ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 940 สุดโต่ง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 940 สุดโต่ง
เป็นถึงคุณนายใหญ่แห่งตระกูลเทวเทพอาละวาดจนถึงขั้นนี้ พูดตามจริง คือดูไม่ได้เลยจริงๆ
แสนรักกำลังอยู่ในห้องดับจิต
จู่ ๆ ได้รับข่าวนี้ เขาเหลือบมองดูผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ยังคงนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงหน้าตู้เก็บศพ
“ม็อกโก แม่นายมาแล้ว”
“……”
ไม่มีใครตอบ
ชายคนนี้นั่งแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้อยู่ตรงนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไรแล้วทั้งสิ้น ดวงตาทั้งคู่ของเขาจ้องมองร่างไร้วิญญาณตรงหน้าอย่างว่างเปล่า ไม่มีการตอบสนองเลยแม้แต่น้อย
แสนรัก : “…….”
ขมวดคิ้ว สุดท้ายเขาก็หันหลังกลับ เตรียมที่จะออกไปรับมือเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“ตอนนี้พวกเราพ่อลูกชดใช้หนี้หมดแล้วใช่ไหม?”
ทันใดนั้น ในห้องดับจิตที่แสนเย็นสงัด เสียงผู้ชายที่ฟังดูแหบแห้งก็ลอยมา แสนรักที่ก้าวเท้าเดินมาถึงตรงประตูทางเข้าได้ยินก็ชะงักฝีเท้าลง
คำพูดนี้ คือเขาพูดเหรอ?
เขาหันหน้ามา ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วแน่นเผยให้เห็นถึงความไม่พอใจจ้องมองไปที่คนคนนี้
“ม็อกโก ตอนนี้นายยังไม่ได้สติ นายควรจะไปพักผ่อน”
“ไม่ ฉันมีสติดีกว่าเวลาไหน ๆ” ในที่สุดม็อกโกก็เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาคู่หนึ่งที่ถูกเติมเต็มไปด้วยสีเลือด จ้องมองเขาอยู่อย่างไม่ละสายตา
“อันที่จริงนายก็ไม่ได้คิดจะปล่อยเขาไปใช่ไหม? พ่อของนายตายเพราะน้ำมือเขา แม่ของนายตายก็เพราะฉันเป็นสาเหตุทางอ้อม ดังนั้น ตอนนี้ฉันรู้เพียงแค่ว่า เขาตายแล้ว หนี้ที่พวกเราติดค้างครอบครัวนายได้ชดใช้หมดแล้วใช่ไหม?”
เมื่อเขาถามถึงประโยคสุดท้าย น้ำเสียงแฝงด้วยความสั่นเครือเล็กน้อย ในดวงตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงฉ่ำที่จะเห็นได้น้อยมาก
ในใจของแสนรัก “กระตุก” เล็กน้อย
เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก
“ฉันไม่เคยพูดว่านายติดค้างอะไรฉัน พ่อของนายก็คือพ่อของนาย ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาย” ในที่สุดเขาก็แสดงให้เห็นจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจน
ใช่สิ เรื่องนี้ เขาแก้แค้น
แต่ไม่เคยนำเขามาจัดรวมอยู่ในรายชื่อ
ในที่สุดม็อกโกก็ได้รับคำตอบแล้ว ก้มหน้า หยดน้ำตาร่วงหล่นจากมุมตาของเขาและยิ้ม
ดี ชดใช้หมดแล้วก็ดี
ในที่สุดเขาก็ลุกยืนขึ้นมา จากนั้น เขาเคลื่อนย้ายศพของไชกุออกมาจากข้างในต่อหน้าต่อตาของแสนรักที่อยู่ข้างหลังเขา
“ม็อกโก นายจะทำอะไร?”
“ไม่มีอะไร ฉันก็แค่อยากพาเขาไปเจอแม่ฉัน ขอแค่เธอเห็นศพของพ่อฉัน จึงจะยอมไปจากที่นี่”
ม็อกโกตอบกลับหนึ่งประโยคอย่างเรียบเฉย
นิ้วมือทั้งสองข้างของแสนรักกำหมัดแน่นอีกครั้ง
พูดตามตรงว่าประโยคนี้ทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่เชื่อว่าภายใต้การถูกโจมตีอย่างหนักแบบนี้ ผู้ชายคนนี้ยังคงคิดเผื่อเอาใจใส่เขาที่ชื่อแสนรักได้ขนาดนี้
แต่ เขาเองก็ไม่สามารถขวางเขาไว้ได้
เพราะว่านับตั้งแต่วินาทีที่รู้จักเขา เขาปฏิบัติต่อเขาเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆ ของเขา
สุดท้ายแสนรักจึงหลบให้ มองดูเขาเข็นศพนี้จากไป
หลังจากนั้นอีกประมาณสิบนาที
เป็นไปตามคาด มินตราที่พาคนของตระกูลเทวเทพกลุ่มใหญ่บุกเข้ามาถึงข้างบนนี้แล้ว มองเห็นลูกชายเข็นร่างไร้วิญญาณของสามีออกมา เธอตัวแข็งทื่อ
ทันใดนั้น คนทั้งคนก็หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น
“โก……..”
