ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 685 มีแต่เด็กเท่านั้นแหละที่ทำข้อสอบปรนัย
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 685 มีแต่เด็กเท่านั้นแหละที่ทำข้อสอบปรนัย
ทริปดูงานภาคสนามของคณะดำเนินอยู่สองวัน ตอนเช้าของวันที่สาม รถบัสก็มาจอดที่ทางเข้าโรงแรม บุคลากรในคณะต่างเดินทางกลับมหาวิทยาลัยจินหลิง
ลู่โจวไม่ได้ทำวิจัยอะไรเลยในช่วง 2 วันที่ผ่านมานี้ ทริปไปเพอร์เพิลเมาน์เทนทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ความเครียดจากตอนต้นปีได้หายไปหมดแล้ว
พอลู่โจวนั่งประจำที่บนรถบัสโดยเอาหัวพิงหน้าต่างแล้ว เขาก็เริ่มรำลึกถึงเหตุการณ์ในทริปภาคสนามครั้งนี้ เขาได้ยินเสียงคณบดีฉินกับคณบดีของคณะภาษาต่างประเทศคุยอะไรบางอย่างกันอยู่แถวหลังรถ
“ประมาณห้าถึงหกคู่น่ะ”
“ห้าถึงหกเหรอ ไม่เลวเลยนี่นา”
“เหมือนว่าเราจะได้ไปงานแต่งหลายงานในปีหน้านะ”
“อ้อใช่ แล้วศาสตราจารย์ลู่จากแผนกคณิตศาสตร์หาคนรักได้หรือยังล่ะ?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่ปรึกษาสาวจากคณะนายก็ดูเหมือนจะชอบเขานะ ใครจะไปรู้ล่ะว่าพวกเขาจะคบกันหรือเปล่า”
“ฉันจะไปถามเอง”
ลู่โจวนั่งอยู่หน้าพวกเขา เขาขมวดคิ้วและกระแอมเสียงดัง
ชายสูงวัยทั้งสองไม่ได้รู้ตัวเลยว่าลู่โจวนั่งใกล้พวกเขาแค่ไหน จากนั้นพวกเขาก็หัวเราะแห้งๆ แล้วเลิกคุยต่อ
หลังจากลู่โจวลงจากรถแล้ว เขาก็ตรงดิ่งไปที่ตึกคณะคณิตศาสตร์ทันที ระหว่างทางไป เขาก็โทรเรียกเฉินยู่ซาน
เธอรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เสียงอารมณ์ดีดังออกมาจากโทรศัพท์
“เป็นอย่างไรบ้าง? สนุกไหม?”
“ก็สนุกดีนะ”
เฉินยู่ซานยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “ดีแล้วล่ะ นายน่ะเอาแต่อยู่ในห้องแล็บ ฉันก็ห่วง นึกว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้น”
ลู่โจวจึงอธิบาย “ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก ตอนผมอยู่พรินซ์ตัน ยังมีช่วงที่ผมอยู่แต่บ้านทั้งเดือนหรือสองเดือนแหนะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากแค่ว่าสีผิวซีดลงเท่านั้นเอง อ้อใช่ ตอนผมไปเพอร์เพิลเมาน์เทนครั้งนี้ดันบังเอิญเจอหลิววั่นซานด้วย”
เฉินยู่ซานถามอย่างสงสัย “หลิววั่นซานเหรอ? หัวหน้าของบริษัทจ้งซานซินฉายคนนั้นน่ะนะ? พวกนายคุยเรื่องธุรกิจกันอีกแล้วเหรอ?”
