ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น - ตอนที่ 133
คุณชยรพทานมื้อเย็นรียังคะ” น้าอามรินน้ำชาใส่แก้ว อย่างกระตือรือร้นแล้วนํามาเสิร์ฟให้กับชยรพ
ยาพร แก้ว ามา ยิ้มพลางพูดว่า “ทานมาเรียบร้อย
แล้วครับ
“ฮะๆ ค่ะ ตอนนี้สุขภาพร่างกายของคุณจารวีฟื้นตัวดีขึ้น เยอะแล้วค่ะ อีกสองสามวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ ตอนนี้คุณจารวีเบื่อๆอยู่พอดี คุณชยรพมาอยู่คุยเป็นเพื่อน ด้วย ดีมากเลยค่ะ”
น้าอามยิ้มพลางพูดกับขยรพ เธอหันหน้าไปหาจาร แล้ว ขยิบตาให้สองสามทีเพื่อบอกเป็นนัยว่าให้จารวีคุยกับชยรพ สักสองสามประโยค
บนใบหน้าของจารวีไร้ความรู้สึก เป็นเวลานานจึงจะผงก หัวให้น้าอาม น้าอามยิ้มให้ชยรพพลางพูดว่า “คุณชยรพระ เชิญนั่งก่อนค่ะ ฉันออกไปซื้อของก่อนนะคะ”
“อืม เธอไปทําธุระเถอะ” ชยรพรู้ว่าลูกสาวตนอยู่ในบ้าน ของคนอื่น แม้ว่าจะมีตำแหน่งสูงส่ง แต่ว่ารู้สึกโชคดีและ ขอบคุณที่ในบ้านดอยมีคนดูแลอยู่ตลอด ดังนั้นเขาจึงค่อน ข้างเกรงใจน้าอาม
หลังจากมองแผ่นหลังของน้าอามที่ค่อยๆเดินลับตาไป สองพ่อลูกก็นั่งจ้องตากัน
พ่อ อชุดสําหรับเด็กมาด้วย แล้วก็ยังมีของเล่นเยอะ
แยะมากมายเลย….”
*ไมเอาค่ะ… จารวีพูดขึ้นมาเพื่อขัดจังหวะเป็น ชา บนใบหน้าของ
ยังไงในอนาคตก็ต้องได้ใช้…” ออกมาอย่าง
มั่นใจ
“ไม่เอาค่ะ… ” จารวีพูดกระแทกเสียงหนักขึ้น จากนั้นก็มอง ไปทียรพอย่างเสียดสีและถากถาง
พ่อคิดว่าลูกของบ้านโพธิสูงจะขาดเสื้อผ้าใส่ไม่มีอาหาร เหรอคะ
บ้านโพธิสูงเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเอส ลูกหลาน ตระกูลนี้จะมีของกินของใช้ขาดเหลือหรือยังไง พูดของ ไม่ผิดเลยสัก
ชยรพรู้สึกอึดอัดทําตัวไม่ถูกเป็นอย่างมาก บรรยากาศใน ห้องคนไข้กลับไปสู่ความเงียบอย่างรวดเร็ว
พ่อรู้นะ ถึงฉันจะไม่ใช่พ่อของเธอตามสายเลือด แต่ว่า หลังจากที่เธอเกิดมา ฉันก็เลี้ยงดูเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆของ ตัวเอง ฉันดีกับเธอและแม่ของเธอนะ”
ความทรงจำในวัยเด็กเหมือนจะไม่อยู่ไกลนัก จากที่ความได้ พ่อก็ยังเป็นพ่อที่ไม่เลว
ทุกครั้งที่เขากลับมาจากการเดินทางเพื่อธุรกิจ เขา จะนําของขวัญติดมือมาให้จารวีทุกครั้ง บางครั้งก็เป็นรถไฟ ขบวนเล็ก ๆ บางครั้งก็เป็นลูกกระต่ายที่น่ารัก ที่จําได้ชัดเจน ที่สุดคือหนังสือนิทานของ หนังสือเล่มแต่ เพื่อนร่วมชั้นเท่านั้นที่มีและไม่มีอยู่ในร้านหนังสือของเมืองเอส แต่จารวีพูดกับพ่อของเธอทางโทรศัพท์แค่คำเดียว ก็นึก ไม่ถึงเลยว่าพ่อจะบินไปปักกิ่งเพื่อซื้อหนังสือเล่มนั้นมาให้เธอ
