ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น - ตอนที่ 130
ป่ย จะไปที่ไหนกันแน่นะ
สายตาเขามองเธอที่ก้าวเดินออกไปจากเขตเมือง ทันใด น้นเธอโบกรถคันหนึ่ง ยศพลให้นิรัน สะกดรอยตามเธอ จากข้างหลังไปอย่างใกล้ชิด
เขารู้จักนิสัยดื้อรั้นหัวแข็งของเธอดี มันเป็นสิ่งที่เขาไม่มี วิธีที่จะหยุดมันได้
แต่ที่ทําให้รู้สึกละอายกว่าเดิมก็คือ เมื่อกี้เขาพูดผิดไป แต่ จําเป็นจะต้องไปขอโทษเธอมั้ยนะ
“ครินิน คริน… ” เสียงคำรามของฟ้าร้องดังขึ้นมา รถแท็กซี่ ค่อย ๆ ไกลจากตัวเมืองออกไป
คุณชายครับ รถคันนั้นน่าจะไปที่สุสานครับ” นิรันดจีพีเอส ที่อยู่หน้ารถ
ยศพลไร้สีหน้า แค่มองไปข้างหน้าอย่างซื่อ ๆ
นิรันรีบหุบปาก แล้วขับตามหลังรถคันนั้นไปติด ๆ
“ลุงคะ รบกวนคุณลุงหยุดรถหน่อยค่ะ ฉันจะลงรถตรงด้าน หน้าของสุสานค่ะ”
คนขับหยุดรถ รับเงินจากจาร มา และถามเธออย่างเป็น ห่วงว่า “แม่สาวน้อย ตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้ว อีกอย่างฝนก็จะ ใกล้ตกแล้วด้วย หนูไปสุสานคนเดียว มันไม่ค่อยจะปลอดภัย เอานะ”
จารบีบ ขอบคุณคุณลงที่เป็นห่วงนะคะ ฉันไม่เป็นไร หรอกค่ะ เธอลงจากรถ แล้วหันไปปิดประตู จากนั้นเดิน ไป
งดอน ยอดเขาคนเดียว
ท่ามกลางท้องฟ้าบรรยากาศที่มีฟามัวดิน สุสานที อ่านว่าง ป้ายสุสานสีขาวออกเทา มีความขมุกขมัว ทีนี่มัน ยางเงียบงันและน่าสยดสยอง
ข้างล่างของป้ายสุสานทุกป้าย จะมีวิญญาณที่เงียบสงบ อยู่ ที่นี่ เป็นแหล่งที่พักพิง สุดท้ายของเราทุกคน ไม่ว่า ก่อนเสียชีวิต คนเราจะยิ่งใหญ่หรือต่ำต้อยเพียงใด ก็ล้วนจะ ต้องมานอนอยู่ใต้ดินที่มืดครึ้มและหนาวเย็นแห่งนี้
จารวี มอย่างขม ๆ ก้าวทีละก้าวไปยังป้ายสุสานของยุพิน
เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาที่นี่
เธอหยุดอยู่ตรงหน้าหลุมศพของยุพิน
ข้างหน้าของหลุมศพ มีดอกเบญจมาศสีขาวสะอาดหนึ่ง ช่อ หลังจากถูกลมฝนพัดปลิว ก็เหี่ยวเฉาร่วงโรยไป
บนป้ายหลุมศพ มีรูปของยุพินที่เป็นสีขาวดำ ในรูปยุพิ นยังคงดูสวยเหมือนสมัยยังสาวๆ มีรอยยิ้มที่จืดจาง บน รูปภาพมีฝุ่นสีจาง ๆ ปกคลุมอยู่ จารวีนั่งลงและกอดป้ายหลุม ศพนั่น ยื่นนิ้วมือเล็ก ๆ บาง ๆ ลูบสัมผัสไปรอบๆ เพื่อ เช็ดฝุ่น ที่เกาะอยู่ พลางรําพึงรําพันตลอดเวลา “พิน ฉันมาหาพี่ แล้ว พี่อยู่ที่นี่เหงารึเปล่า
ไม่มีใครตอบเธอ มีเพียงลมที่พัดหมุนใบไม้ปลิวว่อนอยู่ใน
อากาศ
พฟน วิตก ทรมานเหลือเกิน ทรมานมากเลยจริงๆ ทํา สามารถป้อนเวลากกันไปได้ ป้อนกลับไปในงานหมั้นวัน นั้น ของพี่ ไม่ไปงานหมั้นของพี่พื้น บางทีเรื่องราวของเรา สองคนในตอนนี้ ก็อาจไม่เหมือนกับในตอนนี้แล้ว ก็ได้