“ก็ไม่เชิงหรอก เราแค่คุยเรื่อยเปื่อยกันเฉยๆ ” ลู่โจวหยุดพูดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “อีกไม่กี่วันหลังจากนี้จะมีการจัดประชุมรถพลังงานทางเลือกในเมืองจินหลิงขึ้น ผมอยากไปน่ะ คุณช่วยหาบัตรเชิญเข้างานให้ผมหน่อยสิ”
ถึงหลิววั่นซานจะมีบัตรเชิญสำรองให้ แต่ลู่โจวก็ไม่อยากใช้บัตรพวกนั้น
ไม่ใช่ว่าคนอย่างลู่โจวหาบัตรเชิญเองไม่ได้เสียหน่อย
เฉินยู่ซานตอบอย่างกระชับว่า “โอเค เดี๋ยวฉันจะหามาให้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วพูดต่อ “โอเค ขอบคุณนะ”
หลังจากที่วางสาย ลู่โจวก็เดินมาถึงออฟฟิศ
และไม่น่าแปลกใจเลย ที่หลัวเหวินเซียนก็มาถึงที่นั่นเรียบร้อย เขากำลังคุยเรื่องวิธีทำเมล็ดกาแฟหลายรูปแบบอยู่กับขงเจี่ย ขงเจี่ยมีรอยยิ้มของมืออาชีพอยู่บนใบหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้สนใจจะคุยกับหลัวเหวินเซวียนเลย น่าเสียดายที่หลัวเหวินเซวียนไม่สังเกตเรื่องนี้
ลู่โจวส่ายหัวแล้วขัดจังหวะการพูดคุยของหลัวเหวินเซวียน
“เลิกรบกวนการทำงานของผู้ช่วยผมได้แล้ว”
หลัวเหวินเซวียนรู้ตัวแล้วว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เขาหันไปมองผู้ช่วยขงแล้วยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน
“โอ๊ะโอ? ผมขอโทษด้วยครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดื่มกาแฟให้อร่อยนะคะ”
ขงเจี่ยยิ้มอย่างเยือกเย็นและไม่ได้พูดอะไรออกมาเพิ่ม เธอหันหลังกลับและเดินจากไป
หลัวเหวินเซวียนมองดูเดินจากไป จากนั้นก็ชำเลืองมองไปทางลู่โจวอย่างกล้าๆ กลัวๆ เขาลดเสียงลงแล้วพูดขึ้นว่า “ช่วงเวลานี้ไม่เหมาะกับการมาที่นี่นะ”
ลู่โจวกลอกตาแล้วบ่น “นี่คุณจะบ้าเหรอ ที่นี่ออฟฟิศผมนะ ออฟฟิศคุณน่ะอยู่ตึกข้างๆ ”
“ไม่ๆ คือผมหมายความว่า คุณจะไม่เอากระเป๋ากลับไปไว้ที่บ้านหน่อยเหรอ?” หลัวเหวินเซวียนเกาคอตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “ผมนึกว่าคุณจะไม่มาในวันนี้เสียแล้ว”
“น่าเสียดายนะ ผมไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้น” ลู่โจวนั่งลงที่โต๊ะของเขาแล้วกดแป้นคีย์บอร์ด ไม่นานนัก เครื่องพรินเตอร์ข้างเขาก็ส่งเสียงทำงาน
กระดาษอุ่นๆ หลายแผ่นพร้อมหมึกพิมพ์ใหม่ๆ ต่างไหลออกมาจากเครื่องพรินเตอร์ ลู่โจวคว้ากองกระดาษพวกนั้นมาแล้วเอาไปตีที่ไหล่ของหลัวเหวินเซวียนเบาๆ พร้อมกับพูดว่า “อย่างไรก็แล้วแต่ ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย วันหยุดของคุณหมดแล้ว”
“นี่มันอะไรครับเนี่ย?” หลัวเหวินเซวียนหยิบกองกระดาษ A4 มาจากลู่โจวแล้วชำเลืองมองมัน เขามีท่าทีตกใจ เขาเอ่ยขึ้นว่า “โปรเจกต์อีสต์ลูป…กำลังจะเริ่มแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
โปรเจกต์อีสต์ลูปที่ว่านั้น คือโปรเจกต์สร้างเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนวงโคจรทรงกลมขนาดใหญ่ในอวกาศ ลู่โจวเป็นสปอนเซอร์ของโปรเจกต์ และโปรเจกต์ก็ได้ผ่านระยะรีวิวเบื้องต้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มันกำลังเข้าสู่ระยะรีวิว
ในตอนนี้ มีแผนอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือตามหาพื้นที่ที่เหมาะสมบนพื้นผิวของดวงจันทร์ ส่วนอีกแผนคือสร้างพื้นที่นั้นบนวงโคจรพ้องคาบโลก[1] แผนแรกนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเขาในการลำเลียงขนส่งเพย์โหลด[2]ไปดวงจันทร์ ส่วนแผนที่สองนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเขาในการสร้างสถานีอวกาศขนาดใหญ่ในวงโคจร ไม่มีอย่างไหนที่ง่ายเลย
อย่างไรก็ตาม…
ตัวโปรเจกต์ก็ได้ผ่านเข้ารอบการตรวจสอบขั้นต้นไปแล้ว
หลัวเหวินเซวียนรู้สึกอัศจรรย์ใจมาก
ลู่โจวมองเขาพลางยักไหล่แล้วพูดขึ้นว่า “ผมเคยคุยเรื่องวิชาการเล่นๆ กับคุณด้วยเหรอ? ผมพูดจริง และตอนนี้ผมก็กำลังทำจริง”
ลู่โจวนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดต่อ “โปรเจกต์นี้เข้าสู่ระยะออกแบบเรียบร้อยแล้ว พวกเราร่วมมือกับหน่วยงานหลายแห่ง อย่างสถาบันฟิสิกส์และสถาบันคณิตศาสตร์ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน เช่นเดียวกับองค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีน สถาบันฟิสิกส์พลังงานสูง และอื่นๆ อีกมาก ผมอยากให้คุณไปทำงานในกรุงปักกิ่งสักพัก”
“กรุงปักกิ่ง…เหมือนไปเที่ยวเพื่อทำงานน่ะเหรอ?”
“ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่า คุณไม่อยากไปเหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น คือผมแค่…” หลัวเหวินเซวียนดูเป็นกังวลนิดหน่อยขณะพูด “คุณคงจะไม่ส่งผมออกไปที่อื่นแค่เพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ใช่ไหม?”
เมื่อเห็นว่าหลัวเหวินเซวียนมีท่าทีกระวนกระวายแค่ไหน ลู่โจวก็แอบยิ้มในใจ
เป็นความผิดของคุณเองที่วันๆ เอาแต่ดื่มกาแฟในออฟฟิศผม ทีนี้พอใจหรือยังล่ะ?
แน่นอนว่าลู่โจวไม่ได้ตั้งใจจะทำลายชีวิตรักที่หลัวเหวินเซวียนหวังจะสร้างกับคู่รักในอนาคตของเขา…ตัวลู่โจวเองยังไม่มีเวลามาดูแลชีวิตรักตัวเองเลย
แต่การกระทำของหลัวเหวินเซวียนมันชักจะเริ่มตลกไปหน่อยแล้ว
ก็เผื่อเอาไว้ ลู่โจวรู้สึกว่ามันน่าจะดีกับเขาและช่วยให้เขาใจเย็นลงได้บ้าง
“ไม่เอาน่า เรากำลังพูดถึงปักกิ่งกันอยู่นะ มันก็เป็นแค่ไปเที่ยวเพื่อทำงาน อีกหกเดือนเดี๋ยวคุณก็กลับมานี่แล้ว ผมว่าการที่คุณได้ไปจากที่นี่ ทำใจให้เย็นลง จะเป็นสิ่งที่ดีกับคุณนะ” ลู่โจวเอ่ยขณะมองดูสีหน้าไม่เต็มใจของหลัวเหวินเซวียน เขารู้ว่าหลัวเหวินเซวียนจะต้องไม่เชื่อฟังคำพูดของเขาแน่ๆ เขาจึงพูดต่อว่า “ถ้ามีความคืบหน้างานอะไร คุณสามารถรายงานกับผู้ช่วยขงได้โดยตรงเลย”
หลัวเหวินเซวียนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมา พร้อมกับมีท่าทางมีความสุขในขณะที่พูดขึ้นว่า “พวก ขอบคุณนะ!”
ลู่โจวขมวดคิ้วและเอ่ยเตือนเขา
“ผมขอเตือนเลยนะ งานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
หลัวเหวินเซวียนยิ้มแล้วเอ่ยว่า “วางใจได้ ผมรู้อยู่แล้วว่าอะไรสำคัญที่สุด!”
ลู่โจว “…”
ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ
แต่ถึงหลัวเหวินเซวียนจะพูดติดตลกแค่ไหน เขาก็ไม่เคยทำให้ลู่โจวผิดหวัง
พอลู่โจวคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเล็กน้อย
หลัวเหวินเซวียนเอ่ยขึ้น “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปแล้ว…อ้อใช่”
ลู่โจว “อะไรเหรอ?”
หลัวเหวินเซวียนจ้องกระดาษ A4 ในมทอแล้วลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “สัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์นั่น…มันก็ผ่านมานานแล้วนะ คุณยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ?”
ถึงสัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์จะไม่ได้อยู่ในแผนของโปรเจกต์อีสต์ลูป ลางบอกเหตุของหลัวเหวินเซวียนก็บอกเขาว่า โปรเจกต์นี้ทำมาเพื่อสัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์ที่ว่า
หรืออย่างน้อย ส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้ก็ทำมาเพื่อสัญญาณนั่น
ลู่โจวหยุดนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะยิ้มเยาะ
“คุณเคยเห็นผมยอมแพ้อะไรด้วยเหรอ?”
…………………………………………………
[1] วงโคจรที่มีคาบการโคจรเท่ากับคาบการหมุนรอบตัวเองของโลก
[2] อุปกรณ์ใดๆ ก็ตามที่สามารถรองรับภารกิจของดาวเทียมให้สำเร็จได้