นั่นเป็นความประทับใจที่ลึกซึ้งที่สุด
ตอนยังเด็ก พ่อก็มักจะกอดเธอไว้บนเข่า “เป็นเจ้าหญิง ที่สวยที่สุดในบ้านของเรา…
ในตอนนั้น เธอมักสวมชุดเจ้าหญิงพร้อมผ้าโปร่งนุ่มๆ วิ่ง ไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น พ่อยังสอนให้เธอเล่นเปียโนและวาดรูป ระบายสี…
จาร จําได้ พ่อเคยสอนให้เธอเขียนคำว่ารักเป็นคาแรก
ให้เธอรักพ่อ รักแม่ รักคนรอบคนรอบข้าง
ความทรงจําค่อยๆปรากฏออกมาพร้อมน้ำตาที่หยดลงมา
จากดวงตาเหมือนเม็ดคริสตัล ที่แท้ความทรงจําเกี่ยวกับพ่อ ไม่ได้แปลกหน้าแปลกตาขนาดนั้น “ได้ งั้นพ่อบอกวีได้มั้ย ว่าแม่ตายยังไง ทําไมพ่อถึงปิดบัง
มาตลอดหลายปี
เห็นได้ชัดว่าช รพไม่สามารถตอบคําถามของจารวีได้ ทันที ใบหน้าของเขาเป็นสีเทาไปในชั่วขณะ
“วี เรื่องนี้น่ะ ไม่ต้องถามแล้ว แม่ของ วีไม่อยากให้รู้ เรื่องนี้หรอก ให้เรื่องทั้งหมดมันเป็นอดีตไปซะเถอะ ตอนนี้ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขก็ดีแล้ว วิญญาณของแม่ ในสวรรค์จะต้องปกป้องคุ้มครองวีนะ”
จารบังคงดื้อรั้นต้องการที่จะรู้คำตอบให้ได้ “การตาย ของแม่เกี่ยวข้องกับคุณ คุณถึงได้ปิดบังมาตลอดหลายปี คุณกำลังหลอกตัวเองหรือหลีกเลี่ยงความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ของตัวคุณเองอยู่ใช่มั้ย…
** ไม่ต้องพูดแล้ว… ใบหน้าของซยรพดูแทบไม่ได้แล้ว อดีตนั้นหนักเหลือเกินจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก
“ถ้าคุณไม่บอกความจริงกับฉัน ฉันจะไม่ให้อภัยคุณไป ตลอดชีวิต”
แม่ก็ตายแล้ว พี่สาวก็ตายแล้ว ลุงก็ตายแล้ว พ่อเป็น คนสุดท้ายที่รู้เรื่อง ถ้าพ่อไม่ยอมบอก เรื่องนี้ก็จะจมลงสู่ มหาสมุทรไปตลอดกาล
ชยรพเงยหน้าขึ้นมาอย่างทุกข์ทรมาน
มันเป็นความจริงที่ย้อนกลับไปไม่ได้
ยี่สิบกว่าปีก่อน ชยรพมีครอบครัวที่มีความสุขที่สุดใน
เมืองเอส
ภรรยาของเขาธนิดาเป็นสาวสวยที่งานดีและดังที่สุดใน คลับเซน เป็นที่รู้จักในชื่อ”เจนนี่น้อย”เธอร้องเพลงเพราะ มาก หน้าตา ก็งดงามละเอียดอ่อน รูปร่างที่เล็กและการเต้นที สวยงามทําให้ผู้ชายในเมืองเอสหลงเธออย่างบ้าคลั่ง
แต่ว่าธนิดาก็ยังเคารพในหลักการของตัวเอง เธอโชว์ การแสดงเพียงอย่างเดียว ไม่คิดจะขายตัวว่าเรอใคร เพราะ เหตุนี้จึงไม่มีใครจีบไปจนถึงสุดทาง
จนกระทั่งวันหนึ่ง ธนิดาพบชอรพ ทั้งสองคนตกหลุมรัก ตั้งแต่แรกเห็น ธนิดาได้เงินจํานวนหนึ่งมาจากการแต่งงานกับ
หลังแต่งงาน ชยรพก็ไม่ได้ทําตามความคาดหวังของธน คา เขาทําธุรกิจของตนให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็ได้ก่อ ตั้งบริษัทยาหวนจํากัดขึ้น
