ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 949 เขายังชกต่อยกับคน
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 949 เขายังชกต่อยกับคน?!
เช่นเดียวกับครั้งนั้นตอนที่เส้นหมี่ไปหาเขาที่กรมทหาร เหมือนกับตอนที่ ผ.บ.หญิงคนนั้นกดทับเขา!
ม็อกโกมองดูเขา
“พรึ่บพรึ่บพรึ่บ….”
แต่หลังจากที่แสนรักลุกขึ้นแล้ว กลับไม่เหลือบมองเขาเลย
หลังจากที่เขาลุกขึ้นแล้ว ก็แค่ปัดๆ เศษฝุ่นที่ติดอยู่บนตัว และตามด้วยจัดการกับรูปลักษณ์ของตัวเองนิดหน่อย เขาก็ก้าวเท้าเดินออกไป
เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นขนาดนี้ สุดท้ายเขาไม่มีแม้แต่จะด่าเขาเลย
ม็อกโก : “……..”
“เอ๋ะ? รัก เธอ….นี่คือจะกลับไปแล้วเหรอ? เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” พิมเจ้า ถือเชิงเทียนใหม่สองอันมาพอดี และเจอกับเขา เธอเองก็ตกตะลึง
แสนรักจึงเอ่ยปากอย่างเรียบเฉย : “อืม กลับไปอาบน้ำหน่อย”
ปรากฎว่าคือเหตุผลอย่างนี้
สุดท้าย ทั้งสองคนมองดูเขาจากไปอย่างงงๆ จนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงรถดังจากข้างนอก ในห้องโถงไว้อาลัยแห่งนี้ก็ยังคงเงียบสงบอยู่
——
อันที่จริงเช้านี้เส้นหมี่เองก็จะไปที่เรด พาวิเลี่ยนด้วย
เมื่อคืนเธอรอมาทั้งคืนแล้ว ก็ไม่เห็นผู้ชายคนนั้นกลับมา หากไม่ใช่เพราะว่าที่บ้านยังมีลูกๆ สามคนนี้ เกรงว่าเธอเองก็ไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน
แต่เธอเพิ่งเตรียมตัวจะออกไป จู่ ๆ ด้านนอกแสนรักก็กลับมาแล้ว
“ที่รัก ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว?”
เธอเห็นแล้ว ในใจก็รู้สึกดีใจขึ้นทันที ก้าวเท้าไปออกไปรับ
แต่ชายคนนี้ เมื่อเธอวิ่งเข้าไปคิดอยากจะจับแขนของเขาในวินาทีนั้น ร่างกายเขาเคลื่อนไหวเล็กน้อยและหลบออกไปโดยไม่พูดอะไร
เส้นหมี่ : “…….”
“อืม ผมขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชั้นบนก่อน เดี๋ยวลงมากินอาหารเช้า” จากนั้น ผู้ชายคนนี้ก็ไม่หยุดอยู่เลยแม้แต่น้อย เขาก้าวขายาวๆ เดินผ่านเธอไปและตรงขึ้นไปชั้นบน
ใบหน้าเล็กๆ ของเส้นหมี่ก็ขาวซีดลงไป
เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่นี่เขาจงใจหลบเลี่ยงและยังต่อต้าน เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจน
ทำไมเป็นแบบนี้อีก?
เมื่อคืนวาน….มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เมื่อคืนวานที่เขาออกไป ก็ยังดีๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?
เส้นหมี่สับสนไปหมดแล้ว
เข้าไปในห้องครัว เธอมองดูหม้อถ้วยชามกระทะเหล่านี้อยู่เป็นเวลานานมาก จนไม่รู้เลยว่าควรทำอะไรดีก่อน
“พวกเธอได้ยินมาหรือยัง? วันนี้เกิดเรื่องขึ้นที่เรด พาวิเลี่ยนทางนั้น”
“หา?”
ด้านนอก จู่ ๆ คนใช้ที่อยู่ในสวนดอกไม้กลับสนทนาเรื่องนี้ขึ้นมา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทางนั้นไม่ใช่กำลังจัดงานศพอยู่เหรอ?”
“จัดที่ไหนล่ะ? เมื่อคืนวานทั้งคืนคุณชายม็อกโกไม่กลับมา เป็นคุณชายพวกเราที่เฝ้าอยู่ทั้งคืน จากนั้นวันนี้ตอนเช้ากว่าคุณชายม็อกโกจะมาได้ ทั้งสองคนก็ชกต่อยกันขึ้นมาในห้องโถงไว้อาลัย”
มีคนใช้กำลังนินทาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเข้าใจยาก
พระเจ้า!
เจ้านายทั้งสองคนนี้กล้าชกต่อยกันในห้องโถงไว้อาลัย?
