ยั่วรักประธานเย็นชา (NC+) - 106 หาเรื่องตาย
ตอนที่ 106 หาเรื่องตาย
กิรณาออกไปจากโรงอาหาร เธอเดินไปที่ออฟฟิศของ กิตติพร้อมกับอาหารที่ห่อไว้
“คุณเลขากิตติ อยู่ไหมค่ะ?”
พอกิรณาเดินมาถึงหน้าออฟฟิศ เธอก็เคาะประตูอย่าง
เบาๆ
กิตติกับขวัญชีวีที่กำลังทำอะไรกันในออฟฟิศพอได้ยิน เสียงคนเคาะประตู ตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกิตติ สีหน้าเขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
กิตติถอยออกจากตัวขวัญชีวีอย่างไม่ลังเล แต่งหน้าแต่ง ตัวอย่างรวดเร็วฉับไว และก็นำขวัญชีวีที่กำลังแก้ผ้าอยู่ไป แอบที่ข้างล่างโต๊ะทำงาน เอาเก้าอี้หนังแท้ของเขามาบังไว้ ค่อยเดินไปเปิดประตู
“ผู้จัดการณา มีอะไรไหมครับ”
กิตติพยายามที่จะใช้ถ้อยคำทางการในการพูด
เพราะเขากลัวว่าขวัญชีวีที่แอบอยู่ข้างล่างโต๊ะรู้เรื่อง ภรรยาของเขาแล้ว จะมุดออกมาปั่นป่วน
ถึงเขาจะชอบร่างกายของขวัญชีวี แต่คนที่เขารักคือกิรณา ภรรยาของเขา เพราะว่ากิรณาเป็นผู้หญิงและภรรยาที่ผู้ชายยอมทุ่มเทความรักให้ นอกจากบ้างานแล้ว กิรณาแทบจะ
ไม่มีข้อเสียอะไรเลย
กิรณาตกใจกับสีหน้าที่เคร่งขรึมของกิตติ ปกติพอไม่มี คน กิตติจะชอบเซ้าซี้เธอ เรียกเธอว่าเมียจ๋าเมียจ๋า มือทั้งคู่ก็ ชอบหยอกเล่นและจับโน่นจับนี่ แต่ครั้งนี้
แต่ว่า แบบนี้ก็ดี เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเพื่อนร่วมงานมา
เห็น
ถึงเวลานี้ ไม่คิดเลยว่ากิรณาจะไม่รู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป
หรือ นี่ก็คือที่เขาชอบพูดกัน ผู้หญิงที่ฉลาดและทำงานเก่ง ความฉลาดทางอารมณ์มักจะเป็น 0
“ฉันเห็นคุณไม่ได้ไปกินข้าว เพราะฉะนั้น เลยเอาข้าวมา
ฝาก”
กิรณายิ้มและยื่นข้าวที่อยู่บนมือให้กิตติ “ขอบใจ!”
กิตติยื่นมีอรับข้าว ดวงตาแสนดีที่เสแสร้ง ก็ได้เปลี่ยนเป็น ความรู้สึกผิด แต่เสียดายที่หนังตาเขากลบอยู่ กิรณาไม่มี ทางที่จะเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของเขา
“คุณย่ง ฉันไปก่อนล่ะ”
กิรณายิ้มและพยักหน้า ก่อนที่จะหันหลังและเดินจากไป
“กิรณา…
ก็ตเผลอเอ่ยออกมา เมื่อมองไปที่รอยยิ้มที่สวยสะอาด
ของภรรยา
“หืม?”
กราหันกลับมามองไปที่กิตติ “มีอะไรอีกเหรอ?”