แต่ว่าเพื่อจะทำให้กิจการรุ่งเรืองขึ้น ชยรพจึงหมกมุ่นอยู่ กับงานมากขึ้นทุกวัน
แต่ธนิดาที่ยังเยาว์วัยและสวยงามนั้นได้รับการดูแลจาก ยงยศ ชายผู้เป็นเพื่อนสนิทของชยรพ
ในตอนนั้นยงยศ สุภาพอ่อนโยน เป็นคุณครูอยู่ที่ โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง เขาอยู่ด้วยกันกับรนารีย์และ มนต์ตรี ผู้เป็นภรรยาและลูกชายของเขา บ้านของยงยศและ ชยรพมีคําแพงกันอยู่
ยิ่งไปกว่านั้นทั้งธนิดากับรนารี กลายเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ อย่างรวดเร็ว
ทั้งสองครอบครัวใกล้ชิดกันมากขึ้นเพราะมิตรภาพแบบนี้ หลังจากธนิดาให้กำเนิดจารวี ลูกของทั้งสองครอบครัวก็สนิท สนมกันมากเช่นกัน ในเวลานั้นชยรพยังวางแผนที่จะรอให้ จารวีโตก่อน แล้วยกให้เป็นลูกสะใภ้ตระกูลช้า
ความสุขแบบนี้ยืนหยัดไม่ได้นาน มีครั้งหนึ่งซยรพไปตีม กับลูกค้าสองสามคนที่ผับแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเพราะว่าเขาดื่ม เยอะเกินไป จนทำให้เกิดเรื่องทะเลาะกันกับลูกค้า ในตอนที่ เกิดเรื่อง นึกไม่ถึงเลยว่าลูกค้าคนนั้นจะเปิดเผยจุดอ่อนของชนฯ อย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย
“ชมรพ นายอย่าได้ใจไปเลย ที่นายอยู่ได้ก็เพราะพึ่งเงิน ได้จากการขายตัวของเมียนายมั้ยล่ะ นายคิดว่าไม่แปลก ที่บริษัทอย่างบริษัทของนายจะมารวมกันกับบริษัทของ น 1 นายมันไอ้แมงดา ที่เกาะเมียกินไม่ใช่รึไง”
ทั้งสองคนยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ชยรพคว้าปกคอ เสื้อของลูกค้าคนนั้นไว้แน่น “คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ ภรรยาของ ผมเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์”
” บริสุทธิ์เหรอ นายกล้าพูดมั้ยว่าในคืนที่เข้าหอหล่อนได้ ให้ความบริสุทธิ์แก่นายน่ะ” ยังพูดเสียงของลูกค้าคนนั้นก็ ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาและ เสียงดัง
เห็นชัดอยู่ว่าเมียของนายแสร้งว่าบริสุทธิ์ ใครจะไปรู้ว่า แค่จ่ายเงินเยอะหน่อยก็ขึ้นคร่อมได้ละ ”
คนคนนั้นยิ่งพูดก็ยิ่งพูดตรงมากขึ้นเรื่อยๆ ชยรพโกรธ ดังไฟที่เผาไหม้ เขาหยิบขวดเหล้าขึ้นมาแล้วทุบไปทีหนึ่ง สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ถูกลูกค้าอีกสองคนจับแยกจึงจะต่อสู้กัน ต่อไปไม่ได้
แต่ว่า สภาพจิตใจของชยรพกลับย่ำแย่มาก ตลอดมา มัน เหมือนกับว่ามีตะปูเล็กๆอยู่ภายในใจของเขา
เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นเพ ราะธนิดาสวยมากเกินไป บางทีเพราะเขาไม่รู้เหตุผลที่จะอยู่ ที่ไนท์คลับต่อไป ในใจเขาวางใจในตัวภรรยาของเขาไม่ได้ ขนาดนั้น
