ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 969 เตรียมตัวกลับบ้าน
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 969 เตรียมตัวกลับบ้าน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาระบายความในใจของตัวเองออกมาให้เธอฟัง
เขาคนนี้ แข็งแกร่งเกินไปและโดดเดี่ยวเกินไป และยังขาดความเชื่อมั่นต่อโลกใบนี้เกินไปอีกด้วย เขามักจะเก็บอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างแอบซ่อนไว้ในก้นบึ้งของหัวใจจนเป็นนิสัย ไม่ให้คนมองออกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่คนนั้นจะเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุดก็ตาม
เขาก็ไม่ยอมที่แสดงด้านที่อ่อนแอที่สุดของตัวเองออกมา
ฉะนั้น ตอนนี้ที่เขายอมบอกทุกอย่างกับเส้นหมี่ เขาตัดสินใจครั้งใหญ่มากจริงๆ
เส้นหมี่กอดผู้ชายคนนี้ไว้แน่น และในที่สุดก็ถอยหายใจออก คำตำหนิกับความคับแค้นทั้งหมดที่อยู่ในใจก็หายเข้าไปในกลีบเมฆ
“ฉันไม่ได้โทษคุณ ฉันก็แค่…..คาดหวังว่าคุณจะหายดีมากจนเกินไป”
“ผมรู้ รู้แล้ว……..”
ในที่สุดผู้ชายก็เงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอของเธอ
ประคองใบหน้าเล็กๆ ของเธอมองอยู่เงียบๆ สักพักหนึ่ง จู่ ๆ สายตาที่เร่าร้อนของเขาก็มาตกอยู่บนริมฝีปากของเธอ
เส้นหมี่ : “…………”
ยังไม่ทันที่จะได้ตั้งสติ ลมหายใจร้อนอุ่นของผู้ชายก็กดทับลงมา ไม่นานนัก ลมหายใจของเธอก็ถูกเขาพรากไปจนหมดแล้ว……..
“ที่รัก ผมอยากฟัง…….คุณเรียกพี่ชาย……..”
“……”
“…………พี่ชาย”
ในท้ายที่สุดไชยันต์ก็ตกลงให้พวกเส้นหมี่กลับเมือง A
เพียงแต่เขาขอว่าต้องกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ
ซึ่งมันไม่ใช่ปัญหาเลย ถ้าพูดในแง่ของความสัมพันธ์ทางสายเลือด ชายชราท่านนี้ก็คือคุณปู่แท้ๆ ของแสนรัก และยังเป็นคุณปู่ทวดของพวกเด็กๆ กลับมาเยี่ยมเขา ก็เป็นเรื่องที่สมควรทำ
“คุณปู่คะ ปู่สบายใจได้ ต่อไปถึงแม้ว่าเขาไม่มา ฉันก็จะพาพวกเด็กๆ มาเองค่ะ”
เส้นหมี่มองไปชายชราที่ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจอยากให้ไป เดี๋ยวทำมองอันนี้ เดี๋ยวทำมองอันนั้นอยู่ในสอนดอกไม้ สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว เลยให้คำสัญญาหนึ่งกับเขาไว้
อีกทั้ง ครั้งนี้ เธอก็เรียกว่าคุณปู่แล้ว
ไชยันต์ได้ยินแล้ว ชะงักไป ดวงตาแก่ๆ คู่นั้นที่กำลังมองดูพวกเด็กๆ ก็ยิ่งแดงมากขึ้น
“ไอ้หยา ไม่เป็นไรนะ คุณปู่ทวด พวกเขาสามารถวิดีโอคอลหากันได้ทุกวัน ipad ที่ผมให้คุณปู่ทวดไปเก็บไว้ดีหรือยังครับ?”
คิวคิวเป็นเด็กฉลาดปราดเปรื่อง หลังจากที่สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของทางนี้ เขาก็หยุดเล่น วิ่งเหยาะๆ เข้ามาหาชายชราทางนี้
เมื่อไชยันต์เห็นแล้ว ทันใดนั้นก็ยิ้มอย่างดีใจ
“เก็บไว้ดีแล้ว สิ่งของที่เหลนให้ไม่ว่าจะเป็นอะไร ปู่ทวดก็จะเก็บไว้ให้ดีดีเลย”
เขาดึงเจ้าหนุ่มน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เห็นเหงื่อออกเต็มหน้าเพราะเล่นมา แล้วใช้แขนเสื้อของตัวเองขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนศีรษะน้อยๆ ของเขาโดยตรง
ความรักที่ประคับประคองดั่งดวงใจแบบนี้ อันที่จริงก็ไม่ต่างอะไรกับคนแก่ทั่ว ๆ ไป
คิวคิวยิ้มตาเป็นสระอิมองมาที่เขา : “เก็บไว้ดีก็โอเคแล้วครับ ต่อไปพวกเราก็ค่อยใช้อันนั้นโทรศัพท์หาคุณปู่ทวด คุณปู่ทวดก็จะเห็นพวกเราได้ตลอดเวลา”
“จริงเหรอ?”
