ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 481 หิน หมายเลข 2
เสียงของเนี่ยฟูหานแม้จะเบา แต่ทุกคนที่อยู่รอบๆ ได้บ่มเพาะพลังจนเกินขั้นที่ 4 อวัยวะภายในเป็นอย่างน้อย ประสาทสัมผัสของพวกเขาเฉียบคมกว่าคนธรรมดาหลายเท่า พวกเขาสามารถได้ยินเสียงแผ่วเบาของเนี่ยฟูหานอย่างชัดเจน
เซียวหนานจิ้น ที่นั่งอยู่ตรงกลางด้านหลังของปรมาจารย์จิง มองไปทางซ้ายข้ามกลุ่มของปรมาจารย์คง ไปยังเนี่ยฟูหานที่นั่งทางซ้ายสุด ด้วยดวงตาแข็งกร้าว
เนี่ยฟูหานรับรู้ถึงการจ้องมอง เขาดึงตัวออกจากจิวโมไป๋ และเอนตัวพิงเบาะหลัง หันกลับไปมองด้านขวา เห็นสายตาดุดันของเซียวหนานจิ้นที่จ้องมองมา
“มองอะไร? อิจฉาใบหน้าอันหล่อเหลาของฉันเหรอ? เฮ้อ ช่วยไม่ได้นะ ก็ฉันคนมันน่าตาดี ใครๆก็อยากมอง น่าเสียดายที่ฉันไม่เข้าวงการบันเทิง ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้ลายเซ็นนายไปเก็บไว้เป็นที่ละลึก”เนี่ยฟูหานยกมือขวาเสยผมไปด้านหลัง เผยใบหน้าหล่อเหลา มุมปากเหยียดยิ้มหลงตัวเอง
เซียวหนานจิ้นกำหมัดแน่น ดวงตาแทบลุกเป็นไฟ หลานซูเมิ่งรีบจับแขนห้ามเอาไว้ เธอลูบแขนกำยำเบาๆ ปลอบให้เขาใจเย็น เธอมองไปยังจิวโมไป๋ที่ไม่ห้ามปรามเพื่อนของตัวเอง เธอรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย เธอควบคุมอารมณ์ให้เย็นลง ดึงแขนเวียวหนานจิ้นเบาๆ
“หานน้อยอย่าก่อความวุ่นวาย”ลู่หว่านหันมาดุเบาๆใส่หลานชายที่ชอบก่อเรื่องตลอดเวลา
เนี่ยฟูหานยิ้มตีหน้าซื่อ ลู่หว่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มอ่อนใจ เธอหันไปก้มหัวเล็กน้อยเพื่อขอโทษเซียวหนานจิ้น และหันกลับมาเตือนหลานชายอีกครั้ง ก่อนจะมองไปยังเวที
เนี่ยฟูหานหันไปยักคิ้วให้กับเซียวหนานจิ้น มือสองข้างยกขึ้นจัดเสื้อ ทำให้แสงแพรวพราวแสบตา
เซียวหนานจิ้นหรี่ตาหลบแสง หันหน้าถอนสายตากลับ เขาสูดลมหายใจลึกๆ บันทึกความอัปยศในครั้งนี้ลงในใจ
การทะเลาะเล็กๆของทั้งสอง ไม่มีใครสนใจนัก แต่เมล็ดแห่งความขัดแย้งได้ถูกหว่านลงไปแล้ว
บนเวที จิงมู่หยานได้เปิดผ้าคลุมเผยให้เห็น ก้อนหินพนันหยกขนาดใหญ่ 60 ซ.ม. เมตรสีเทาด้าน มีลายดอกเหมยไม่กี่ดอก แต่มีรอยเส้นบนผิวหิน เผยให้เห็นหยกสีเขียวด้านใน เส้นสีเขียวเข้มขดไปมาบนผิวหินพนันหยก ราวกับมังกรเขียวกำลังโบยบิน
“เส้นหยกชัดเจน หยกอยู่ใกล้มาก ขนาดของหยกจะต้องใหญ่มากแน่ๆ”นักพนันหยกกล่าวขึ้นเสียงดัง
“สีของหยกดูสดใส แต่เนื้อของหินพนันหยกน้อยเกินไป และหยกอยู่ตื้น ไม่รู้ว่าหยกด้านในมันจะแตกหักหรือเปล่า?”นักพนันหยกคนนึงกล่าว
“ตระกูลจิงกล้าที่จะเอาหยกก้อนนี้ขึ้นเวทีประมูล หยกภายในจะต้องสมบูรณ์อย่างแน่นอน”นักพนันคนนึงพูดขึ้นแทนตระกูลจิง
จิงมู่หยานรอให้เสียงเงียบลงและกล่าว
“เชิญขึ้นมาตรวจสอบหยกครับ”
ปรมาจารย์หยุนและลูกชายเดินขึ้นเวทีไปพร้อมกัน
พวกเขาเพ่งความสนใจไปที่รอยเส้นบนผิวหยก หยุนมู่ไคหยิบแว่นขยายขนาดเล็กขึ้นมาส่อง ปรมาจารย์หยุนคอยแนะนำอยู่ข้างๆ
1 นาทีผ่านไปพวกเขาก็ลงจากเวที
คนอื่นๆผลัดกันขึ้นไป
เมื่อทุกคนได้ตรวจสอบหยกหมดแล้ว จิ่งมู่หยานก็เริ่มการเสนอราคาประมูลทันที
“หินพนันหยก หมายเลข 2 ราคาเริ่มต้น 20 ล้านเครดิต เสนอราคาประมูลขั้นต่ำ 1 แสนเครดิต เริ่มการประมูลได้!”
