไปเปลี่ยนดุเธออย่างไม่เกรงใจ