“พี่พิม พี่ฉลาดขนาดนั้น พี่รู้ทุกอย่าง แต่กลับไม่พูดอะไร ออกมาเลย พี่พันบางทีวีก็เกลียด เกลียดพี่ ทําไม ไม่ บอกทุกอย่างให้ รู้เร็วกว่านี้ จะได้ไม่ต้องไปตกอยู่ในหน้าผา ที่ลึกหาที่สิ้นสุดมิได้แบบนี้”
“พี่พิม พี่บอกวีที ว่าวีต้องทำยังไง จะต้องทํายังไงกับเด็ก ในท้องของวิดี”
นํ้าตาที่พร่างพราวไหลลงมาตามใบหน้าเล็ก ๆ ซีดขาว ของจารวี เธอรู้สึกสับสนงุนงง อนาคต าง ดม เหลือ เกิน
ในทีอันห่างไกล ร่างของยศพลยืนพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง สวม ชุดสูทสีด่าพอดีตัว เขาก็ยืนพิงอยู่อย่างนั้น ใบไม้สี เหลือง ร่วงลงมาบนตัวและบนหัวของเขา เขาไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น สายตาคู่ ดูเจ็บปวด มีความทรมานใจจากความ แค้น ความ ละอายใจ และยังมีความห่วงใยเล็กน้อย มองไปยังร่างหนึ่งที่ อ้างว้างเดียวดายอยู่ที่ห่างไกลอย่างไม่ กระพริบตา
ในระหว่างงามนิ้วที่เรียวยาวของของมีบุหรี่หนึ่งมวนที่จุด ไฟแล้ว เดิมทีนั้นเขาสูบบุหรี่ไม่เก่ง แต่วันนี้เขาสูบสี่ห้าม วน ติดกัน เขารู้สึกเหมือนในปอดมีกรงเล็บของปีศาจมาเกาปอด ของเขาอยู่
บางที ณ เวลานี้ ก็มีแค่บุหรี่ที่เข้าใจอารมณ์ของเขาได้
เขาห่างกับเธอเพียงไม่กี่ก้าว เขาอยากจะเดินไปหาเธอแล้วพูดว่า “ถ้าเขตโทษ ฉันฝืดไปแล้ว ได้โปรด..เธอช่วยยก โทษ ให้ค้าจะได้รับ
แต่ว่า เนื่องด้วยศักดิ์ศรีของตัวเอง เขาก้าวไม่ออก ยังคง มองเธอด้วยสายตา ที่มืดมน
“ครินน ศรีนนน…” เสียงฟ้าร้องยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้น เหมือนระเบิด อยู่บนหัว ลมก็เริ่มพัดแรงขึ้น
สายตาของนิรันผู้ที่เฝ้ารออยู่ที่ประตูสุสาน มองไปที่สอง คนนี้อย่างกลุ้มใจ
ก็เห็นชัดอยู่ว่าสองคนนี้รักกันอย่างลึกซึ้ง แต่ทำไมต้อง
ตกไปอยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ด้วย “พี่ฟัน พี่ว่า หรือว่า ไม่ต้องเอาเด็กในท้องไว้ดีนะ”
จารวีวาดวงกลมด้วยมือไม้ที่อ่อนแรง เธอไม่รู้ว่าควรจะทำ อย่างไรดี เธอต้องการมีคนสักคนมาบอกเธอ ว่าเธอควรจะ ทําอย่างไรดี
แต่ก็ไม่มีใครตอบเธอกลับมา
เธอเอามือลูบตรงท้องของเธอ เธอทิ้งไม่ได้ ทิ้งเด็กคนนี้ ไปไม่ได้จริง ๆ
นั่นเป็นชีวิตน้อยๆ เธอไม่สามารถที่จะเก็บเด็กไว้ได้จริงๆ
เหรอ
“ชาาาา…
ทนไต น ฝนเทกระหน่ำลงมานานถึงต้นเหล่า ฝนที่เท กระหน่ำลงมานั้น เหมือนท้องฟ้าถูกแทงเป็นหลุม น้ำฝนก็
อยๆ ฟังตกลงมาอย่างหนัก
อารยใบหน้าเล็ก ๆ นมาอย่างงุนงง มองไปยังท้องฟ้า ที่มืดมัว สายฝนทําให้สายตาของเธอมองไม่ค่อยชัดเจนไป ข้าขณะ
“ยัยโง นี่เธอตั้งใจจะหาเรื่องมาตายเรอะ..”
