ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 917 ความจริงที่ไม่คาดคิด
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 917 ความจริงที่ไม่คาดคิด
อิคคิว:“หม่ามี๊ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมโทรศัพท์หม่ามี๊โดนตัดสัญญาณ?”
เส้นหมี่:“ตาแก่คนนั้นจะเอาแด๊ดดี้ส่งออกไป บอกว่าจะส่งไปฝึกหนักที่ฐานทัพ ฉันโมโหแล้ว ทะเลาะกับเขา หลังจากนั้นเขาก็เอาฉันมาขังเอาไว้ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ด้วย”
ณ จุดนี้เส้นหมี่ไม่ได้ปกปิดลูกทั้งสองคนเอาไว้
เพราะว่า เรื่องเหล่านี้ ในตอนนี้พูดได้ว่า คนที่เธอคิดว่าจะไม่มีจิตใจที่คิดจะทำร้ายพวกเขา โมโหอย่างขีดสุด หลังจากนั้นยังเพราะว่า สามารถช่วยเธอได้
อิคคิวได้ยินแล้ว ปรากกว่าก็โมโหทันที:“ตาแก่คนนี้ ผมคิดเอาไว้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร!”
ใบหน้าเล็กของชินจังขุ่นมัว:“หม่ามี๊ คุณจะวางแผนทำอย่างไร?”
เส้นหมี่:“ตอนนี้ฉันต้องหนีออกไปก่อน แบบนี้จึงจะมีโอกาสสืบหาได้ว่าแด๊ดดี้ถูกส่งไปที่ไหนกันแน่ มีที่อยู่ที่แน่นอน ถึงเวลานั้นหม่ามี๊ค่อยคิดหาวิธีกับคุณป้าของพวกคุณ เชื่อว่าจะสามารถช่วยเขาออกมาได้แน่”
“ครับ”
เจ้าเด็กสองคนนี้ตอบรับอย่างรวดเร็วแล้ว
เส้นหมี่วางสายโทรศัพท์แล้ว
มันเป็นเพียงไม่กี่นาที ทันใดในลิฟต์ก็ส่งสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังออกมา ทุกคนที่กำลังยุ่งอยู่ที่ชั้นล่างต่างรีบพุ่งออกมา มองดูเส้นหมี่ที่อยู่บนตึกชั้นบนใบหน้ากระวนกระวาย
“เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมสัญญาณเตือนไฟไหม้ถึงได้ดังอย่างกะทันหัน?”
“เหมือนกับว่าจะเป็นที่ในลิฟต์!”
“อะไรนะ?ในลิฟต์?!!”
คำพูดนี้ดังมา คนส่วนใหญ่ต่างสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว ทันใดรีบไปแบกถังดับเพลิง หาเขาไปหาพ่อบ้านสิน คนอื่นๆ ฝูงชนทั้งหมดต่างมองมาที่ลิฟต์อันนี้
ปรากฏว่า เมื่อมาถึงที่นี่ สัญญาณเตือนไปไหม้อันนั้นยิ่งดังแสบหูมากกว่าเดิมแล้ว
ที่แท้ เดอะวิวซีแห่งนี้ เดิมทีเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับต้อนรับแขกทางทหารระดับประเทศ ดังนั้นอุปกรณ์ต่างๆจึงมีครบ รวมถึงระบบป้องกันไฟไหม้ด้วย
พ่อบ้านสินรีบมาที่นี่ทันที ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกแล้ว หัวฉีดน้ำของระบบป้องกันไฟไหม้ “ซ่า”ได้พ่นน้ำออกมาแล้ว บนทางเดินของตึกทั้งหมดต่างวุ่นวายไปหมด
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมสัญญาณเตือนไฟไหม้ถึงได้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน?ไฟไหม้จริงๆเหรอ?”
“ไม่มี หรือว่ามีคนสูบบุหรี่ในลิฟต์”
คนใช้คนนี้ถามออกมาในเหตุการณ์
แต่ว่าไม่มีใครตอบ เพราะว่า ในตอนที่พวกเขากว่าจะงัดเปิดประตูลิฟต์ออกได้ไม่ง่ายเลย สิ่งที่ออกมาจากด้านในที่พวกเขาเห็นมีเพียง“ความกว้างใหญ่ไพศาล”
อย่างอื่น อะไรก็ไม่เห็นเลย
ตาสินได้เห็นแล้ว ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว เขาบอกกล่าวให้คนรับใช้เหล่านี้จัดการทำความสะอาดพื้นที่ หลังจากนั้นเตรียมจะไปที่ห้องหนังสือ
แต่ทันใดนั้น……
“ห้องข้างบนใครเปิดออก?”