บังเอิญว่าน้าแจ๋วที่ทำงานอยู่ตรงนั้นพอดี ได้ยินทั้งหมดนี้ ทันใดนั้น เธอก็โยนผ้าทิ้ง และวิ่งตรงเข้ามาที่ห้องครัวทางนี้ : “คุณผู้หญิง เมื่อครู่น้าได้ยินพวกเขาพูดกันในสวนดอกไม้ วันนี้ตอนเช้าคุณชายน้อยชกต่อยกับคุณชายม็อกโก”
“อะไรนะ?” เส้นหมี่ที่กำลังเหม่อลอยตกตะลึงครู่หนึ่ง
“ฮาย ก็พวกเขาพูดกันเมื่อสักครู่ ยัยคนนั้นมีพี่สาวทำงานอยู่ที่เรด พาวิเลี่ยน คุณผู้หญิง คุณจะไปดูที่เรด พาวิเลี่ยนหน่อยไหมคะ?”
น้าแจ๋วเห็นสีหน้าอารมณ์แบบนี้ของเธอ ซึ่งเธอยังไม่รู้ว่าเจ้านายเล็กกลับมาแล้วนั้น ยังถามด้วยความเป็นห่วง
ผลคือ เมื่อเธอพูดจบ เจ้านายหญิงคนนี้ก็โยนกระทะในมือลง จากนั้นก็วิ่งราวกับบินออกมาจากห้องครัว และขึ้นไปบนชั้นบน
เจ้าหนุ่มนี่ ที่แท้ก็มีเรื่องชกต่อยกันมา
เส้นหมี่มาถึงชั้นสามด้วยความเร็วที่สุดที่มี
และแล้วเมื่อเธอเตรียมตัวจะเปิดประตูบานนั้นออก พบว่าประตูนั้นถูกล็อกมาจากด้านใน มองเข้าไปดูข้างในทางหน้าต่าง ก็เห็นเป็นกองเสื้อผ้าที่ถูกถอดออก กำลังวางอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง
ด้านบนยังมีคราบฝุ่นอยู่มากมาย
และยังรอบยับย่นที่เห็นได้ชัด
ใบหน้าเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ของเส้นหมี่ก็ยิ่งขาวซีด เธอรีบวิ่งลงไปที่ชั้นสองทันที หลังจากที่หยิบกุญแจของห้องชั้นสามได้แล้ว ก็รีบพุ่งกลับขึ้นมาและไปเปิดประตูโดยตรง
“แกร๊ก—“
“ตึง!”
ตอนที่เธอเปิดประตูเข้ามา ในห้องที่กำลังได้ยินเสียงน้ำกระเซ็นอยู่ในห้องอาบน้ำ ก็ได้ยินเสียงอู้อี้ลอยมาพอดี
“ที่รัก? ที่รักคุณเป็นอะไร? คุณรีบเปิดประตู คุณล้มลงใช่ไหม?” เธอกังวลมาก พุ่งเข้าไปที่ประตูห้องอาบน้ำแล้วทุบขึ้นมาอย่างสุดแรง
ผ่านไปสักประมาณหนึ่งนาทีกว่าๆ
ในที่สุด หลังจากที่มีเสียงดังจากการบิดเปิดล็อกออกมา ผู้ชายที่เส้นผมยังเปียกน้ำอยู่ และตามร่างกายก็เต็มไปด้วยหยดน้ำก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
“มีอะไร?”
เขากลับไม่ได้ใช้วิธีการ “ผิดกฎหมาย” มาตำหนิดุด่าเธอ
แต่หลังจากที่ขมวดคิ้วแล้ว ท่ามกลางละอองไอน้ำ ใบหน้าอันหล่อเหลาที่โครงร่างแบ่งสัดส่วนชัดเจน ยืนสูงตระหง่านมองดูเขาแล้วถามแบบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
เส้นหมี่ : “…..”
มีอยู่ครู่หนึ่ง เธอจ้องมองตรงไปที่จุดที่เขาผูกผ้าขนหนูสีขาวผืนนี้ไว้อย่างหลวมๆ หน้าแดงหูแดงจนอยากจะออกไปให้พ้นประตู
นี่มันโจ่งแจ้งจนเกินไปแล้ว
และทำให้คนละอายจนเกิดแล้วเช่นกัน
แต่ไม่นาน เธอก็นึกถึงสายตาของตัวเองขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงบังคับตัวเองให้ขยับสายตาออก
“ไม่…ไม่มีอะไร ก็คือเมื่อสักครู่ได้ยินคนใช้พูดกันข้างล่างว่า คุณชกต่อยกับม็อกโกที่เรด พาวิเลี่ยนนั่น นี่มันไม่จริงใช่ไหม? คุณบาดเจ็บตรงไหนไหม?”