“แม่ หยุดวุ่นวายได้แล้ว พวกเราพาพ่อกลับบ้านกัน”
ม็อกโกแทบจะหมดแรง ร่างกายเหนื่อยล้ามองดูและเกลี้ยกล่อมแม่คนนี้
ไม่มีใครรู้ แท้จริงแล้วเขายังมีอีกความหมายหนึ่ง นั่นก็คือ “หยุดวุ่นวายได้แล้ว ต่อไปครอบครัวพวกเขาจะไปจากที่นี่ไปให้ไกลแสนไกล สิ่งที่ต้องชดใช้ก็ชดใช้หมดแล้ว ที่เหลือก็คือใช้ชีวิตให้ดีในแต่ละวัน”
ผู้ชายคนนี้มาถึงเวลานี้แล้วก็ยังคงคิดอย่างนี้อยู่
แต่ หลังจากที่มินตราได้ฟังประโยคนี้แล้ว ภายใต้ความเจ็บปวดและโกรธอย่างแสนสาหัสแล้ว กลับเป็นความผิดหวังอย่างที่สุด!
“แกกำลังพูดอะไร? แกพูดอีกทีซิ?”
“แม่!”
“โก แกรู้ไหมว่าทำไมตอนนั้นพ่อของแกจึงต้องทำแบบนั้น? เพราะว่าในครอบครัวตระกูลเทวเทพพ่อของแกก็เหมือนคนที่ถูกทอดทิ้ง ตอนที่เกิดความวุ่นวายภายใน ศัตรูบุกมาถึงหน้าประตู ปู่ของแกรีบอุ้มขึ้นมาและพาวิ่งหนีไปก่อนก็คืออาคนนั้นของแก พอโตขึ้น เมื่อมีสิ่งของดีๆ โอกาสดีๆทั้งหมด คนนั้นที่ถูกทอดทิ้งคนแรกก็คือพ่อของแก”
มินตราพูดและร้องไห้อย่างขมขื่น เธอมองดูลูกชายคนนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอเจ็บปวดรวดร้าวขนาดนั้น และก็ผิดหวังมากขนาดนั้น
ม็อกโกตกตะลึง
เขาไม่เคยได้ยินสิ่งเหล่านี้มาก่อนเลย
แต่เขารู้ว่า ตั้งแต่เล็กเขาก็ไม่ใช่คนที่ถูกชอบ
ไม่มีแม้แต่ครึ่งหนึ่งของความโปรดปรานของหลายชายหลานสาวทั้งสามคนนั้นในตอนนี้
นิ้วมือของม็อกโกค่อยๆ ม้วนงอขึ้นมา…….
ตอนที่อาของแกส่งจดหมายมาที่บ้าน พ่อของแกคือมีความสุข คือดีใจ แต่เมื่อเขาถือมันไปหาปู่ของแกด้วยความตื่นเต้น ตอนที่เตรียมจะไปอ้อนวอนแทนอาของแก ปู่ของแกกลับบอกเขาว่า เขาให้อภัยเขาแล้ว เพียงแค่ให้เขาพาผู้หญิงคนนั้นกลับมายอมรับผิด บ้านหลังนี้ก็ยังคงเป็นของขุนนาย”
ผู้หญิงคนนี้พูดไปๆ เธอก็หัวเราะขึ้นมาอยู่ตรงนั้นด้วย
ทั้งๆ ที่เจ็บปวดโกรธและสิ้นหวังขนาดนั้นแล้ว แต่เวลานี้ เพราะพูดถึงเรื่องนี้ เธอหัวเราะเยาะจนน้ำตาไหลออกมา
ความรู้สึกของมนุษย์ก็เป็นแบบนี้จริงๆ
ต่างก็เกิดออกมาจากพ่อกับแม่เดียวกัน ทำไมจึงได้แตกต่างกันมากมายขนาดนั้น? คนหนึ่งค้ำฟ้า อีกคนเหยียบย่ำอยู่บนพื้น หากเปลี่ยนเป็นใครก็ไม่มีใครจะรับมันได้หรอก
ดังนั้นสุดท้าย ในที่สุดไชกุก็ต้องเดินทางสุดโต่ง
ม็อกโกฟังแล้วตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง
เขาคิดไม่ถึงเลย บนตัวของพ่อผู้ขี้ขลาดคนนั้นของเขา ยังคงมีความลับช่วงหนึ่งที่บอกใครไม่ได้แบบนี้