ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 970 ผู้มีฝีมือที่แท้จริงของตระกูลเทวเทพ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 970 ผู้มีฝีมือที่แท้จริงของตระกูลเทวเทพ
พิมเจ้าคนนี้ ในช่วงเวลานี้เข้ากับเส้นหมี่ได้ค่อนข้างมีความสุขเลยทีเดียว และในเวลานี้ก็ไม่ได้เห็นเป็นคนนอก สอบถามขึ้นมาตรงๆ อย่างห่วงใยเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
เส้นหมี่จูงเธอเข้ามา
“นี่เป็นความคิดของพ่อเด็กๆ ค่ะ อีกอย่าง รากเหง้าของพวกเราก็อยู่ที่เมือง A พ่อของฉัน ลุงของฉันพวกเขาก็อยู่ที่นั่นกัน ตระกูลหิรัญชาทางนั้นของเขาก็มีคำจำนวนมากรอเขาอยู่”
“นี่………”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมา ถึงแม้พิมเจ้าจะไม่อยากให้กลับไป แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง ตอนที่เส้นหมี่นำสมุดบัญชีของตระกูลเทวเทพที่เธอจัดเตรียมไว้ในช่วงนี้ออกมาจากในห้องของตัวเอง แล้วส่งมอบให้กับมือของเธอ เธอก็ปลอบใจเธอหนึ่งประโยค
“ป้าไม่ต้องกังวล รายรับกับรายจ่ายทุกเดือนของเดอะวิวซี ฉันได้ระบุรายละเอียดเอาไว้หมดแล้ว เพียงแค่ป้าทำตามมันก็ได้แล้ว”
“แต่ว่า……”
พิมเจ้ามองดูสมุดบัญชีที่ใหม่ๆ เหล่านี้ บนใบหน้าอันอ่อนโยนก็ปรากฏให้เห็นร่องรอยของความไม่สบายใจและกล้าๆกลัวๆ : “พวกเขา……จะฟังป้าไหม?”
พวกเขา?
เธอพูดถึงสมรมณ์วัลย์ทางนั้นเหรอ?
เส้นหมี่ยิ้มๆ และปลอบใจเธอต่อว่า : “แน่นอนสิคะ ป้าคือคนที่คุณท่านมอบหมายด้วยตัวเอง กฎข้อกำหนดเหล่านี้ ฉันก็ได้ทำไว้แทนป้าเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะไม่กล้าฟังบ้าได้อย่างไร?”
“แต่……”
“พอแล้ว คุณป้า ทางเดินฉันจัดเตรียมไว้ให้ป้าเสร็จแล้ว ที่เหลือจะเดินยังไง ก็ขึ้นอยู่กับตัวป้าเองแล้ว”
ทันใดนั้น หญิงสาววัยรุ่นที่อายุน้อยกว่าเธอถึงหนึ่งรอบ ก็มายืนตรงหน้าของเธอ ในมือถือสมุดบัญชีอยู่แล้วพูดประโยคนี้อย่างเรียบเฉย
พิมเจ้าก็ตัวแข็งทื่อราวกับโดนฟ้าผ่าทันที!
ซึ่งเหมือนกับว่า จู่ ๆ ทั้งตัวเธอถูกจับโยนลงในห้องแช่แข็งใต้ดิน หลังจากที่น้ำแข็งอันหนาวเหน็บราดรดลงมาจากบนศีรษะของเธอ เธอเกิดเสียง “วิ๊ง” ไม่มีสีเลือดใดๆ อยู่บนใบหน้าเธอเลย
เธอกล้า………กล้า……….
“ป้าวางใจ ฉันไม่พูดออกไปหรอก ลำธารณีณพวกป้าตกอยู่ในสภาวะถูกกดดันมาโดยตลอด ใช้ชีวิตแต่ละวันก็แสนยากลำบาก ป้าสามารถก้าวก้าวนี้ออกมา คิดอยากจะต่อสู้สักครั้งเพื่อความสัมพันธ์ในเครือญาตินี้ ฉันเข้าใจป้าดีค่ะ”
เส้นหมี่เห็นว่าเธอไม่พูดอะไรแล้ว ดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องเธอราวกับว่าตกใจกลัวเป็นอย่างมาก แม้แต่ม่านตาเองก็สั่นระรัวอยู่
ดังนั้น เธอจึงนำสมุดบัญชีวางลงบนโต๊ะ หันหลังแล้วเดินออกไป
พิมเจ้าฟังจบ ก็สั่นระรัวมากยิ่งขึ้น
เธอไม่เคยคิดเลยว่า ความรู้สึกนึกคิดที่ตัวเองแอบซ่อนไว้ลึกขนาดนี้ กลับถูกแม่สาวน้อยอ่อนวัยคนนี้มองออกแล้ว
ตลอดหลายปีมานี้ แม้แต่ไชยันต์เอง เขาก็ไม่เคยค้นพบเจตนาของเธอ เขาเข้าใจว่า ต่อหน้าเขาเธอพยายามรับใช้ดูแลอย่างสุดแรงกายแรงใจ ก็เพียงเพื่อให้สุกฤตลูกชายของตัวเองได้รับโอกาสฝึกฝนมากขึ้น
และในความเป็นจริง หลายปีมานี้ ลูกชายของเธอก็ได้รับโอกาสมากมายกว่าคนอื่นๆ ในเครือญาติจริงๆ
“ฉัน….. อันที่จริงฉันไม่ได้มีใจกล้าบ้าบิ่นขนาดนั้น ฉันเพียงแค่……เพียงแค่เห็นลำธารณีณของพวกเราทางนั้น สภาพความเป็นอยู่ของหลายคนเทียบกันกับสมรมณ์วัลย์แล้วต่างกันราวฟ้ากับเหว อีกทั้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ก็ยังคงถูกพวกเขาทางนั้นบีบบังคับทารุณ…….”
