ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น - ตอนที่ 139
ศพลถูกไฟแห่งความโกรธแผดเผา ทําให้เขาลืมไปว่าที่ นี่คือสถานีตำรวจโดยสิ้นเชิง เขาแค่คิดจะทําให้มนต์ตรีลูก ขึ้นมาไปได้อีก
มนต์ตรีก็ไม่ได้กินหญ้า เขาหลบหลีกการโจมตีของยศ พลได้อย่างยืดหยุ่น เขาถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วตะโกน ออกมาสองสามคํา
ทันใดนั้นก็มีตำรวจวิ่งมา และล็อกด้วยศพลไว้
จาร ยืนพิงก๋าแพง มองไปที่ชายร่างสูงใหญ่ทั้งสองคน อย่างงงงวย
“ปล่อยกู…ยศพลดิ้นรนขัดขืน เขาตะโกนใส่จาร “จาร นั่งกะหรี่ เธออยู่กับมัน มีความสุขมากงั้นเหรอ พอกฉันไม่อยู่ ก็ไปมั่วไปวันๆกับมัน…
ที่หางตาของจารวีมีหยดน้าตาเม็ดเล็กๆเหมือนกับคริสตัล อยู่ดีๆเธอก็เอามือปิดหน้าแล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้นอย่าง รวดเร็ว
ในสายตาของมนต์ตรีซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ แล้วยิ้มมุมปาก อย่าง งพอใจ ยศพล นายก็อย่าได้ใจมากไปล่ะ”
พูดจบเขาก็หันหลัง แล้ววิ่งตามจารวีไป ร…”
ตำารวจปล่อยด้วยศพล นิรันรีบถามอย่างทันที “คุณชาย ครับ จะให้ไล่ตามคุณจารวีไปมั้ยครับ”ตอนนี พลกำลังหัวร้อนและโกรธจัด “ไม่ต้องไปสนใจ ยัยนั้นแล้ว นั่งนั่นอยากอยู่กับใคร ปล่อยไป
กำปั้นกระแทกกับผนังอ่างแรงไปทีหนึ่ง
เจ็บ เจ็บเข้าไปถึงกระดูก ให้ตายเหอะ ทำไมเขาจะต้องมา คับอกคับใจแบบนี้ ในไม่ถึงเลยว่าเขาจะถูกผู้หญิงคนนี้หลอก นับครั้งไม่ถ้วน ถูกทรยศหักหลังจนไม่มีทางที่จะ…
มนต์ตรีวิ่งตามจารวีไป จนออกมาจากสถานีตำรวจ
ในที่สุดที่ถนนด้านนอก เขาก็หยุดเธอไว้ได้ มนตรีตรวิ่ง มาซะจนไม่ทันได้หายใจ อย่าวิ่งแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ ตอนนี้ ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ ยังมีอีกคนในท้อง ถ้าเกิด เรื่องอะไรขึ้นมา จะทํายังไง
จารวีได้แต่กดหัวต่ำลง น้ำตาไหลออกมาเม็ดๆไม่หยุด ราวกับไข่มุก เช็ดยังไงก็เช็ดไม่หมด
5. พูดอะไรหน่อยสิ อย่าทําให้ตกใจ ได้มั้ย”
มนต์ตรีเดินอยู่ด้านหลังของเธอและโดยไม่หยุดคุยกับ
เธอเลย
จารวีมีเพียงนํ้าตาที่ไหลรินและไม่เอ่ยอะไรออกมาเลยสัก คา
จารวี ทําไมเธอมันเลวทรามขนาดนี้
จารวี ทําไมเธอถึงได้เลวทราม เข้าขนาดนี้!!
