ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 976 ผู้ชายที่ปกป้องภรรยาน่ากลัวจริงๆ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 976 ผู้ชายที่ปกป้องภรรยาน่ากลัวจริงๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่…ไม่มีอะไร คือระหว่างทางตอนกลับไม่ทันระวังเลยได้แผลมา” เส้นหมี่ตื่นตกใจสายตาที่มองมาของเขาจึงรีบอธิบายจนติดอ่าง
ไม่ทันระวังเลยได้แผลมา?
ต้องไม่ทันระวังแบบไหนถึงจะได้แผลแบบนี้มา?
ใบหน้าที่เค้นความของชาวหนุ่มยังคงดูอารมณ์ไม่ดี แต่ว่าในเมื่อเธอไม่พูดอะไร เขาก็จะไม่ถามแล้ว เขาจึงทำเพียงดึงมือเธอมาดูอย่างละเอียดสักพัก จากนั้นก็พาเธอเข้าห้องนอนด้วยกัน…
“ทำไม่ค่อยดี ฉันจะทำแผลให้”
“ได้”
เส้นหมี่เห็นว่าในที่สุดเขาก็ไม่ถามต่อแล้ว แล้วเธอจะไม่ตกลงได้ยังไง
ยื่นอุ้งมือให้เขาอย่างเชื่อฟังทันที
“พี่คะ วันนี้พี่ไปเจอประพิศที่ไวท์ พาเลซ เขาพูดอะไรกับพี่คะ? ทำไมฉันได้ยินมาว่าคุณท่านก็ไปด้วย? เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ?”
“ไม่มี อย่าคิดมาก”
ชายหนุ่มผู้กำลังก้มหน้าจดจ่ออยู่กับการทำแผลใหม่ให้เธอเอ่ยปลอบเธออย่างใจเย็น
เส้นหมี่ได้ยินเช่นนั้นก็โล่งใจ
“แล้วเขาคุยอะไรกับพี่บ้าง?”
“ถามเรื่องลูกชายเขาว่าแอบทำอะไรลับหลังฉันใช่ไหม?”
ชายหนุ่มหลบตาโกหกโดยที่หน้าไม่แดง หัวใจไม่เต้นรัว ในขณะที่นิ้วเรียวของเขาก็พันผ้าก๊อซไปด้วย ท่วงท่าสง่างามราวกับสุภาพบุรุษ
เส้นหมี่เชื่อเขาอีกครั้ง
ช่วยไม่ได้ ทุกครั้งที่ผู้ชายคนนี้ต้องการจะโกหกเธอ ด้วยไอคิวของเขา เธอไม่มีทางที่จะต่อต้านได้เลยจริงๆ
หลังจากพันแผลที่มือใหม่เสร็จแล้ว เส้นหมี่ก็ถามเรื่องที่จะกลับเมืองAอีกครั้ง
ในครั้งนี้แสนรักยังให้คำตอบที่แน่นอนกับเธอว่า “ออกเดินทางพรุ่งนี้ ฉันให้ดลธีเตรียมเครื่องบินส่วนตัวบินจากเมืองAมาที่นี่แล้ว พอเครื่องบินมาถึงเราจะบินตรงไปที่นั่นเลย”
“โอเคค่ะ”
เส้นหมี่มีความสุขสุดๆ
เธอพุ่งตัวเข้าไปหาอ้อมแขนของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกดีใจสุดๆ เธอเขย่งปลายเท้าประทับรอยจูบของตนบนริมฝีปากชายหนุ่ม
แสนรัก “…”
ภรรยารุกขนาดนี้แล้ว
ในฐานะสามีก็ย่อมต้องตอบสนองอย่างกระตือรือร้นมากขึ้น
บ่ายวันนั้นเองคนใช้ที่เดอะวิวซีพบว่าคุณชายน้อยและภรรยาของพวกเขาหายไปอยู่ข้างบนนาน
และในตอนนั้นเองไชยันต์ต้องจัดการเรื่องของสมรมณ์วัลย์
“นีรวรรณ เธอทำให้ฉันต้องมองเธอใหม่จริงๆ ในหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอเปลี่ยนไปมากจริงๆ จากผู้หญิงฉลาด มีไหวพริบ รู้จักกาลเทศะ กลายมาเป็นหัวโจ๊กที่คอยนำในเรื่อง ทำไม? ที่แท้เมื่อก่อนเธอใส่หน้ากากแสร้งทำมาตลอดหรอ?”
พอไชยันต์เห็นนีรวรรณที่ถูกคุมตัวมาคุกเข่าลงกับพื้นก็โกรธจัด
ถ้าไม่ใช่เพราะประพันธ์พี่ชายเขาคนที่ยืนอยู่ข้างๆที่รีบมาจากสมรมณ์วัลย์เพื่อมาขอความเมตตาให้ผู้หญิงคนนี้ ไม่แน่ว่าเขาอาจให้คนลากตัวไปหักขาตั้งนานแล้วก็ได้
“ไม่…ไม่ใช่นะคะ อารองคะ ฟังหนูก่อน หนู…หนูไม่ใช่คนแบบนั้น”
พอนีรวรรณได้ยินเขาถามเช่นนั้น หน้าเธอก็ซีดไปครึ่งหนึ่งแล้ว
แต่คนอย่างเธอนั้นเจ้าเล่ห์จนเป็นนิสัย บวกกับในใจยังไม่ยอมแพ้ ดังนั้นเธอจึงชิงปฏิเสธก่อนที่จะได้หลักฐานที่ชัดเจน
“อารองคะ ก่อนหน้านี้เป็นความผิดหนูเอง ด้วยความผิดนี้หนูก็ถูกกักบริเวณมาครึ่งปีแล้ว แต่ว่าอารองคะ ครั้งนี้จะโทษหนูไม่ได้จริงๆนะคะ เพราะน้องสะใภ้ทั้งสองคนเป็นคนวิ่งมาบอกหนูว่าเดอะวิวซีจะให้เงินติดกระเป๋าแค่ห้าแสนต่อเดือน หนูเลยมาที่นี่ค่ะ”
“500,000?”