“ดังนั้น ฉันจึงได้ก้าวก้าวนี้ออกมา แต่หมี่ ฉันไม่เคยคิดที่จะเป็นคุณนายหญิงของตระกูลเทวเทพจริงๆ นะ ฉันก็แค่ …… ก็แค่ทำอะไรที่เดอะวิวซีมากขึ้นอีกสักหน่อย ทำให้คุณท่านก็สนใจกับลำธารณีณของพวกเราทางนั้น หมี่ จริงๆนะ เธอเชื่อฉันนะ!!”
ประโยคสุดท้ายนี้ ผู้หญิงคนนี้ตื่นเต้นจนจังแขนของเส้นหมี่ไว้แน่น
เส้นหมี่ : “………”
ใช้แรงปลดแขนตัวเองออกมา เธอเหลือบมองดูเธอ
“ฉันบอกแล้ว ฉันเข้าใจป้า ฉันก็ไม่ได้โทษป้า ฉันเพียงแค่หวังว่า ในเมื่อตอนนี้ป้าได้ในสิ่งที่ปรารถนาแล้ว ก็ทำเรื่องนี้ให้มันดี อย่าทำให้คุณท่านผิดหวัง”
“……”
เหมือนกับว่าโดนคนต่อยเข้าอย่างจังหนึ่งหมัด
สุดท้ายผู้หญิงคนนี้ยืนอยู่ตรงนั้น หลังจากที่บนใบหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาวสลับกัน มองดูมือของตัวเองที่ถูกสะบัดออก ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลย
ใช่สิ อันที่จริงไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร เป้าหมายของเธอก็คือสิ่งนี้
เธอคิดว่าเธอหลอกง่ายเหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวน้อย แต่หารู้ไม่ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอตั้งหากที่เป็นเหมือนตัวตลก แสดงท่าทีตลกๆ ต่อหน้าเธอมาโดยตลอด
สุดท้ายพิมเจ้าก็กอดสมุดบัญชีเหล่านั้นแล้วออกไปอย่างรู้สึกอับอาย
เส้นหมี่ก็จัดเก็บกระเป๋าเดินทางต่อไป
ไม่กี่นาทีต่อมา น้าแจ๋วก็นำขนมหวานถ้วยหนึ่งขึ้นมาเสิร์ฟให้
“คุณผู้หญิงคะ คุณให้เธอไปดูแลสมรมณ์วัลย์ทางนั้น เธอทำได้เหรอคะ?”
นี่ก็เป็นคนใช้คนหนึ่งที่อยู่เดอะวิวซีมานาน และสำหรับเรื่องของตระกูลเทวเทพเหล่านี้ เธอเองก็เข้าใจด้วย
เส้นหมี่ได้ยินแล้ว กินขนมหวานไป แล้วยิ้มไป : “ทำไมล่ะ? น้าแจ๋วเป็นห่วงเธอเหรอ?”
น้าแจ๋วแบะปาก : “คุณไม่รู้อะไร สมรมณ์วัลย์ทางนั้นร้ายกาจมากเลยล่ะ เดือนใจกับบัวงามนั่นล้วนแต่ไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ไหนจะมียายบุญนั่นอีก คนนั้นที่ติดตามคุณท่านมาโดยตลอด เธอก็ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆ”
คนของสมรมณ์วัลย์ไม่อยู่ที่นี่ บวกกับความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองคน ตอนนี้น้าแจ๋วจึงเรียกชื่อของคนทางนั้นออกมาตรงๆ
เดือนใจกับบัวงาม?
แล้วบวกคนใช้อีกหนึ่งคน?
เส้นหมี่เลียน้ำหวานรสเข้มที่อยู่บนช้อน มุมปากกลับวาบให้เห็นร่องรอยเยาะเย้ยแบบไม่ให้คนรู้
ถ้าพิมเจ้าไม่สามารถแม้แต่จะรับมือกับคนพวกนี้ได้ งั้นก็คงไม่สามารถสู้ทนมาจนถึงตำแหน่งนี้ในวันนี้ได้หรอก เธอสามารถทนต่อความดูถูกและภาระหนักเบามาจนถึงตอนนี้ คิดจริงๆ เหรอว่าเธอกินหญ้า เธอไม่ใช่ควายนะ ?