ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 792 สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 792 สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
ท้ายที่สุดแล้ว อเมริกาก็ไม่ได้โอนเงินมาให้
เงินจำนวนมากขนาดนี้ไม่สามารถทำการโอนได้ทันที มันจะต้องผ่านเส้นการโอนพิเศษของธนาคาร
ลู่โจวไม่ได้คิดว่าพวกอเมริกาจะจ่ายจริงๆ…
“พวกอเมริกันจะจ่ายจริงๆ เหรอ?” ลู่โจวพูดกับผู้อำนวยการหลี่
เขาคิดถึงมันอย่างระมัดระวังและพบว่ามันฟังดูเข้าท่า มันไม่ได้เกี่ยวกับเงินอีกต่อไป
ไม่ต้องพูดถึงที่ทำเนียบขาวสัญญาว่าจะจ่ายค่าใช้จ่าย และถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สัญญา ทำเนียบขาวก็จะไม่ปล่อยให้จีนจ่ายเงิน
มันคงดูน่าละอายสำหรับอเมริกา ถ้าพวกเขาปล่อยให้จีนใช้เงินรักษาคนของตัวเอง
ผู้อำนวยการหลี่พยักหน้าและพูดว่า “เลขาการคลังของอเมริกาได้เชิญเจ้าหน้าที่การทูตที่วอชิงตันเมื่อเช้านี้ พวกเขาบอกว่าเงินจำนวน 1.7 พันล้านดอลลาร์มันสูงเกินไป และพวกเขายอมที่จะจ่ายแค่พันล้านดอลลาร์”
พันล้านดอลลาร์!
ลู่โจวรู้สึกว่ามือตัวเองสั่น
เขากระแอมและพูดตอบ “พันล้านก็พอแล้ว”
แต่ว่าผู้อำนวยการหลี่ดูไม่ค่อยดีใจ
“เราจะพยายามหาให้มากขึ้น แต่ทำเนียบขาวยินดีที่จะจ่ายแค่พันล้านดอลลาร์…มันพอสำหรับคุณใช่ไหม? ถ้าไม่พอ เราให้คุณเพิ่มได้นะ”
ปฏิบัติการช่วยเหลือครั้งนี้ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์และเกียรติระดับนานาชาติได้อย่างมาก สิ่งนี้คุ้มค่ากับเงิน
ถึงแม้ว่าลู่โจวเป็นหัวหน้านักออกแบบของคณะกรรมการการโคจรรอบดวงจันทร์ สตาร์สกายเทคโนโลยีเป็นบริษัทส่วนตัวของเขา ถ้าสตาร์สกายเทคโนโลยีต้องใช้เงินจำนวนมากขนาดนั้นสำหรับปฏิบัติการช่วยเหลือ มันก็สมเหตุสมผลที่รัฐบาลกลางจะสนับสนุนค่าใช้จ่าย
ท้ายที่สุดแล้ว บริษัทไฮเทคก็คืออนาคตของประเทศ จีนอยากให้บริษัทพวกนี้เติบโต
แต่หลังจากที่ลู่โจวได้ยินคำของผู้อำนวยการหลี่ ลู่โจวส่ายหน้า
“ไม่มีทางที่มันจะมีราคาสูงขนาดนั้น เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่มากสุดที่สองถึงสามร้อยล้านดอลลาร์”
ผู้อำนวยการหลี่ตกตะลึง
“แค่สองถึงสามร้อยล้านดอลลาร์? งั้นบิลค่าใช้จ่าย 1.7 พันล้านดอลลาร์นั้น…”
ลู่โจวหัวเราะ
“ใช่แล้ว มันเป็นเทคนิคต่อรอง”
ผู้อำนวยการหลี่ “…”
การเรียกเก็บเงิน 1.7 พันล้านนั้นมากเกินไปจริงๆ นอกจากนี้ สิ่งนี้ควรจะเป็นภารกิจบรรเทาทุกข์มนุษย์
จริงๆ แล้ว ลู่โจวไม่ได้วางแผนหาเงิน เขารู้ว่าอเมริกาจะเสนอเงินกลับมาน้อยกว่า ซึ่งเขาก็จะตอบรับข้อเสนออย่าง ‘เสียไม่ได้’
เขานึกไม่ถึงว่าทำเนียบขาวจะใจป้ำ ลู่โจวเกือบรู้สึกละอาย
ลู่โจวคิดอยู่สักพักและไม่รู้สึกดีกับสิ่งที่เขากำลังทำ
“หรือผมควรเปลี่ยนราคา?”
“ไม่จำเป็นเลย…คุณช่างใจเหี้ยมเสียจริง” ผู้อำนวยการหลี่คิดอยู่สักพักและพูดว่า “เอาแบบนี้ไหม…บอกพวกเขาว่าเราจะรับผิดชอบ 700 ล้านดอลลาร์ที่เหลือเอง”
700 ล้านดอลลาร์ที่เหลือ?
หนึ่งพันล้านดอลลาร์นั้นมากพอแล้ว คุณหมายความว่าอย่างไรที่จ่ายส่วนที่เหลือ?
ลู่โจวรู้ทันทีว่าผู้อำนวยการหลี่หมายถึงอะไร
เขาถอนหายใจและตอบกลับ “ผมคิดว่าผมใจเด็ด…ผมไม่คิดว่าคุณจะใจเด็ดมากกว่าอีก”
ผู้อำนวยการหลี่พูดต่อ “คุณหมายความว่า…ถ้าเกิดพวกเรามีค่าใช้จ่ายลับอื่นๆ? อย่างเช่นค่าใช้จ่ายสารคดี ‘ช่วยเหลือดาวอังคาร’ ? แน่นอนว่าเมื่อสื่อถามเรา บอกพวกเขาไปว่าเราใช้เงินไป 1.713 พันล้าน พวกอเมริกาจ่ายเงินส่วนพันล้าน ส่วนพวกเราจ่าย 713 ล้านที่เหลือ…”
ลู่โจวอดถามไม่ได้ว่า “เงิน 130 ล้านมาจากไหน?”