“ห๋า? คือ……คือฉัน เมื่อสักครู่ในตอนที่ระบบป้องกันไฟไหม้ดังขึ้น คุณผู้หญิงที่อยู่ด้านในตะโกนอยู่ตลอด ฉันกังวลว่าเธออยู่ด้านในจะเกิดเรื่องขึ้น ก็เลยไป……ไปเปิดให้เธอออกมาแล้ว”
คาดไม่ถึง ว่าจะเป็นน้าแจ๋ว
ทันใดตาสินโมโหแล้ว!
เขาพุ่งขึ้นมาข้างบน พุ่งเข้ามาแป๊บเดียวก็มาถึงด้านหน้าของห้องนี้ ปรากฏว่า ด้านในไม่มีคนแล้ว เด็กสาวคนนั้นที่ถูกพวกเขาขังเอาไว้ข้างใน ถือโอกาสใช้สถานการณ์วุ่นวายนี้หายตัวไปแล้ว
เจ้าเด็กคนนี้!!
เธอสามารถทำให้พวกเขาไม่ต้องเป็นกังวลได้หรือเปล่านะ?
——
เส้นหมี่หนีออกมาจากเดอะวิวซี
เธอไม่ได้ทำตามที่พูดกับลูกชายเอาไว้ หลังจากออกมาแล้วจะไปหาแสงดาว แต่ทว่าหลังจากเป็นอิสระแล้ว เธอเรียกรถไปแถวๆค่ายทหาร
เธอคิดว่าจะไปดูสถานการณ์ด้านโน้นก่อน
ถึงแม้ว่าไชยันต์จะส่งเขาออกไปอีกครั้งอย่างเด็ดขาด แต่ว่า เธอเชื่อว่า เพียงแค่ชายหนุ่มคนนั้นถูกพาตัวออกมา ต้องมีคนคนเห็นเขาบ้าง
เส้นหมี่เหมือนกับว่าเห็นทหารคนเดิมคนเดียวกับเมื่อวานที่หน้าประตูใหญ่
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันสามารถเข้าไปหาผ.บ.ธีระได้ไหม?”
เส้นหมี่เพื่อไม่ให้คนที่นี่พบว่าเป็นเธอ แล้วติดต่อกับตาแก่คนนั้นไป ก่อนที่จะมาด้านหน้าทหารรักษาการณ์คนนี้ เธอจึงสวมหน้าปลอมอันนั้นเอาไว้อีกแล้ว
คาดไม่ถึงว่า ทหารรักษาการณ์คนนั้นได้ยินแล้ว กลับมองมาที่เธอแสดงสีหน้าที่ไม่เหมือนกับเมื่อวานออกมา
ใบหน้าของเขาแฝงไปด้วยความเจ็บปวด:“ผ.บ.ธีระ คุณก็เป็นญาติของเขาเหรอ?”
เส้นหมี่ตะลึงงัน:“……ใช่”
“งั้นคุณไปที่ห้องเก็บศพ ศพของเขาวันนี้ตอนเช้าถูกขนส่งมาที่นี่แล้ว คุณไปตอนนี้ละก็ น่าจะยังไม่ถูกเผา สามารถไปดูหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายได้”
เหมือนกับว่าสายฟ้าฟาดลงมาในวันฟ้าใส ทหารรักษาการณ์คนนี้ยืนรักษาการณ์อยู่ ทันใดพูดคำพูดแบบนี้ออกมากับเส้นหมี่
ผู้บัญชาการคนนั้น……กลับตายแล้ว?
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้? เมื่อวานเขายังดีๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?
อีกทั้งเขายังหนุ่มยังแน่น ทั้งยังร่างกายแข็งแรง เมื่อวาน ยังล้อเล่นกับพวกเขาสองสามีภรรยาอยู่เลย ทำไมถึงได้จากโลกใบนี้ไปอย่างกะทันหันล่ะ?”
เส้นหมี่เหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงมาบนศีรษะ!
สิบวินาทีเต็มๆ ถึงได้ยินเธออยู่ที่นั่นถามออกไปหนึ่งประโยค:“ฉัน…..สามารถถามถึงสาเหตุการตายของเขาได้ไหม?”
ทหารรักษาการณ์คนนี้มองมาที่เธอแวบหนึ่ง:“คุณเป็นญาติของเขาไม่ได้ยินมาก่อนเหรอ?”
“ได้ยิน แต่ว่า……ยังมีบางอย่างไม่แน่ใจ”
“ไม่แน่ใจ? ที่คุณพูดว่าไม่แน่ใจคือสุดท้ายเขาตายด้วยฝีมือของทหารของตัวเองอย่างนั้นเหรอ? ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ งั้นคุณก็ไม่ต้องสงสัยหรอก ทหารคนนั้น เดิมทีเขาก็มีปัญหาทางจิต!”