เสียงของ ศพ กรีดร้องอยู่ในหูเหมือนเสียงเวทมนต์เรีย ปิดหู เพราะไม่ต้องการคิดถึงเรื่องพวกนี้
ใช่ เธอ เข้าราคาถูก เธอรู้อยู่แล้วว่าปมของบ้านโพธิสูง บบ้านพูลสวัสไม่มีทางแก้ได้ เธอเข้าไปยุ่งโดยตลอด เป็น เธอที่โง่ เธอโง่มาก…
ไม่น่าแปลกใจ เพื่อนร่วม นมองเหมือนเธอเป็นเมียน้อย โดยที่ไม่สนอะไรเลย
“เอี๊ยดดด” เสียงเบรกที่รุนแรงทําให้จารวีดินจากความ เธอ เงยหน้าขึ้นมาด้วยความมึนงงประหลาดใจ
ที่จริงเธอเดินมาถึงกลางถนนแล้ว มีรถนิสสัน ค่าจอดอยู่ ตรงหน้าของเธอ
คนขับหมุนกระจกหน้าต่างรถลงมา แล้วตะโกนใส่เธอ เสียงดังว่า “อยากตายรึไง เธอนะ ถ้าอยากตายก็อย่ามา ทําให้คนอื่นตายด้วยสิ
มนต์ตรีรีบก้าวมาอยู่ข้างหน้าเธอแล้วขอโทษคนขับทันที “ขอโทษด้วยครับ เธอไม่ได้ตั้งใจนะครับ ถ้ามีค่าเสียหาย อะไรเดี๋ยวผมจะชดใช้ให้เองครับ
“เฮ้ย ชดช้งชดใช้อะไร บอกไว้เลยนะ น้องชาย นายต้อง ดูแลเมียนายดีๆหน่อย ออกจะสวยซะขนาดนี้ กลับเดินไม่ดู ตาม้า ตาเรือ ถ้าโดนชนตายขึ้นมาคงน่าเสียดายแย่…” คนขับ คนนั้นพูดทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะปิดกระจกรถแล้วขับรถจากไป
มนต์ตรีรับประคองจารวีเดินไปที่ทางเท้า วี ถาวีไม่ สบายใจอะไรก็บอกพี่ ”
อยู่ตาจาร มีความชุ่มชื่นในใจ จบไปที่อกของมนต์ตรี แล้วร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปาก
“พิมนต์ วีจะทํายังไง ต้องทำยังไง เมนต์บอกวีที ว่า ต้อง ทํายังไง
มนต์ตรีไม่ได้พูดอะไร แววตาของเขามองไปในที่ไกลสุด ตาอย่างเงียบๆ
มนต์ตรีมองเห็นยศพลที่นั่งสง่างามอย่างผู้ดีมองเขาผ่าน กระจกหน้าต่างรถด้วยแววตาร้อนรุ่มดั่งไฟ
มนต์ตรียมมุมปากเล็กน้อยแล้วกอดผู้หญิงในอ้อมอกของ เขาให้แน่นกว่าเดิม
เสียงอันอบอุ่นดั่งฝันกระซิบลงไปที่ข้างหูของจาร ตอนนี้ เหนื่อยมากแล้ว กลับบ้านไปกับ ก่อนมั้ย
จารวีปาดน้ำตา เธอส่ายหัวเบาๆ “ไม่ล่ะ ไม่ไปค่ะ”
วางใจเถอะวี พ่อของพี่ไม่อยู่บ้าน แม่ของพี่ก็ไปอเมริกา ที่ บ้านมีแค่คนเดียว…และก็ยังมีอังคณาที่ฉันให้หล่อนมาอยู่ กับเธอ… มั้ย”
ในใจของจารวีสับสน เธอจำเป็นต้องอยู่ในที่ที่ทำให้เธอ
ใจเย็นลง
เธอถูกมนต์ตรีประคองเข้าไปในรถของเขา
“คุณขายครับ คุณจารวีขึ้นรถของมนต์ตรีแล้ว แต่พวกเขา ยังไม่ได้ขับรถออกไปครับ”
นิรันมองดูบศพลอย่างไม่สบายใจ บนใบหน้าของเพล ดูมืดหม่นและน่ากลัว มือถือในมือถูกเขากำแน่นจนแทบจะ
หลกเป็น
คุณขายครับ… นิรันถามอีกครั้งเบาๆ
” ในที่สุดยศพลก็ระเบิดอารมณ์ ออกมา นิรันลงจารรถแล้วปิดประตูรถทันที
ไปให้พ้นหูพ้นตาฉันนน…
รถสีดำถูกขับพุ่งออกไปยังธนูที่ถูกยิง
“คุณชายครับ ระวังด้วยครับ อย่าขับเรืวแบบนั้น ครับ… ร้นวิ่งตามแล้วตะโกนออกไป ลางสังหรณ์บอกได้ว่ายศพลจะ ข้มความเร็วในการเร่งเกียร์เติมอีกครั้ง
คุณชายยศพลไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ในโลกธุรกิจ เขาเป็น คน สงบนิ่งและเด็ดขาด แม้ว่าจะยังหนุ่ม แต่เขาทํางานเต็ด ขาดมาก ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาทําให้บริษัท ST กรุ๊ปจํากัด เจริญงอกงอม นี่ไม่ใช่ความสำเร็จที่ผู้ชายไร้สาระคนใดก็ สามารถทําได้ แต่หลังจากที่เจอคุณจารวี คุณยายยศพล เกรี้ยวกราดดั่งม้าป่าที่ถูกเชือกล่ามแต่ดิ้นพยศก้าวราวบ้า คลัง