ผู้อำนวยการหลี่จิบชาและพูดตอบกลับ “มันดูจริงมากกว่าแบบนั้น”
ลู่โจว “…”
…
ในอีกมุมหนึ่ง
ณ สำนักงานใหญ่นาซา
ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินโครงการแอรีส
ประธานาธิบดียืนข้างแผงควบคุมโดยไขว้มือไว้ข้างหลัง เขามองดูจุดสีเขียวที่กะพริบบนจอใหญ่ รวมทั้งเส้นวิถีสีเขียว
จุดสีเขียวคือสตาร์ไลท์บินไปทางดาวอังคารเพื่อทำภารกิจช่วยเหลือ ประธานาธิบดีอารมณ์ไม่ดี
มันผ่านมาแล้วยี่สิบปีจากเหตุการณ์โคลัมเบียซึ่งมีนักบินอวกาศถูกฆ่าสิบสามคน
พูดกันตามตรง ประธานาธิบดีคงยอมปล่อยให้นักบินอวกาศอีกเจ็ดคนเสียชีวิตแทนที่จะให้โซเวียตได้เศษซากของโคลัมเบียไป…เขาแน่ใจว่าจอร์จ ดับบลิว บุชคงคิดเหมือนกัน
แต่มันเป็นแค่สถานการณ์สมมติ มันไม่มีทางที่โซเวียตจะได้เศษซากไป
แต่ว่าตอนนี้…
ดูเหมือนว่าจีนจะได้เศษซากไป
ประธานาธิบดีเอียงหัวและมองผู้อำนวยการคาร์สัน
“สถานการณ์ที่นิวเวอร์จิเนียเป็นอย่างไรบ้าง?”
คาร์สันพูดว่า “ชาวอาณานิคมมีอารมณ์มั่นคง เราได้บอกพวกเขาแล้วว่ามียานอวกาศช่วยเหลือกำลังมุ่งไปดาวอังคารแล้วพวกเขาจะมีเชื้อเพลิงมากพอสำหรับเที่ยวบินกลับครับ…”
ประธานาธิบดีพยักหน้าและส่งสัญญาณให้คาร์สันหยุดพูด
ผ่านไปสักพัก ประธานาธิบดีพูดขึ้น
“เฟสที่สองของโครงการแอรีสได้ล้มเหลวโดยสมบูรณ์ พวกเราต้องเริ่มจัดการความเสียหาย
ยานอวกาศ BFS ถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์การสื่อสารอวกาศที่ล้ำหน้าที่สุด กล่าวได้ว่ามันดีกว่าที่จะปล่อยให้จรวด BFS ชนดีกว่าจะให้จีนได้ยานอวกาศไป”
มันไม่ใช่แค่อุปกรณ์สื่อสาร แต่ยานอวกาศยังมีระบบความปลอดภัยชีวภาพที่ควบคุมสภาพแวดล้อมละวัสดุป้องกันรังสีคอสมิค พวกมันเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยจากบริษัทการบินและอวกาศอเมริกัน
ถึงแม้ว่าจีนอาจจะนำในด้านระบบการขับเคลื่อนทรัสเตอร์ไอออน แต่ชาวอเมริกันก็เป็นผู้นำในเทคโนโลยีการบินและอวกาศด้านอื่นๆ
ยานอวกาศ BFS เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีจากภารกิจปล่อยยานอวกาศนับไม่ถ้วน ถ้าพวกเขาปล่อยให้จีนได้เทคโนโลยีไป มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศจีน
เมื่อผู้อำนวยการคาร์สันได้ยินเกี่ยวกับแผนบ้าคลั่งของประธานาธิบดี เขาเริ่มมีเหงื่อแตกจากหน้าผาก
เขากำลังพูดถึงการทำลายยานอวกาศมูลค่าพันล้าน!
ยังไม่นับเรื่องที่ว่า…
“แต่อุปกรณ์ส่งสัญญาณพลังงานสูงที่ BFS เป็นหนทางเดียวที่เราจะติดต่อกับนิวเวอร์จิเนียได้ ถ้าเกิดเราพังยานอวกาศ BFS…”
“การชนจะเกิดขึ้นหลังจากสตาร์ไลท์ของจีนเข้าวงโคจรดาวอังคาร…เราสามารถหาข้ออ้างได้และบอกว่ายานอวกาศล้มเหลว” ประธานาธิบดีพูดต่อ “ไม่มีใครจะอยู่บนยานอวกาศอยู่แล้ว มันจะเป็นแค่เศษเหล็กที่หล่นจากท้องฟ้า”
ผู้อำนวยการคาร์สันพูดว่า “แต่…ถ้ายานอวกาศ BFS ถูกทำลาย นิวเวอร์จิเนียจะถูกตัดขาดจากช่องทางการสื่อสารของเรา สิ่งนี้อาจจะทำให้การช่วยเหลือยากลำบากขึ้นนะครับ”
“พระเจ้าจะช่วยฮีโร่ของเรา” ประธานาธิบดีพูดขึ้น เขามองดูจอคอนโซลขนาดใหญ่และพึมพำกับตัวเอง “ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น เราจะสวดมนต์ให้กับพวกเขา”
………………………………………………………..