“แน่นอนสิครับ นั่นคือสิ่งที่ผมตั้งค่าไว้ให้ปู่ทวดโดยเฉพาะเลย อ่อยังมี……..”
ทันใดนั้นเจ้าหนุ่มน้อยก็เผยให้เห็นถึงความลึกลับเล็กน้อย
ไชยันต์เห็นแล้ว จึงให้ความร่วมมือเอียงศีรษะเข้ามาด้วยใบหน้าแบบได้รับความรักทันที
“ผมจะบอกปู่ทวดให้นะครับ ผมติดตั้งโปรแกรมหนึ่งลงใน ipad นี้ หลังจากนี้ขอแค่คุณปู่กดเปิดลิ้งก์ ก็สามารถเห็นสถานการณ์ของบ้านพวกเราทางนั้นได้แล้ว”
“จริงเหรอ?”
นี่คือข่าวดีอย่างหนึ่ง ในที่สุดชายดวงตาของชราที่เอียงศีรษะอยู่ก็ลุกวาวขึ้นมา
ในเวลานี้หนูรินจังเองก็วิ่งมาด้วย หลังจากที่เห็นพี่ชายกำลังคุยอยู่กับคุณปู่ทวด เธอก็ไม่สนใจ เมื่อแขนน้อยๆ ขาน้อยๆ ก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ที่คุณปู่ทวดนั่งอยู่แล้ว ก็โผล่ใบหน้ากลมๆ เล็กๆ ออกมาจากทางด้านหลังโดยตรง
“ใช่แล้วใช่แล้ว คุณปู่ทวดก็สามารถเห็นหนูได้ด้วยนะ”
“อืม ดีใจจัง ยังสามารถเห็นแม่สาวน้อยของพวกเราด้วย”
ไชยันต์มองดูใบหน้านี้ หัวใจแทบจะละลาย ยื่นมือใหญ่เหมือนใบลานมาอุ้มเจ้าตัวเล็กอ้วนกลมมาจากทางด้านหลัง บนใบหน้าของเขาล้วนเต็มไปด้วยความสดใสเรียบร้อยแล้ว
เส้นหมี่มองเห็นทั้งหมดนี้อยู่ข้างๆ ยิ้มๆ แล้วหันหลังเดินออกไป
ถึงแม้ว่าชายชราคนนี้จะมีความผิดมากมายนานัปการ แต่เขารักพวกเด็กเหล่านี้ด้วยใจจริง
เส้นหมี่กลับมาถึงห้องโถง
“คุณผู้หญิงคะ รองผู้นำเดชาได้พา คุณนายพิม มาแล้ว”
“อ่อ ดี”
เส้นหมี่ได้ฟังคำนี้ เดิมทีคือจะขึ้นไปจัดกระเป๋าที่ชั้นบน ทันใดนั้นก็เดินตรงไปรับคนที่ประตูทางเข้า
และแล้ว เมื่อเธอออกไปจากประตูใหญ่ของห้องโถง แว๊บแรกก็เห็นพิมเจ้าที่รองผู้นำเดชาพามา เดินเข้ามาด้วยสีหน้ากังวลใจ บางทีก็ยังคงเห็นเธอกระซิบถามอะไรบางอย่างกับรองผู้นำเดชาที่อยู่ด้านข้างด้วย
“กิม คุณท่านจัดการมอบหมายแบบนี้จริงๆ เหรอ? ฉัน…..ฉันกลัวว่าจะทำไม่ได้”
“ใช่ครับ นี่คือคุณท่านพูดกับผมเอง ว่าให้ผมไปรับคุณมา คุณนายพิม คุณไม่ต้องห่วง คุณท่านก็พอใจความสามารถคุณมาโดยตลอด ตอนนี้คุณผู้หญิงจะกลับไปแล้ว ให้คุณดูแลจัดการเป็นธุระของเดอะวิวซีแทน ก็เป็นเรื่องปกติ”
รองผู้นำเดชาได้เพียงแค่ปลอบใจ
หัวใจของพิมเจ้าก็ค่อยรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่จากมือคู่นั้นของเธอที่กำผ้าเช็ดหน้าเอาไว้แน่น ก็สามารถดูออกว่า เธอยังคงประหม่ามาก
เส้นหมี่ยืนดูอยู่ที่ประตูทางเข้า จนกระทั่งเธอเดินมาถึง จึงยิ้มรับทักทาย : “ป้าพิม ป้าแล้วเหรอคะ?”
“ใช่ใช่ มาแล้ว หมี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน? อยู่ดีๆ ทำไมพวกเธอต้องกลับไปล่ะ? อยู่กันที่ไม่ดีเหรอ?”
พิมเจ้าเห็นเธอแล้ว ทันใดนั้น เธอทั้งร้อนใจทั้งไม่เข้าใจรีบรุดก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวมาจับแขนของเธอไว้แล้วถาม