ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 459
บนภูเขา ชายในชุดสีดำ ปกปิดใบหน้าผิวหนังทุกส่วนของร่างกายอย่างมิดชิด เห็นเพียงดวงตาสีน้ำตาลที่แหลมคมดุจดวงตานกอินทรี เขานอนลงกลืนไปกับพื้น สองมือจับปืนสไนเปอร์สีดำวางเรียบไปกับพื้น ท้ายปืนทับที่ไหล่ขวา ปากกระบอกปืนสไนเปอร์ชี้ตรงมายังร่างของเขา
ฝุ่นควันหายไปจนหมด จิวโมไป๋ที่กำลังย่อตัวลงมองตรงมา
ดวงตานกอินทรีมองผ่านกล้อง สบตากับจิวโมไป๋ที่มองมาพอดี
ทั้งสองมองสบตากันจากระยะไกล
จิวโมไป๋ยิ้มเย็นชา ระยะ 4.8 กิโลเมตร สมแล้วที่เป็นมือปืนสไนเปอร์ อันดับ 1 ของประเทศ
ปู๋จิงคง ก็ประหลาดใจเล็กน้อยที่จิวโมไป๋สามารถมองมาที่ตัวเองได้ทั้งๆที่อยู่ห่างกันเกือบ 5 กิโลเมตร ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่สัญชาตญาณของมือปืนสไนเปอร์ หลายปีร้องบอกว่า จิวโมไป๋สามารถมองเห็นเขาได้จริงๆ
ใบหน้าใต้ผ้าปิดใบหน้าของปู๋จิงคงเรียบเฉยไร้อารมณ์ แม้จะประหลาดใจ แต่จิตใจของเขานิ่งสงบไม่สั่นไหว เขาขยับปืนอย่างรวดเร็ว ปากกระบอกปืนสไนเปอร์ เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฟงอี้เฟย ที่ชะโงกหัวออกมาจากเนินเขา เขากดและยิงไปในทันที
ฟุบ
ลูกกระสุนพุ่งออกจากปืนสไนเปอร์ที่ปรับแต่งมาอย่างดี ด้วยความเร็ว 1,000 ต่อวินาที เพียง 4.8 วินาที กระสุนปืนก็ฟุ่งไปที่หัวของฟงอี้เฟยอย่างแม่นยำ
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสมองไปยังปู๋จิงคง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยิงมาอีกครั้ง เขาก็ถีบตัวแทบจะในวินาทีเดียวกัน ทะยานร่างไปที่เนินเขาที่ฟงอี้เฟยซ่อนอยู่ พลองสีทองกระแทกร่างของฟงอี้เฟยที่ชะโงกหน้าขึ้นมา จนกระเด็นลงไป ลูกกระสุนปืนฟุงเฉียดไหล่ของฟงอี้เฟยไปเพียงนิดเดียว
กระสุนฝังลงที่พื้น เป็นรูเล็กๆ
ฟงอี้เฟยกลิ้งตกลงไป เขาเห็นเพียงกระสุนที่เฉียดร่างของเขาไปนิดเดียวใบหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความกลัว เขาเหยียบเข้าประตูยมโลกไปแล้วก้าวหนึ่ง ถ้าจิวโมไป่ไม่ช่วยเขาได้ตายอย่างแน่นอน
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อครู่ปู๋จิงคงไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าฟงอี้เฟย กระสุนเล็งไปที่แขนของฟงอี้เฟย และกระสุนเมื่อครู่ ถึงแม้จะเร็ว แต่พลังทำลายของมันไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่นัก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายแค่ต้องการทำให้ฟงอี้เฟยบาดเจ็บ แต่กระสุนที่ยิงใส่เขาทั้งสองนัด ตั้งใจจะฆ่าเขาอย่างแน่นอน
ถ้าเหตุการณ์นี้ ไม่เกี่ยวข้องกับตู่บ่อชา เขาไม่เชื่ออย่างแน่นอน
จิวโมไป๋ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว กฎแห่งธาตุสายฟ้าไหลไปที่เท้าทั้งสองข้าง ก่อนจะหันไปหาฟงอี้เฟย