“ไม่มีอะไร”
กิตติรีบส่ายหัว ตอนนี้ กิรณาออกไปยิ่งเร็วยิ่งดี ทันใดนั้น เขาก็เริ่มด่าตัวเองในใจว่าทำไมเมื่อกี้ถึงทำอะไรโง่ๆไป
กิรณาไม่ได้สงสัยอะไร หันหลัง และก้าวเดินออกไปอย่าง
นวยนาด
กิตติปิดประตู มองไปบนมือที่มีข้าวอุ่นๆอยู่ ในใจรู้สึก หงุดหงิด
ขณะนี้ พอขวัญชีวีเห็นว่าไม่มีคนแล้ว เธอก็คลานออกมา จากโต๊ะทำงานเห็นกิตติจู่ๆเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอเลยพูดออกมาอย่างเสียอกเสียใจว่า “ผู้จัดการณาเป็น ใคร? ฟังจากเสียงน่าจะเป็นหญิงแก่อายุ30กว่าปี ทำไมเขา ถึงเอาข้าวมาให้ หรือว่า พวกคุณแอบรักกันเหรอ?”
ขวัญชีวีไม่ได้ใช้ช่องทางที่ถูกต้องในการเข้าทำงาน เพราะฉะนั้น เธอเลยไม่เคยเจอกิรณาที่เป็นผู้จัดการฝ่าย บริหารสำนักงาน
เมื่อได้ยินสิ่งที่ขวัญชีวีพูดแล้ว กิตติก็ขมวดคิ้ว เดินไปข้าง หน้า ดึงที่คางของขวัญชีวี และพูดด้วยสีหน้าที่มืดหมองว่า “เธอว่าใครแก่นะ? อายุสามสิบแล้วไง? เธอรู้ไหม ถ้าเอาเธอ เทียบกับเขา เธอก็คือผู้หญิงที่สฤนและไร้มารยาทที่เรียก มาบริการความสุขตอนไหนก็ได้ ส่วนเขา ก็คือเจ้าหญิงที่ สวยสง่าเคร่งขรึมสูงส่ง เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเทียบกับเธอด้วย ซ้ำ อย่าพูดว่าแค่เทียบกับนิ้วของเธอยังเทียบไม่ขึ้น จะถือ รองเท้าให้เขา เธอยังไม่มีคุณสมบัติที่เพียงพอเลย”
ขวัญชีวีไม่เคยได้ยินคำด่าที่โหดร้ายเท่านี้มาก่อน ยิ่งไป กว่านั้นคำด่าพวกนี้ยังมาจากปากของผู้ชายที่เพิ่งมีอะไรกัน กับเธอ ในโลกนี้คงไม่มีคำด่ากราดไหนที่ถึงพริกถึงขิงจน ทำให้ผู้หญิงจะเป็นบ้าได้ขนาดนี้แล้ว
“กิตติ นายมันไอ้คนระยำ นายแม่งไม่ใช่ผู้ชาย ถ้าผู้หญิง คนนั้นมันดีขนาดนี้ แล้วทำไมนายไม่ไปหามันล่ะ จากนี้ไป นายอย่าคิดที่จะมาแตะต้องฉันอีก ไปตายซะ”
ขวัญชีวีโกรธจนถึงที่สุดแล้ว เธอยกและโยนจานข้าวที่วาง อยู่บนโต๊ะทํางานของกิตติลงบนพื้นอย่างโกรธแค้น แล้วยัง ใช้เท้าขยี้ไปอีกสองสามที ข้าวกลางวันที่มอบให้ด้วยความ รักจากกิรณา เละเทะไปทั้งพื้นในทันที
หารู้ไม่ เธอจะพังอะไรก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ห้ามพังข้าว กลางวันทีกิรณาตั้งใจเอามาเด็ดขาด
และแล้ว กิตติก็โกรธขึ้นมา
ตอนแรกเขาก็หงุดหงิดอยู่แล้ว พอโดนขวัญชีวียุแบบนี้ เขาก็โกรธจนบ้าคลั่ง
“แม่งเอ้ย ไอ้กะหรี่ แค่ทำดีใส่นิดหน่อยก็คิดว่าตัวเองเป็น อะไรจริงๆเหรอ หาว่าฉันไม่ใช่ผู้ชาย ให้ฉันไปตาย เหอะ ฉัน ว่าเธอนั้นแหละหาเรื่องตาย”
กิตติมือหนึ่งบีบไปที่คอของขวัญชีวีด้วยสายตาที่โหด เหี้ยม อีกมือหนึ่งฉีกเสื้อขวัญชีวีขาดอย่างบ้าคลั่ง