ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 456
ฟงอี้เฟยติดตามจิวโมไป๋โดยไม่พูดอะไรซักคำ จิวโมไป๋ก็ทำเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน เขาเดินมาถึงป้ายรอรถ เขาโบกรถยนต์โดยสาร และขึ้นนั่งด้านหลัง ฟงอี้เฟยเข้าไปนั้งด้านข้างคนขับ ทำให้คนขับมองพวกเขาทั้งสองอย่างประหลาดใจ สามารถจ้างบอดี้การ์ดได้ แต่ไม่มีรถส่วนตัว ไม่แปลกที่เขาจะประหลาดใจ
จิวโมไป๋ทำเป็น ไม่เห็นท่าทางแปลกใจของคนขับ เขาบอกจุดหมาย
“ไปที่สถานนีรถไฟฟ้าเทียนซู”
คนขับรถเร่งเครื่อง ขับรถออกไป
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานนีรถไฟฟ้าเทียนซู ฟงอี้เฟยจ่ายค่าโดยสารทันที
จิวโมไป๋จึงเดินออกจากรถ ฟงอี้เฟยตามหลังทิ้งระยะห่าง 3 เมตร
จิวโมไป๋กดกำไลข้อมือเพื่อซื๋อตั๋ว เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฟงอี้เฟย สุดท้ายเขาก็ซื้อที่นั่งชั้น 1 จำนวน 2 ใบ แต่เขาไม่เลือกที่นั่งติดกัน
พวกเขาเข้าไป ไม่นานรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ไปเมืองเทียนจินก็มาถึง พวกเขาเดินเข้าไปขบวนรถไฟฟ้าโดยสารที่มีหมายเลยที่นั่งของเขาเอง แต่ในตอนที่เขากำลังจะเข้ารถไฟฟ้า เขารู้สึกถึงการจ้องมองอย่างรุนแรง เขาใช้จิตสัมผัสแผ่ขยายออกไปทันทีโดยไม่หันไปมอง เขาก็พบว่าด้านหลังมี กลุ่มคนกำลังเดินมาเข้าขบวนรถไฟฟ้าเดียวกับเขา
เป็นชายหนุ่มอายุประมาน 20 ปี ใบหน้าหล่อเหลา ดูอบอุ่นอ่อนโยน ด้านหลังของเขามีบอดี้การ์ด 2 คนเดินประกบซ้ายขวา
ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าจิวโมไป๋เข้าไป
จิวโมไป๋เดินตาม พวกเขานั่งคนละด้าน
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงการจ้องมองที่ไม่เป็นมิตรของชายหนุ่ม
ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าอีกฝ่ายมีเจตนามาที่เขาโดยเฉพาะ
ในระหว่างที่เขากำลังนั่ง ผู้คนก็ทยอยกันเข้ามา ที่นั่งของเขามี 3 ที่นั่ง อีก 2 ที่นั่งเป็นของแม่และเด็กสาวอายุ ประมาณ 8 ขวบ
เขาอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเด็กสาว
ไม่นานรถไฟฟ้าก็เริ่มออกเดินทาง
ภาพนอกรถไฟเคลื่อนผ่านด้วยความเร็วสูง รถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เขานั่ง มีความเร็วกว่า 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่นานก็ไปถึงเมืองเทียนจิน เขาเล่นกับเด็กสาวอยู่ ก็สัมผัสได้ถึงสายตาจ้องมองอีกครั้ง เขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบก็พบว่าเป็นชายหนุ่ม ที่มองเขาก่อนขึ้นรถไฟฟ้า
จิวโมไป๋แกล้งทำเป็นไม่สนใจ คนในรถไฟฟ้าต่างทำกิจกรรมของตัวเอง
ในตอนนั้นเองสัมผัสมรณะก็ร้องเตือน ใบหน้าของจิวโมไป๋พลันเปลี่ยนไป ก่อนจะกลับมาอย่างรวดเร็ว ไม่รอช้า เขาแผ่จิตสัมผัสตรวจสอบโดยรอบ เขาเพ่งความสนใจไปที่ชายหนุ่ม แต่ก็ไม่พบอะไร จนกระทั้งเขาขยายจิตสัมผัสกว้างกว่า 10 ตารางกิโลเมตรออกไปนอกรถไฟฟ้า ใบหน้าของเขาก็ซีดทันที
รางรถไฟฟ้าตรงหน้ารถไฟฟ้าที่เขากำลังนั่ง มีรถไฟฟ้าอีกคันพุ่งมาในรางเดียวกัน ด้วยความเร็วเท่ากับรถไฟฟ้าที่เขานั่ง ความเร็ว 400 ตารางกิโลเมตรในหนึ่งชั่วโมง
ถ้ารถไฟฟ้าความเร็วสูงทั้งสองคันชนกัน ไม่มีทางเลยที่ผู้โดยสารจะรอด!