อีกทั้งในตอนที่เพิ่งจะทะเลาะกัน คนคนนั้นพูดในจุดที่เจ็บ ของชมรพ ในดินทีเข้าห้องหอ เขาก็ไม่เห็นมารดาจะมีเลือด จากพรหมจารีย์ แม้ว่าตอนนั้นเขาก็ไม่ได้พูด แต่ในก้นบึ้งของ หัวใจมีคําถามอยู่ตลอด แต่เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชายของ น เขาจึงไม่เคยถามออกไปเลย
ในวันนี้เขาดีมหนักจนเมา ตอนกลับถึงบ้านก็เห็นภรรยา ของตนกับชายหนุ่มคนหนึ่งพูดคุยกันอย่างถูกคอและเดิน ออกมาจากบ้านมาพร้อมกัน
ผู้ชายคนนั้นก็คือยงยศ การคุยกันของเขาและเธอเป็น เรื่องปกติเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ชยรพถูกคําพูดที่เจ็บปวดที่ม แทงใจ ยิ่งดื่มก็ยิ่งเมา พอเขาเห็นทั้งสองคนก็พุ่งตรงไปต่อย ยงยศเข้าอย่างจัง อีกทั้งยังตักเตือนเขาในเชิงข่มขู่อย่างชั่ว ร้าย
“จากนี้ไปอย่างมายุ่งกับเมียฉันอีก…
ธนิดาสับสนเป็นอย่างมาก รพ คุณบ้าไปแล้วเหรอ คุณ มมากไปแล้วนะ”
พูดจบ หล่อนก็เดินไปขอโทษยงยศ ขอโทษนะ ยศ เขา คิมเยอะไปน่ะ ยศอย่ามองว่าแปลกเลย ยศ วยรีบกลับไป ก่อนเถอะนะ”
ยงยศมองชยรพอย่างแปลกใจ เขาไม่ได้พูดอะไรและ เดินจากไปทันที
ธนิดาประคองชยรพที่เมามายเข้าไปในห้องรับแขก ใน
ตอนนั้นจารวีทีอายุสามสี่ขวบนอนหลับใหลอยู่ในห้องนอนธนีตายล่วว่าเสียงจะดังจนปลูกจารให้ตื่น เธอจึงไม่ได้ อารมณ์เลยและทําเพียงด้งใดๆออกมา
คืนนั้น ชยรพคตรนิตาลงบนโซฟา แล้วฉีกเสื้อผ้าของเธอ ออกอย่างรุนแรง
บนเรื่องรางของเธอโดนเขาทั้งแทะและกัด พลางพิมพ์ อะไรบางอย่างออกมาจากปากของเธอ ไม่อนุญาตให้นายหัก หลังฉัน ฉันไม่อนุญาตให้นายหักทรยศฉัน…
ธนิดาเจ็บแต่ทนไว้ ไม่ร้องออกมาสักคํา นํ้าตาที่ไร้เสียงก็
ไหลออกมา
วันต่อมา ชยรพไม่พูดอะไรสักคํา แต่เรื่องนั้นเป็นเหมือน กำแพงที่มองไม่เห็น ซึ่งขวางกั้นระหว่างเขาและธนิดาไว้อยู่
“ชยรพ คุณต้องขอโทษคุณยงยศนะ คุณจะไปทำร้าย คนอื่นโดยไม่มีเหตุผลไม่ได้นะ” ธนิดากัดฟันแน่น
ชยรพไม่พอใจเป็นอย่างมาก และจ้องมองธนิดาเป็นเวลา
นาน
“เมียฉันถูกคนอื่นมาตอแบตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ แล้ว ทําไมถึงไม่มีใครมาขอโทษฉันเลยล่ะ…
คําพูดที่พูดออกมาตรงๆแบบนี้ ทำให้คนรู้สึกเจ็บได้ หลุด ออกมาจากปากของเขา ธนิดารู้สึกประหลาดใจมาก เธอไม่ กล้าจะเชื่อว่าตรงหน้าของเธอคือผู้ชายที่เธอรัก
“คุณ ฉันคิดว่าคุณไม่ได้สนใจ ทำไมคุณไม่สนใจให้เร็ว กว่านี้ ทําไม
ใบหน้าของ ชรพ มีดครีม “ทําไมดาไม่บอกผม..ก่อนที่
จะแต่งงานสะ
ฉัน…ธนิดาก็ถูกความรักทำให้หลงหัวปักหัวป่า ใน ตอนนั้น เธอคิดว่าชยพรพรักเธอมากๆ เธอคิดว่าเขาไม่ได้ ใส่ใจ แต่เธอคิดแล้ว แต่ไม่ได้พูดออกมา