ไชยันต์ที่ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนรู้สึกแปลกใจกับตัวเลข
500,000?
เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าแต่ละครอบครัวจะได้เงินเกือบห้าล้านไม่ใช่หรือ? ทำไมพอเด็กคนนี้รับช่วงต่อถึงได้ตัดออกได้อย่างโหดร้ายเช่นนี้? เหลือเพียงหนึ่งในสิบเอง?
ขอบตาไชยันต์กระตุก
โชคดีที่ตอนนั้นเองรองผู้นำเดชาที่อยู่ข้างๆเข้ามาอธิบายให้ฟัง “คืออย่างงี้ครับนายท่าน ห้าแสนนี้คุณผู้หญิงไปสำรวจมาแล้วว่าพอกับรายจ่ายหลายปีมานี้ของสมรมณ์วัลย์”
“ทำไมน้อยล่ะ? เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าให้สี่ห้าล้านไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ครับ แต่หลังจากที่คุณผู้หญิงไปสำรวจมาพบว่าค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันใช้เพียงห้าแสน ส่วนเงินที่เหลือเป็นเงินที่เมื่อก่อนท่านทั้งสองใช้ทำธุรกิจ ดังนั้นคุณผู้หญิงบอกแล้วว่า ตอนนี้ไม่ทำธุรกิจ เงินก็จะเหลือแค่ห้าแสนนี้”
“…”
พอได้ฟังประโยคนี้ใบหน้าของนายท่านก็ตึงขึงด้วยความโกรธ!
ธุรกิจอะไร?
คนหนึ่งค้ายา อีกคนก่อความวุ่นวายในค่ายทหารจนเกือบทำให้ตระกูลเทวเทพของพวกเขาเสียหาย แล้วยังมีหน้าจะมาบอกว่าเป็นการทำธุรกิจ?
ไชยันต์ถลึงตา “ห้าแสนก็พอแล้ว ฉันว่าคนที่ความสามารถที่จะทำให้งานสำเร็จนั้นมีไม่พอ แต่ความสามารถที่จะทำลายงานนั้นมีอยู่เหลือเฟือแบบพวกแก ให้แสนเดียวก็มากเกินพอแล้ว!”
“อารอง–!”
“น้องรอง!!!”
ประพันธ์และลูกสาวส่งเสียงร้องออกมาแทบจะพร้อมกัน
แสนเดียว แสนเดียว พวกเขาไม่ต้องอดตายเลยหรอ?
ในที่สุดประพันธ์ก็ตื่นตระหนกสุดๆ เขาไม่สนใจที่จะร้องขอความเมตตาให้ลูกสาวแล้วมาวิงวอนเรื่องนี้แทน “น้องรอง แสนเดียวพวกเราจะพอใช้ได้อย่างไร? พวกเราใช้เงินวันละหลายหมื่น”
“พวกแกทำไม่ได้? แล้วทำไมลำธารณีณถึงทำได้? วันละหลายหมื่น จ่ายค่าอะไรกัน? วันนึงเดอะวิวซีก็ไม่ได้ใช้จ่ายมากขนาดนั้น แกใช้จ่ายฟุ่มเฟือยขนานนั้นเลยหรอ?”
ไชยันต์โกรธมาก เขาเอ่ยปากตะคอกเสียงดัง
เขาที่อยู่ในกองทัพมานานหลายสิบปีจึงได้ฝึกนิสัยที่ดีอย่างการอยู่อย่างเรียบง่ายประหยัดได้ตั้งนานแล้ว ดูจากรถคันนั้นที่เขานั่งก็รู้แล้ว
ประพันธ์ถูกดุจนไม่กล้าพูดออกมา
เมื่อเหลือบมองดูลูกสาวที่กำลังมองเขาอย่างน่าสงสาร ในที่สุดเขาก็กัดฟันคุกเข่าลงต่อหน้าน้องชายท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย
“แก–”
“ได้ หนึ่งหมื่นก็หนึ่งหมื่น งั้นปล่อยลูกนีไปได้ไหม? ลูกชายสองคน หลานชายหลานสาวสามคนของฉันตายไปหมดแล้ว น้องรอง ฉันขอร้องให้แกปล่อยเธอไปเถอะ ถ้าเธอหายไปอีกคน ฉันคงอยู่ไม่ได้จริงๆ”
เขากลายเป็นคนฉลาดขึ้นชั่วพริบตา
ใช้ประโยชน์จากการที่ถูกกดขี่ทางการเงิน แล้วหันมาขอความเมตตาให้ลูกสาวแทน
พอไชยันต์ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะใจอ่อนลงทันที
ครอบครัวของพี่ชายเขาเป็นความเจ็บปวดในใจเขาจริงๆ ทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนี้
ขณะกำลังจะเอ่ยปาก
แต่ในตอนนั้นเองจู่ๆโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหน้าเขาก็สั่นขึ้น มีข้อความถูกส่งมา
[ไอ้เด็กทรพี: เพียงแต่วันนี้เธอสามารถออกจากประตูนี้ได้ ฉันรับรองว่าพรุ่งนี้จะสับเธอให้ละเอียดแล้วโยนให้หมากิน!]
[!!!!]