เสียงที่ดูอารมณ์ร้าย ร่างสูงใหญ่ใกล้ลงมา เธอก็ถูกห่อ คลุมตัวด้วยสูทสี อย่างแน่นสนิท
จารวีถูกยศพลอุ้มขึ้นมาและวิ่งลงจากภูเขาโดยที่เธอไม่รู้ สกรู้สา
บนพื้นที่เต็มไปด้วยน้ำฝนผสมกับดินและใบไม้ที่ร่วงลงมา ทําให้ถนนเป็นโคลนและลื่น
ยศพลเดินอย่างเร่งรีบ โดยไม่ได้ระวังโคลนที่อยู่เต็มพื้น เขาที่กำลังอุ้มจาร วีไว้อยู่ ทันใดนั้นก็ลื่นล้มลง
เขาพยายามที่จะจับเธอเอาไว้ แต่เธอก็กระเด็นห่างออก ไประยะหนึ่ง เธอไปชนกับป้ายสุสานป้ายหนึ่ง
วี วี ทําไมเธอถึงโง่แบบนี้ ….
ยศพลลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยไม่สนว่าทั้งตัวเปื้อน โคลน จากนั้นก็โถมตัวไปอุ้มจาร
ผมที่เปียกโชกของจารวีบดบังใบหน้าเล็กๆของเธอไปครึ่งซีก โผล่ให้เห็นตาโต ๆ อย่างชัดเจน เธอมองยศพลอย่างเจ็บ ปวดทรมาน “ฉัน…ฉันเจ็บท้อง”
ในใจของยศพลตกใจไปชั่วขณะ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ทุกข์ ทรมานของจาร ทําให้เขารู้ถึงความรุนแรงของอาการเจ็บ ปาต
เขาอุ้มจารวีขึ้นมาในท่านอน เพื่อให้อยู่ในอ้อมอกอย่าง แน่นหนา “ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่นี่…”
เขารีบวิ่งพุ่งออกไปนอกสุสานอย่างบ้าคลั่ง สายฝน เหมือนดั่งแสที่เขียนลงมาบนตัวเขา เสียงพูดของเขา แทบจะ ถูกเสียงสายฝนกลบไป
“นิรัน นิรัน เร็วเข้า…
นิรันหยิบร่มออกมาจากรถ แล้ววิ่งตรงไปหายศพล นิรัน ยังเดินไปไม่ถึง ยศพลก็เข้าไปในรถได้แล้ว
นิรันปิดประตูรถ แล้วกลับไปที่นั่งฝั่งคนขับ
ยศพลกอดจารวีที่เปียกโชกไปทั้งตัว “ไม่สบายตรงไหน
มั้ย”
ท้อง..” จารวีเจ็บจนขดตัว เธอเจ็บราวมีมีดมาทิ่มแทงใน ท้องของเธอ ในท้องน้อยมีสิ่งรบกวนอย่างไม่หยุด
ยศพลประคองส่วนขาของจารวี ฝ่ามือของเขารู้สึกถึง ความอุ่นที่แผ่กระจายออกมา
ยศพลดึงฝ่ามือของตนออกมา มีของเหลวสีแดงเต็มฝ่ามือของเขา เขาตกใจจนแทบจะทรุดลงไป
รีบไปโรงพยาบาล เข้า
ยศพลพูดด้วยเสียงโกรธเหมือนคํารามออกมาดั่งสัตว์ร้าย เร้นเหยียบคันเร่งจนมิดเท่าทันที รถพุ่งผ่านสายฝน ราวกับ
ฉันหนาว..”