“30 ล้านเครดิต!”
“40 ล้านเครดิต!”
“50 ล้านเครดิต!”
นักพนันหยกต่างเสนอราคากันอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวการเสนอราคาก็ขึ้นไป 100 ล้านเครดิต พวกเขาเสนอราคาประมูลด้วยความตื่นเต้น
นักพนันหยกต่างรู้ว่า ในการประมูลครั้งนี้ ตระกูลจิงจัดขึ้น เพื่อให้ปรมาจารย์ทั้ง 5 คน ได้แข่งขันพนันหยก เพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้กับเหมืองหยกของตัวเอง และยังช่วยให้ปรมาจารย์จิง ปรมาจารหยกของตระกูลได้แสดงความสามารถ
ในการแข่งขันของเหล่าปรมาจารย์หยก นักพนันหยกตัวเล็กๆ อย่างพวกเขา แทบจะไม่มีทางชนะการเสนอราคาได้เลย
แม้แต่เหล่าศิษย์หรือผู้ติดตามของปรมาจารย์ลงมือ พวกเขาก็ต้องพ่ายแพ้
แต่หินพนันหยกหมายเลข 2 ทำให้พวกเขามีโอกาส
ที่พวกเขาเสี่ยงดวงเสนอราคาหินพนันหยกหมายเลข 2 เพราะว่าหินพนันหยกก้อนนี้ อาจไม่มีใครเสนอราคาประมูล
ปกติแล้วการแข่งพนันหยกของเหล่าปรมาจารย์ หรือผู้ติดตาม จะเป็นการแข่งขันความสามารถในการระบุคุณค่าของหยกที่อยู่ภายในหินพนันหยก ใครสามารถวิเคราะห์และระบุราคาได้ใกล้เคียงที่สุด หรือสามารถซื้อหินพนันหยกได้ต่ำกว่ามูลค่าของมัน พวกเขาจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะไป
ถ้าสามารถซื้อหินพนันหยกและพบว่า ราคาที่เสนอประมูล น้อยกว่าราคาของหยกในหินพนัน และไม่มีใครเสนอราคามากกว่า เหมือนอย่างเตี่ยวชิงฉิงที่เสนอราคาถูกกว่าราคาหยกจริงๆ เกือบ 50 ล้านเครดิต
ก็จะได้รับการยกย่อง
ไม่แปลกเลย ที่ปรมาจารย์เตี่ยวจะเอ่ยชมลูกสาวของเธอ
หินพนันหยกหมายเลข 2 มีเส้นที่เปิดให้เห็นเนื้อหยกแล้ว โดยส่วนมากเหล่าปรมาจารย์หรือผู้ติดตามจะไม่ร่วมด้วย เพราะมันง่ายที่พวกเขาจะระบุคุณค่าของหยกภายใน
ถ้าพวกเขาแข่งกัน ราคาจะใกล้เคียงกับราคาจริงที่สุด เพราะแทบจะไม่ต้องใช้ความสามารถอะไรเลยในการวิเคราะห์หินพนันหยก เมื่อมีการแข่งขันเสนอราคาเกิดขึ้น มันอาจทำให้เกิดความผิดใจกันได้
เหล่าปรมาจารย์หยก ต่างก็มีชื่อเสียงในวงการ พวกเขาไม่อยากให้การทะเลาะของพวกเขา แผ่กระจายออกไป ทำให้ชื่อเสียงมัวหมอง
ถ้าเป็นหินพนันหยกที่ไม่เปิดเผย พวกเขายังต้องใช้ประสบการณ์ในการวิเคราะห์คุณค่าของมัน แม้จะมีการเสนอราคาและแพ้ พวกเขาได้แต่โทษประสบการณ์ที่น้อยกว่าของตัวเองได้
เพราะเหตุนี้เอง เหล่านักพนันหยก ต่างก็คิดว่าปรมาจารย์หยกและผู้ติดตามจะไม่ลงมือประมูลหินพนันหยกหมายเลข 2
พวกเขาจึงเสนอราคาอย่างดุเดือด
ราคาหินพนันหยกขึ้นไปถึง 120 ล้านเครดิตอย่างรวดเร็ว คนของปรมาจารย์หยกทุกคนไม่มีใครเสนอราคาเลย