ชยรพมีน้ำเสียงที่เย็นชา “ผู้ชายคนนั้นคือใคร ”
ธนิตาไม่พูดอะไรออกไป เธอรู้ว่าถ้าเธอพูดออกไป บ้าน หลังนี้ต้องวุ่นแน่ๆ
แต่เพราะว่าเธอเงียบไป ชยรพจึงเข้าใจผิดว่าเธอกำลัง ปกป้องยงยศอยู่
ชยรพเริ่มที่จะแยกห้องกับเธอ เขาไปดูงานต่างจังหวัด และต่างประเทศเป็นเวลานาน เดือนนึงกลับบ้านมาแค่หน เดียว จะนับว่าไม่ได้กลับมาบ้านเลยก็ได้ และไม่ได้แสดง ความรักใคร่กับเธออีก ทั้งสองเย็นชากันมาก พวกเขากำลัง ทดสอบความรู้สึกของกันและกันอยู่
บางที เวลาอาจเปลี่ยนอะไรได้จริงๆ คนที่แต่ก่อนเคยรัก ก็กลายเป็นไม่รักอีกต่อไปแล้ว
คน แต่ก่อนไม่เคยรัก กลับค่อยๆมาอยู่ด้วยกัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในตอนที่ขยรพกลับมาบ้าน ก็เห็นธน ดานั่งตัวติดกันอย่างใกล้ชิดสนิทสนมกับยงยศ เธอเขินจนตัว แดงไปทั้งตัว
ในตอนนั้นเขาถึงจะเข้าใจว่าตัวเขาทําผิดอย่างมหันต์
เขาที่เกรี้ยวกราด ได้เอาเรื่องไปบอกกับนารี ภรรยา
รนารี มีฐานะดี ตระกูลนาท้นเลิศมีหน้ามีตาในเมือง เอส หลังจากมีพวกเขาทะเลาะกัน ก็ย้ายออกจากเมืองเอส
ขยรพไม่รู้ว่าพวกเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้ สนใจที่จะสืบหา
แต่สําหรับธนิดา ภรรยาของเขา กลับเริ่มที่จะแค้นเคือง อย่างบ้าคลั่ง
เขากลับเย็นชากับเธอยิ่งกว่าเดิม จนถึงกระทั่งพาหญิง ขายบริการเข้าบ้านต่อหน้าต่อตาของธนิดา
ธนิดามีมีทางจะทนได้ เพื่อเป็นการแก้แค้นเขา ไม่นานก็ หว่านเสน่าหมสเฉลิมชัย พี่ชายของชยรพ
คนที่รักใคร่ชอบพอกัน เปลี่ยนเป็นไม่มีวิธีจะหวนคืน ความรักกลับมาได้
ขยรพแค้นธนิดา ได้กลับคืนมาก็ไม่ได้มีความสุข แต่กลับ จิตใจหงอยเหงาเศร้าซึมไม่มีชีวิตชีวามากขึ้น
เขากับธนิดาค่อยๆเปลี่ยนสถานะจากคู่รักเป็นคู่แค้น
สุดท้ายแล้วเขาทั้งคู่ก็ทําเหมือนอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า
จนกระทั่งวันหนึ่ง ธนิดาได้รับยาพิษเกินขนาด ในคืน นั้น…เธอบอกเขาด้วยตัวเอง ว่าคนที่เธอรักมากที่สุดก็คือเขา และชาตินี้ผู้ชายที่เธอเกลียดมากที่สุดก็คือเขาเช่นกัน….
ชยรพขู่บังคับให้เธอพูดออกมา ว่าชายที่ทําลายพรหมจา รีย์ของธนิดาในคืนวันที่เข้าหอคือใคร แต่ให้ตายยังไงเธอก็ ไม่พูดแน่ๆ
สุดท้ายธนิดาก็ตาย ชยรพถึงรู้ตัวว่าโลกของเขาที่ไม่มี เธอแล้ว โลกของเขาก็เหมือนได้ถูกพังทลายลง
พอธนิดาตายจากไป ความรักและความเกลียดชังของ เขากลายเป็นเถ้าถ่าน
ดังนั้น เขาเลือกที่จะหลบหนีออกจากชีวิตทางโลก เขา จึงยกบริษัทยาหวนจํากัดให้กับเฉลิมชัย เขาไม่เต็มใจและ ยินยอมที่จะเผชิญกับการดูถูกถากถางของคนบนโลกอีกต่อ