จารวีหดตัว เธอรู้ล็กถึงความเย็นยะเยือกที่มาจากทุก
ทิศทาง
มีบางสิ่งกำลังจะจากเธอไป นั่นคือลูกรึเปล่า นั่นก็คือลูก ของฉันรึเปล่า จารวีรู้สึกกลัวกลัวจนร้องไห้ออกมา
อย่าไปจากแม่นะ อย่าไปจากแม่นะลูก ลูกแม่
จารวีหนาวจนตัวสั่นไม่ยอมหยุด น้าตาก็ไหลออกมา ราวกับนําที่ไหลทะลักออกมาจากเขื่อน ไม่ว่าเช็ดเท่าไหร่ก็ ไม่หมด
“จารวิ ยัยบี้อนี่ ถ้าเธอกล่าเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะไม่ปล่อย เธอไว้แน่”
ยศพลใช้พรมในรถห่อตัวจารวีไว้แน่น แล้วตะคอกใส่นิรัน โรัม แกขับรถประสาอะไร ขับซ้ายังกับเป็นหอย ทาก”
ฝนตกหนักแบบนี้ หลังจากขับเข้าไปในเมืองแล้ว นิรัน จําเป็นต้องลดความเร็วลง ถ้าเกิดขับรถต่อไปด้วยความเร็ว ขนาดนี้ จะต้องเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างแน่นอน
“นขายครับ ตอนนีฝนตกหนักมากเลยครับ…
เลิกพูดมาก แ ไสหัวไปซะ เดี๋ยวฉันขับเอง “
ยศพล จนิรันออกมาจากที่นั่งคนขับ แล้วเขา ขับรถด้วย
ตัวเอง
รถของยศพลแล่นผ่านทะลุท่ามกลางรถมากมายราวกับ เป็นทุ่นระเบิด นิรันจับที่โหนข้างประตูรถแน่นจนมือเปียก เหงื่อและเกร็งไปหมด
คุณชายครับ ขับแบบนี้มันเรียกขับรถซะที่ไหน นี่มันเรียก ได้ว่ากําลังจะไปตายซะมากกว่า
เขาไม่เพียงแค่เร่งความเร็ว แต่ยังขับฝ่าไฟแดง และขับ
แซงปาดรถคันอื่นๆ
รถที่ถูกขวางอยู่ข้างหลัง กดแตรอย่างไม่พอใจเสียงดัง รัวๆ โชคดีที่ฝนตกหนัก ตำรวจจราจรจึงมองไม่เห็น
เขาขับรถอย่างฉวัดเฉวียน จนไปหยุดอยู่หน้าทางเข้าโรง
พยาบาล
ยศพลไม่พูดอะไรสักคำ เขาอุ้มจาร ออกมาจากรถแล้ว วิ่งตรงเข้าไปในโรงพยาบาล
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ยศพลก็ถูกแพทย์เรียกเข้าไปในห้อง ตรวจ
คุณหมอผู้หญิงคนนี้ไม่เคยเห็นชายร่างสูงและหล่อเหลา ขนาดนี้มาก่อน เลยทนไม่ได้ที่จะมองหลายรอบ ทั้งตัว เปียกปอนและดจนตรอก ทําให้เธอรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
“คุณคือสามีของคนไข้ใช่มั้ยคะ”
ยศพลกังวลกับอาการบ่ายของจารวีมาก ถ้าเป็นเหมือน ตอนปกติ คนอื่นใช้น้ำเสียงนี้พูดคุยกับเขาเขา นานแล้ว ก็จะระเบิด ไป
ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้างแล้ว”
คุณหมอผู้หญิงเปิดประวัติคนไข้ของจารวี แล้วเริ่มต่อว่า บศพล “พวกเธอยังเป็นวัยรุ่นกันอยู่ ไม่มีความรับผิดชอบ เลยสักนิด แฟนของตัวเองตั้งครรภ์มาสองสามเดือนแล้วแต่ก็ ยังพาไปตากฝน แถมยังพาออกไปข้างนอก กลางค้ากลางคืน จริงๆเลยนะ แล้วอนาคตพวกเธอจะเป็นพ่อคนแม่คนกันได้ยัง