“หลบอยู่ตรงนี้อย่างโผล่หัวออกมา ฉันจะจัดการมือสไนเปอร์เอง”จบคำร่างของเขาก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงราวสายฟ้าฟาด เห็นเป็นเงาตรงดิ่งออกไป
ฟงอี้เฟยที่ได้ยินก็ตั้งสติได้ เขาจะร้องห้าม จิวโมไป๋ก็ทะยานร่างออกไปแล้ว
ปู๋จิงคงเห็นว่าฟงอี้เฟยถูกจิวโมไป๋ช่วย และกำลังจะเข้ามาหาเขาแทนที่จะหลบหนี
เขาก็ขยับปืนกลับมาที่จิวโมไป๋อย่างใจเย็น เขาได้รับภารกิจให้สังหารจิวโมไป๋อยู่แล้ว การที่อีกฝ่ายเอาคอมาให้เขายิงเอง เขาก็จะช่วยปลิดชีวิตที่ร้นหาเรื่องเอง
เขาลั่นไกปืนสองนัดซ่อน
ฟุบ ฟุบ ลูกกระสุนสองนัดทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง เพียงแค่ 4.5 วินาที ก็ถึงร่างของจิวโมไป๋ที่กำลังตรงเข้ามา
จิวโมไป๋หมุนตัวหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว กระสุนทั้งสองยิงลงพื้นที่เขาเคยอยู่ จากนั้นเขาก็ใช้ท่าร่างเร่งความเร็ว พริบตาก็ร่นระยะไปอีกเกือบ 200 เมตร
ปู๋จิงคงมองร่างที่เข้ามาอย่างใจเย็น ยิงออกไปอีก แต่จิวโมไป๋ก็สามารถโยกตัวหลบได้ทั้งหมด ปู๋จิงคงสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จิวโมไป๋จะหลบก่อนที่เขาจะยิงทุกครั้ง
ปู๋จิงคงเริ่มขยับร่างกายอย่างจริงจังมากขึ้น เขากดที่ข้างกระบอกปืน ทิ้งแม็กกาซีนอันเก่าตกลงมา หยิบแม็กกาซีนอีกอันสับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว สมาธิของเขายังคงมั่นคง เขาเหนี่ยวไกลปืนยิง 3 นัดติด
กระสุนทั้ง 3 ถูกยิงออกไปอย่างรวดเร็ว แต่น่าแปลกที่ความเร็วของกระสุนทั้ง 3 ไม่เท่ากัน
กระสุนดัดแปลงอีกครั้ง
ใบหน้าของจิวโมไป๋เคร่งเครียด เหงื่อจำนวนมากไหลอาบแก้ม การหลบของเขาดูเหมือนง่าย แต่ที่จริงแล้วเขาใช้พลังสมาธิสูงสุด จิตสัมผัสมองที่นิ้วของปู๋จิงคงที่อยู่ในไกปืน เมื่ออีกฝ่ายจะยิง เขาจะหลบไปจากระยะการยิงทันที
เมื่อระยะของพวกเขาใกล้มากขึ้น ความเร็วของกระสุนที่ออกจากกระบอกปืน มาถึงร่างของเขาจะเร็วขึ้น เพียงไม่กี่วินาที กระสุนก็ถึงร่างของเขาแล้ว ถ้าหลบไม่พ้น เขาจะถูกระสุนยิงเข้าใส่ ยากที่จะรอดชีวิตไปได้
ทำให้เขาต้องใช้พลังสมาธิทั้งหมดไม่ให้เกิดความผิดพลาด
กระสุนทั้ง 3 พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว จิวโมไป๋หลบไปด้านขวา หลบกระสุนสองนัด จากนั้นเขาก็ยกพลองสีทองก็ฟาดไปที่กระสุนอีกนัดที่ตรงเข้ามา
เปรี้ยง!
จิวโมไป๋หมุนตัวสลายการโจมตีของกระสุนฟืน ก่อนจะเร่งความเร็วพุ่งไปต่อ มือที่จับพลองเล็กสั่นเล็กน้อย
พลังโจมตีของกระสุนสไนเปอร์นั้นไม่ธรรมดา แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ชีพจรยังบาดเจ็บ ไม่แปลกเลยที่มือของเขาจะชา
จิวโมไป๋สูดลมหายใจก่อนที่ร่างของเขาจะแยกเป็น 5 ร่างแยกกันไปคนละด้าน
ระยะทางระหว่างพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เหลือเพียง 3 กิโลเมตร