จิวโมไป๋ตัดสินใจในชั่วพริบตา
“มีรถไฟกำลังจะเข้ามาชนด้านหน้า หาที่เกาะแน่นๆ”จิวโมไป๋ใช้เคล็ดวิชาส่งเสียง ทำให้เสียงของเขากระจายไปทั่วรถไฟฟ้า เขาไม่สนใจว่าจะมีใครทำตามที่เขาบอกหรือไม่ เพราะอีกไม่กี่วินาที รถไฟฟ้าทั้งสองจะชนกัน
เขากัดฟันแน่นและโบกมือ เถาวัลย์พันร่างของคู่ แม่และลูกสาว เพื่อรับแรงกระแทก พวกเขากรีดร้องด้วยความตกใจ
จิวโมไป๋ยืนขึ้น ฟงอี้เฟยปรากฏตัวตรงหน้าของจิวโมไป๋ เขามองจิวโมไป๋ด้วยความสงสัย แต่พร้อมที่จะทำตาม
จิวโมไป๋ยกเท้าถีบไปที่ผนังหนังรถไฟฟ้าด้านข้างอย่างแรก ทำให้ด้านข้างรถไฟฟ้าหลุดออก เขากระโดดออกไปยืนด้านบนรถไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ฟงอี้เฟยตามมาติดๆ
พวกเขาอยู่กลางขบวน ถ้าจะไปด้านหน้าต้องวิ่งไปถึง 8 ขบวน จิวโมไป๋เร่งความเร็วขีดสุดกฎแห่งธาตุสายฟ้าปะทุที่ขา เขาไม่ปกปิดฟงอี้เฟย
ฟงอี้เฟยใช้ท่าทางตามมาติดๆ พวกเขาไปได้ 4 ขบวน เสียงสัญญาณเตือนก็ดังขึ้นพร้อมกับที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงเบรกกระทันหัน
เอี๊ยดดดด เอี๊ยดดดด ล้อรถไฟฟ้าบดกับราง เพื่อลดความเร็ว
มันแสดงให้เห็นว่าคนขับด้านหน้าเห็นว่ามีรถไฟฟ้ากำลังพุ่งเข้ามา
ในตอนนั้นเองทำให้จิวโมไป๋พุ่งไปถึงหน้าขบวน เขามองเห็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงอีกคันที่ตรงเข้ามาด้วยความเร็ว 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
รถไฟฟ้าความเร็วสูงพุ่งเข้าหากันด้วยความเร็ว 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าเกิดการทั้งสองคันชนกัน ไม่สามารถจินตนาการได้ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น
จิวโมไป๋ไม่รอช้า เขาตบฝ่ามือลงบนหัวรถไฟฟ้า เถาวัลย์นับไม่ถ้วนพุ่งออกมาและห่อหุ้มหัวรถไฟฟ้าพร้อมกับช่วยชะลอความเร็ว เถาวัลย์อีกสายพุ่งลงไปที่รางรถไฟฟ้าด้านหน้่า ก่อนจะหักรางรถไฟเป็นสองส่วน เถาวัลย์ตึงรางรถไฟทั้งสองสายทำเป็นทางรถไฟฟ้า แยกกัน
เมื่อทำเสร็จรถไฟฟ้าความเร็วสูงมาถึงรางที่ถูกตัด ก็ตรงไปตามรางรถไฟฟ้าเถาวัลย์ เฉียดรถไฟฟ้าที่เขายืนอยู่เพียงไม่กี่คืบ ก่อนที่มันจะพ้นรางรถไฟฟ้าเถาวัลย์และล้มลง
พอดีกับที่รถไฟฟ้าที่เขายืนอยู่หยุดลง
เขาพ้นลมหายใจด้วยความโล่งอก
เขาตรวจสอบก่อนแล้ว ว่าบนรถไฟฟ้าคันนั้น ไม่มีคนนั่ง ทำให้เขาคิดวิธีนี้ได้
จิวโมไป๋ครุ่นคิดว่าใครที่บ้าบิ่นทำแบบนี้ แต่ในชั่วขณะที่เขากำลังเหม่อ เสียงปืนก็ดังขึ้นหนึ่งนัด ก่อนที่จะมีเสียงปืนกระหน่ำยิงมานับไม่ถ้วน
เขาจับพลองสีทองและดึงมันมาหมุนควงอย่างรวดเร็ว
ปังปังปังปังปังปัง
กระสุนถูกปัดออกไปจนหมด
มองไปที่เนินเขาด้านข้างเส้นทางรางรถไฟฟ้า เขายังเห็นมือปืน 10 คน จิตสัมผัสของเขายังพบผู้บ่มเพาะพลังที่ซ่อนอยู่อีก 20 คน
มองไปที่ปืน ใบหน้าของจิวโมไป๋มืดครึม ประเทศมังกรมีกฎหมายอาวุธปืนเป็นอันดับต้นๆของโลก การจะมีปืนไว้ในครอบครองแทบเป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงปืนกล แทบเป็นไปไม่ได้ ในตอนนี้เขาเห็นปืน 10 กระบอกพร้อมกัน ไม่แปลกที่เขาจะคาดเดาเบื้องหลังของพวกเขา
ก่อนที่จะได้คิดหาคนเบื้องหลัง
มือปืนทั้ง 10 ก็กระหน่ำยิงอีกครั้ง
วูบ ฟงอี้เฟยใช้ท่าร่างพุ่งแหวกอากาศ คมดาบสายคมตัดลูกกระสุนปืนเป็นชิ้นๆ เขากระโดดลงจากรถไฟฟ้าความเร็วสูง พุ่งไปหากลุ่มมือปืนอย่างเด็ดเดียว
ใบหน้าของจิวโมไป่พลันเปลี่ยนไป
“ระวังมีคนซ่อนอยู่!”