ยศพลตื่นตระหนกจนตาถลนออกมา เขาจ้องหมอผู้หญิง คนนั้นอยู่นาน “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ ตั้งครรภ์งั้นเหรอ”
หมอผู้หญิงสายหัว “เธอไม่น่าจะไม่รู้นะ ภรรยาของเธอ ตั้งครรภ์มาสองเดือนกว่าแล้ว ถ้าพวกเธอยังใช้ชีวิตกัน แบบนี้ อีก แฟนสาวของนายจะแห้งแน่ ๆ
ยศพล มกระชกคอเสื้อของคุณหมอผู้หญิง “นี่คุณไม่ได้ ดรวจพลาดไปใช่มั้ย”
คุณหมอผู้หญิงรู้สึกหวาดกลัวกับการตอบสนองที่น่า หวาดกลัวของยศพล เธอผลักด้ายศพลออกพลางขยับ แว่นตา “ไม่มีทางตรวจผิดอย่างแน่นอน แฟนของเธอเคยมา พบหมอเมื่อเดือนก่อน แล้วหมอนี่แหละวินิจฉัยให้ เธอเองว่าเธอตั้งครรภ์ ในตอนนั้นหมอจ่ายยาวิตามินบีให้เธอทานด้วย เธอมาดูนี่สิ ว่าใช่หรือไม่ใช่ “
หมอผู้หญิง เวชระเบียนในรายการจ่ายยาบนหน้าจอ
คอมพิวเตอร่
ยศพลพูดอย่างเย็นชา “เด็กในท้องไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะต้องทำแท้ง ต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อสังเกตการณ์ก่อน คุณต้องดูแลหล่อนดีๆ ไม่งั้น อาจจะ รักษาชีวิตของเด็กไว้ไม่ได้
ยศพลวิ่งไปที่ห้องผู้ป่วยโดยไม่พูดอะไร
จารนอนหลับใหลอยู่บนเตียงผู้ป่วยสีขาว
เนื่องจากเสียเลือดมาก ใบหน้าของเธอจึงขีดเผือก เหมือนกับว่าเธอจะฝันเห็นอะไรบางอย่างที่น่ากลัว มือทั้งสอง กําผ้าปูที่นอนไว้แน่น ผ้าปูที่นอนถูกเธอกำจนบิดเบี้ยวไปหมด
ตอนนั้นก็มีมือใหญ่ยื่นมากุมมือเล็ก ๆ ทั้งสองของเธอไว้ แน่น จากนั้นก็เอามือเล็กๆของเธอมาวางบนฝ่ามือของ เขา
ให้ฝ่ามืออันอบอุ่นของเขาเป็นที่พักพิงอันแสนสงบที่สุด ของเธอ
จารวีค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สิ่งที่เธอเห็นก็คือใบหน้าอันหล่อ เหลาเกินเบอร์ของยศพล ซึ่งอยู่ใกล้เธอมาก แววตาสีดำ ทั้ง สองมองเธออย่างวิตกกังวล
ไม่จริงน่า ไม่นึกเลยว่าเขาจะกังวลแบบนี้
เขาเคยแคร์เธอด้วยเหรอ จารวียังคงจัดระเบียบความคิด ของตัวเองไม่ได้ “นี่คือที่ไหน”
“โรงพยาบาล…หมอบอกว่าเธอท้อง…” ยศพลพยายามที่จะ ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตน เขาไม่เข้าใจว่า ทําไมเธอ ต้องปกปิดเรื่องที่เธอท้องด้วย
สองเดือนก่อน พวกเขาเลิกกันแล้ว ในตอนนั้น เธอกําลัง วางแผนจัดการงานแต่งงานกับมนต์ตรี
ทําไมเธอถึงต้องปิดบังถึงขนาดนี้ หรือว่าเด็กในท้องไม่ใช่ ลูกของเขา เป็นลูกของมนต์ตรีเหรอ
การอนุมานเชิงสมมติฐานแบบนี้ของยศพล ทําให้ความ หยิ่งศักดิ์ศรีในตัวเขาถูกบีบไปอยู่ในมุมอับ เขาอยากจะ เป็น
บ้า
ขนตาของจารวีเหมือนปีกผีเสื้อที่กระพือไม่หยุด และไม่ นานเธอก็หลับตาลง