เห็นได้ชัดว่าเขาไปหาธามวัดที่สถานีตำรวจ แต่เป็น เพราะเขาเจอกับมนต์ตรีและปะทะกัน จนต้องไล่ล่ากัน
นิรันส่ายหัวอย่างเหลืออดเหลือทน ความรักเป็นสิ่งที่โร แมนติกและมีความสุข แต่ทำไมมันถึงทำให้คนบ้าคลั่งได้ถึง ขนาดนี้
มนต์ตรีมเชฟรอนสีขาว เห็นได้ชัดว่าเขารักสีขาว สีขาวทำให้คนโสสะอาด ทำให้คนร่าเริง และทำให้คนกระตือน
ที่จะก้าวต่อไป
แต่ทศพลกลับขับรถโรลส์รอยซ์สีดำ เป็นสีที่เหมือน ภายในหัวใจของเขา หยิ่งผยองหุนหันพลันแล่น… ในตอนที่ มนต์ตรี กพวกมาลัย ทันใดนั้นก็มีรถสีดำคันหนึ่งขับแซงหน้า รถของเขาด้วยความเร็วที่ไม่สามารถไ
จากนั้นยศพลก็ขับรถไปจอดขวางกลางถนน มันเป็นการ ขวางทางของมนต์ตรี และยังกีดขวางการจราจรบนท้องถนน อีกด้วย หลังจากนั้นเงาอันมืดมนของยศพลก็ออกมาจากรถ แล้วเดินตรงมาที่ด้านหน้ารถของมนต์ตรี
“จารวี ออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้….
ยศพลรู้สึกแค่เพียงว่าความโกรธนั้นเผาไหม้จากภายใน
ของเขา
เขาไม่อยากเห็นจารวีอยู่ในรถกับผู้ชายคนอื่น และยิ่งกว่า นั้นคือไม่ชอบพวกเขาที่ดูสนิทกันจนออกหน้าออกตา
“เพลง…” หมัดหนักของยศผลกระแทกเข้าไปกระจก หน้าต่างของรถราวกับสัตว์ป่าชั่วร้าย ครามออกมาเสียงดัง
“จารวี เธอออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นฉันจะทุบรถคันนี้…
การเคลื่อนไหวที่ควบคุมไม่ได้ของยศพลดึงดูดความ สนใจของผู้สัญจรไปมา เขาจอดรถไว้กลางถนน ทำให้คน อื่นๆไม่สามารถขับผ่านไปได้ ดังนั้นจึงมีเสียงแตรดังไปทั่ว อย่างไม่หยุดหย่อน
ในที่สุดการจราจร จําเป็นต้องมาจากทางข้างหน้า
“จาร ได้ยินมั้ย ออกมาจากรถ เดี่ยว …
ศพลปลดกระดุมเสื้อนอกออก และเสื้อเชีร์ตด้านในของ เขาก็ถูกปลดออกมาด้วยสองสามเม็ด จากนั้นก็คลายเนคไท ให้หลวม ในตอนนี้ยศพล จนตรอกมาก
ในแววตาของมนต์ตรีมีประกายที่เต็มไปด้วยค่าสม ประมาท เขาหันไปหามองจารอย่างอ่อนโยน
“วี วีไม่ต้องกลัวนะ ให้พี่ไปคุยกับเขาดีมั้ย
จารวีนวดขมับไปมาด้วยความปวดหัว “เมนต์ ให้วีไปคุย กับเขา กว่า ”
มนต์ตรีมองเธออย่างกังวลและห่วงใย ๆ เขากำลังโกรธ อยู่นะ อาจลงไม้ลงมือจนทำให้กับลูกบาดเจ็บได้นะ ตอนนี้ เขาอารมณ์ไม่ดี วีอย่าประเมินค่าสูงไป
จารวี มอย่างขมขื่น เธออาจจะประเมินค่าเขาสูงไปจริงๆ
ก็ได้
แต่ ถ้าเขาทําร้ายวีขึ้นมาจะทํายังไง”
มนต์ตรีรู้สึกว่าในใจของตนอุ่นขึ้นมา ที่จริงแล้วเธอยัง คงแคร์เขาอยู่ “ไม่เป็นไร ข้างหน้ามีตำรวจอยู่ ถ้าเขาลงไม้ ลงมือก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
“จารวี เธอรีบออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ…
ทศพลระเบิดอารมณ์ เสียงดังจนแก้วหูจะแตก เขาใช้มา
เตะประตูรถของมนต์ตรีอย่างรุนแรง
ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันดูเหตุการณ์นี้ด้วยความตื่น เต้น ตำรวจจราจรที่รู้ตัวตนของยศพลไม่กล้าก้าวไปขัดขวาง เพียงแต่ฝ่าฝูงชนเข้าไปดูสถานการณ์
“ทุกคน หลบหน่อย แยกย้ายกันได้แล้ว ไม่ต้องดูแล้ว…
รูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา ความยิ่งผยองและหยิ่งยโส ของยศพลทําให้กลุ่มผู้หญิงมุงดูและกรีดกร๊าด พวกหล่อน อยากรู้ว่าผู้หญิงที่ทำให้ผู้ขายงานดีบ้าคลั่งได้ขนาดนี้จะ หน้าตาเป็นยังไง
มนต์ตรีหยิบแว่นกันแดดส าออกมาแล้วส่งให้กับจาร
“อย่าห่วงเลย เดี่ยว ออกไปละนะ…
มนต์ตรีเปิดประตูออก ยศพลก็เข้ามาปะทะโดยการกระ ขากคอเสื้อของมนต์ตรีทันที
เขาง้างก๋าปั้นขึ้นและเตรียมตัวที่จะชก ทันใดนั้นเขาก็ ปล่อยหมัดไป มนต์ตรี ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา วิ่งตรงไป ทีรถแล้วกระชากตัวจารวี
บนหน้าของจาร มีแว่นกันแดดสีดำอยู่อันหนึ่ง เธอก้ม หน้าลง แล้วไม่ยอมเงยหน้ามองเขา
“จารวี ออกมา ได้ยินมั้ย”
มนต์ตรีนมาดึงยศพล “เลิกตะโกนได้แล้ว หล่อนตกใจหมดแล้ว ก้านายยังทำแบบนี้โอ๊ก จะทำให้หวาดกลัวยิ่งกว่า เติมนะ คนเยอะขนาดนี้ นายจะไม่ให้มีศักดิ์ศรีสักหน่อยเห รอ”
น้ำเสียงไม่ช้าและไม่เร้า ดูนุ่มนวล ยศพลหันมาและค่อย ไปที่หน้าของมนต์ตรีทันที
มนต์ตรีไม่ได้หลบ บนใบหน้าอันหล่อเหลามีรอยยิ้มจางๆ และมองไปที่เขา
กําปั้นของยศพลไม่ได้ตอบไป นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะ ชะงักและดึงมือออก แล้วมองจารวีไปทีหนึ่ง จากนั้นก็ปิด ประตูรถ
“พวกเราไปคุยกันตรงนั้นดีกว่ามั้ย นายเอารถไปจอดข้าง ถนนตรงโน้น แล้วให้พวกไทยมุงแยกย้ายกันไปได้แล้ว ”
ยศพลมองเขาอย่างเฉยเมย หยิบกุญแจรถออกมาจากมือ แล้วขว้างมันไปที่ตำรวจจราจรขี้ขลาด
ราวกับว่าตำรวจจราจรเป็นอิสระ เขาขับรถไปจอดข้าง ทางทันที ในที่สุดถนนที่มีจราจรติดขัดก็เรียบร้อยและโล่งขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน มนต์ตรีก็เปิดประตูรถแล้วเข้านั่งใน
จาร เงยหน้ามองผ่านแว่นกันแดดที่ใหญ่เกินขนาด เผย ให้เห็นใบหน้าเล็กและขาวของเธอ
เธอเห็นใบหน้าที่มืดมนของยศยืนอยู่ข้างถนน ดวงตาของ เขาจ้องมาทีเธออย่างจริงจัง
พี่จะออกรถแล้ว จับแน่นๆล่ะ..”
“อื้อ..”จารวีตอบรับเสียงเบาๆ ในขณะที่รถของมนต์ตรีแล่น ไปข้างหน้า เงาของยศพลก็กําลังถอยห่าง
“เขา ยอมให้วีไปกับพี่เหรอ”
บนใบหน้าของมนตรีมีรอยยิ้ม เขาถือพวงมาลัยอย่าง มั่นคง “อั้ม เห็นด้วยแล้ว แต่ พรุ่งนี้ต้องพาวีไปส่งบ้าน”
“พี่พูดโน้มน้าวเขายังไงน่ะ”
“อิ่ม ไม่ยากเหมือนที่วีจินตนาการไว้หรอก”
บนใบหน้าของมนต์ตรีปรากฏให้เห็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะ การที่จะต่อยให้ล้มไม่ใช่เรื่องยาก แต่แค่รู้จุดอ่อนของเขาก็ พอแล้ว
จุดอ่อนที่ร้ายแรงของยศพลก็คือจารวี เพื่อจารวีแล้ว เขา สามารถสูญเสียการตัดสินใจของเขาอย่างช้า ๆ สูญเสียสติ ปัญญา จนกระทั่งเป็นบ้า ..
แต่ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่มนต์ตรีเป็นห่วง เขาเป็นห่วงแค่จาร ก็พอแล้ว