แต่ช้าไปฟงอี้เฟยกำลังขึ้นไปบนเนินเขา
กลุ่มคนที่ซ่อนอยู่ก็โผล่ขึ้นมา เงาอวาตารสัตว์ 20 ตัวปรากฏขึ้น พลังกดดันอันแข็งแกร่งโถมไปยังฟงอี้เฟยที่กำลังขึ้นมา พลังกดดันกระแทกร่างของเขาทำให้ร่างชะงักค้างไปครู่หนึ่ง
ในตอนนั้นเองมือปืนก็เปลี่ยนตลับลูกกระสุนเสร็จก็เหนี่ยวไกปืนกลใส่ฟงอี้เฟย
จิวโมไป๋ใช้ท่าร่างย่างก้าวประกายภูต มาที่ด้านหน้าของฟงอี้เฟยและควงพลองป้องกันกระสุน
ผู้ใช้สั่งเงาอวตารให้เริ่มโจมตี
จิวโมไป๋ขมวดคิ้ว เป็นคนขององกรค์ยีนพันธุกรรมจริงๆ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
อวตารเสือดาวปราดเปรียวว่องไว มันนำหน้าเขาโจมตีจิวโมไป๋ มันตะปบกรงเล็บไปที่หัวของจิวโมไป๋
แต่ก่อนที่กรงเล็บจะมาถึง จิวโมไป๋ก็เอียงตัวหลบก่อนจะเตะไปที่ท้องอวตารเสือดาวอย่างแรง ส่งมันกลับไปชนกับอวตารสัตว์ที่กำลังมา ก่อนจะควงพลองสีทองโจมตีพวกมันเงาพลองสีทองนับไม่ถ้วนฟาดออกไปอย่างรุนแรง
ฟงอี้เฟยประหลาดใจอย่างมากที่จิวโมไป๋เลื่อนเป็นขั้นที่ 6 โลหิต ในเวลาที่พวกเขาแยกไปไม่ถึงชั่วโมง
“ตั้งสติ!”จิวโมไป๋เตือน
ฟงอี้เฟยสูกลมหายใจ ก่อนจะชักดาบและฟันออกไป พายุสายลมกวาดพวกที่เข้ามาตรงหน้าจนล้มระเนนระนาด ก่อนจะเหินร่างไปยังมือปืนที่ยิงมาอีกครั้ง เขาฟันดาบออกไป คลื่นดาบสายลมกวาดกระสุนปืนออกไป เขาเข้าประชิดก็โจมตีซ้ายขวาจัดการมือปืนจนหมด ในเวลาเดียวกัน จิวโมไป๋ก็สามารถจัดการผู้ใช้อวตารทั้งหมดได้อย่างไม่ยากเย็น
ฟงอี้เฟยกดกำไลข้อมือเพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉิน
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบโดยรอบ และดูผู้โดยสารว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ในใจของเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ในตอนนั้นเองสัมผัสมรณะของเขาก็ร้องเตือนอีกครั้ง เขาพุ่งตัวออกไปด้านข้างทันที
ฟุบ พื้นที่ห่างจากจุดที่เขายืนอยู่มีรู เขามองออกไป ถ้าเขายังยืนอยู่ตรงนั้นหัวของเขาจะถูกยิงทะลุ
“ระวังมีมือสไนเปอร์!”